วงการวิทยาศาสตร์มีเรื่องให้ตกตะลึงอีกครั้ง เมื่อนักวิทยาศาสตร์ตรวจพบปริมาณน้ำในอุกกาบาตดาวอังคารก้อนหนึ่ง ซึ่งมีมากกว่าอุกกาบาตดาวอังคารทั่วไปถึง 10 เท่า ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า ในอดีตดาวอังคารเคยมีน้ำอยู่นานแค่ไหน และเหตุใด น้ำจะระเหยไปทั้งหมด จนกลายสภาพเป็นทะเลทรายเช่นในปัจจุบัน
เว็บไซต์ดิสคัฟเวอรีเปิดเผยข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับอุกกาบาตดาวอังคารอายุกว่า 2,100 ล้านปี ที่สร้างความฮือฮาให้แก่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก เนื่องจากนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก ได้ตรวจพบปริมาณน้ำในอุกกาบาตดังกล่าว มากกว่าหินอุกกาบาตดาวอังคารก้อนอื่นๆ ที่เคยค้นพบก่อนหน้านี้ถึง 10 เท่า ซึ่งการค้นพบครั้งนี้ นำมาซึ่งคำถามที่ว่า ในอดีตดาวอังคารเคยมีน้ำจริงๆหรือไม่ และหากมีจริง นานแค่ไหนแล้ว ที่ดาวอังคารเคยมีสภาพที่เหมาะสมต่อการดำรงชีวิต
หินอุกกาบาตก้อนนี้ มีชื่อว่า Northwest Africa หรือ NWA 7034 ถือเป็นหินที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดเป็นลำดับที่ 2 ของหินอุกกาบาตดาวอังคารทั้งหมด ที่เคยมีการค้นพบบนโลกนี้ โดยมันมีขนาดเท่ากับลูกเบสบอล และมีน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า NWA 7034 เป็นหินที่อยู่ในยุคของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศบนดาวอังคาร จากเดิมที่เคยอบอุ่นและชื้น กลายเป็นร้อน แห้งแล้ง และมีสภาพเป็นทะเลทรายเหมือนในปัจจุบัน ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว ชั้นบรรยากาศของดาวอังคารถูกทำลายไป จนทำให้น้ำบนพื้นดินระเหยไปทั้งหมด
โดยหลังจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์นั้นพบว่า NWA 7034 มีปริมาณน้ำมากถึง 6,000 ส่วน จาก 1 ล้านส่วน ขณะที่ อุกกาบาตก้อนอื่นๆของดาวอังคาร มีปริมาณน้ำโดยเฉลี่ยเพียงแค่ 200-300 ส่วน ใน 1 ล้านส่วนเท่านั้น โดยปริมาณน้ำที่พบใน NWA 7034 นั้น เทียบเท่ากับปริมาณน้ำของหินบะซอลต์ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟบนโลก
การค้นพบในครั้งนี้ ถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ชี้ว่า ดาวอังคารเคยมีน้ำอยู่นานพอสมควร และการระเหยของน้ำอาจจะค่อยๆเกิดขึ้นทีละเล็กทีละน้อย จนกระทั่งหมดไปในที่สุดก็เป็นได้ โดยในขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อค้นหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับช่วงเวลาที่ดาวอังคารมีน้ำ และสาเหตุที่ทำให้น้ำบนดาวอังคารระเหยไป ซึ่งปริศนาดังกล่าว เป็นสิ่งที่เคลือบแคลงใจนักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์มานานหลายสิบปี
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
