“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่า การแต่งหน้าในทุกวันของคุณจะไม่ทำร้ายสุขภาพผิวหน้าอย่างแท้จริง ! หากคุณแต่งหน้าเพื่อเพิ่มความมั่นใจ และให้หน้าสวยเรียบเนียนตลอดวัน แน่ล่ะว่ามันต้องช่วยกลบ-ปกปิดให้คุณดูเป๊ะเว่อร์ได้อยู่แล้ว แต่ทว่าใบหน้าภายใต้ความสวยชวนดึงดูดนั้น ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่คุณใช้อาจกำลังทำอันตรายกับผิวหน้าของคุณอยู่ก็เป็นได้ รวมทั้งนิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ ก็ส่อทำลายสุขภาพผิวไม่รู้ตัว !

1. ยังคงใช้เมคอัพที่หมดอายุ
ก็รู้อยู่ว่ามันน่าเสียดาย แต่คุณอย่าลืมนะว่าผลิตภัณฑ์ทุกอย่างล้วนมีอายุการใช้งาน เมคอัพตัวโปรดของคุณก็เฉกเช่นเดียวกัน คนส่วนใหญ่มักไม่ทิ้งผลิตภัณฑ์ทั้งๆ ที่มันควรจะทิ้งได้นานแล้ว ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เราอยากให้คุณมองว่า ขนาดอาหาร หรือผลิตภัณฑ์นมต่างๆ ยังมีวันหมดอายุ เก็บไว้ก็มีแต่เสียและบูดไป จนคุณต้องนำมาทิ้งเพราะทานไม่ได้แล้ว

นับประสาอะไรกับเมคอัพที่คุณใช้อยู่ทุกวัน นานวันเข้ามันก็ต้องเสื่อมประสิทธิภาพเป็นธรรมดา และหากคุณยังดื้อดึงที่จะใช้มัน แน่ละว่ามันก็ย่อมให้ผลเสียกับผิวสวยของคุณตามมา …


“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

ยกตัวอย่าง มาสคาร่าที่คุณใช้ ถึงแม้ในหลอดจะยังไม่หมดก็ตามที แต่คุณก็ควรโยนมันทิ้งหลังจากเปิดใช้ 3 เดือน คุณอย่าคิดว่าประสิทธิภาพจะคงทนอยู่ตลอด ไม่อย่างนั้นแล้ว มันอาจนำมาซึ่งความเสี่ยงของการอักเสบบนใบหน้า ไม่ว่าจะทำให้ดวงตาคุณระคายเคือง (ตาออกสีชมพูนิดๆ จากการอักเสบ) ผิวหน้าแห้งลอก และเกิดผดผื่นต่างๆ ที่นานเท่าไรก็ไม่หายสักที

จำไว้ว่าเมื่อคุณเปิดใช้ผลิตภัณฑ์ใดๆ นั่นจะเป็นการเริ่มต้นสะสมแบคทีเรีย และสิ่งสกปรกต่างๆ ฉะนั้นแล้วผลิตภัณฑ์ที่นำมาใช้กับจุดที่อ่อนโยนของใบหน้า คุณควรต้องมีการทำความสะอาดให้ดี และหมั่นเปลี่ยนผลิตภัณฑ์อยู่บ่อยๆ

ป.ล. เกือบทุกผลิตภัณฑ์จะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกคุณว่า นานแค่ไหนที่คุณสามารถใช้ได้ จำไว้ว่าอย่าใช้เกิน วัน/เดือน/ปี ที่กำหนด อย่างไรก็ตาม มาสคาร่า และอายไลเนอร์ โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาการใช้ที่สั้นที่สุด แนะนำว่าควรเปลี่ยนหลังการเปิดใช้ 3 เดือน …

 

2. ใช้เมคอัพร่วมกับเพื่อน
คุณแชร์ใช้สิ่งของร่วมกับเพื่อน อย่างเสื้อผ้า เครื่องประดับต่างๆ ยังพอได้ แต่หากเป็นเมคอัพที่คุณใช้เป็นประจำคงต้องคิดใหม่แล้วล่ะ เพราะไม่ว่าจะเป็นลิปสติกสีโปรด แป้งพัฟปกปิดเรียบเนียน หรืออายไลเนอร์คมกริบ มันก็สามารถเป็นแหล่งนำพา และแพร่แบคทีเรียต่างๆ มาสู่ใบหน้าคุณได้ (คุณรู้หรอ ว่าใบหน้าเพื่อนคุณเจอมลภาวะอะไรมาบ้าง และมีสิ่งสกปรกสะสมตกค้างอยู่มากเท่าไร ?)

นั่นจะทำให้หน้าคุณเกิดผดผื่น สิวเสี้ยน และสิวเม็ดน้อยใหญ่ตามมา ยิ่งบางคนที่ไม่เคยแพ้เครื่องสำอาง และไม่เคยมีผดผื่นขึ้นมาก่อน หากอยู่ๆ ผดผื่นคุณขึ้นยิบยับเต็มใบหน้า หลังจากที่คุณให้เพื่อนยืมใช้เครื่องสำอางซะงั้น ก็ขอให้คุณรู้ได้ทันทีเลยว่ามันเกิดจากอะไร!


“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

การใช้เมคอัพร่วมกับเพื่อนถือเป็นสิ่งต้องห้ามเลยก็ว่าได้ เพราะคุณไม่สามารถรู้ได้เลยว่า เพื่อนคุณทำความสะอาด-ดูแลผิวหน้าดีมากเท่าไร ถ้าคุณให้เพื่อนยืมโดยเฉพาะอย่างยิ่งแปรงแต่งหน้า (แหล่งซ่อนตัวชั้นดีของแบคทีเรีย และเชื้อโรค)

และหากใบหน้าของคุณมีบาดแผล หรือเกิดการอักเสบของสิวในขณะเดียวกัน มันก็ยิ่งทำให้ใบหน้าคุณได้รับแบคทีเรียได้ง่าย และเกิดการอักเสบเป็นทวีคูณ หรือถ้าคุณให้เพื่อนยืมมาสคาร่าด้วยแล้ว คุณก็อาจเสี่ยงกับการอักเสบของดวงตา อย่างโรคตาแดง ได้เช่นกัน

 

3. หลับทั้งเมคอัพหนาเต๊อะ
คุณมีเวลาตื่นเช้าแต่งหน้าได้ แต่พอตกกลางคืนกลับเหนื่อย-ขี้เกียจล้างมันออกซะอย่างนั้น แบบนี้คุณต้องตื่นมาพร้อมกับปัญหาใหญ่แน่ๆ ก็เพราะทั้งสิว สิวเสี้ยน ผดผื่นต่างๆ อีกทั้งรอยตีนกา/ริ้วรอยก่อนวัย จะมาตามราวีคุณให้เสียเซลฟ์ตลอดวันรุ่งขึ้นน่ะสิ

ไม่ว่าคุณจะงีบหลับ หรือเผลอหลับไปทั้งๆ ที่เมคอัพหนาเต๊อะ พร้อมมลภาวะที่เจอมาตลอดวันยังค้างอยู่บนใบหน้าก็ตาม คุณรู้ไหมว่า นั่นจะเป็นการเพิ่มอายุตัวเลข และริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า (โดยเฉพาะรอยตีนกา) ทำให้ใบหน้าดูแก่ก่อนวัยอันควร อีกทั้งยังนำไปสู่การเกิดรูขุมขนอุดตัน และการสะสมเชื้อโรค-แบคทีเรียจำนวนมากบนใบหน้าด้วย


“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

สำหรับบางคนที่มีใบหน้ามันเยิ้มระหว่างการนอนหลับ (ต่อมไขมันผลิตไขมันออกมามาก) เมื่อคุณทิ้งตัวลงนอน และปล่อยให้ใบหน้าต้องผจญกับสิ่งสกปรกตกค้างตลอดคืน โดยไม่ได้ล้างออกนั้น นอกจากจะเป็นการหมักหมมเชื้อโรค-แบคทีเรียมากกว่าเดิมแล้ว

ความมันเยิ้มบนใบหน้าก็อาจทำให้เมคอัพไหลเข้าสู่ดวงตาของคุณได้ ซึ่งนั่นทำให้พอตื่นเช้ามาดวงตาของคุณเกิดการระคายเคือง และชมพูแดงระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งอาจทำให้เกิดตุ่มเม็ดเล็กๆ (เหมือนเม็ดสิวไม่มีหัว หรือก้อนไขมันอุดตัน) รอบๆ ดวงตาของคุณ

4. ชอบติด/ต่อขนตาเป็นประจำ

หากคุณชอบติดขนตาเพื่อความมั่นใจระหว่างวัน สิ่งหนึ่งที่คุณต้องพึงระวังให้มากๆ เลยก็คือ กาวติดขนตา เพราะคุณรู้ไหมว่า กาวติดขนตาบางตัวนั้นมีส่วนประกอบของก๊าซ ‘ฟอร์มาลดีไฮด์’ ซึ่งถ้าคุณใช้กาวในปริมาณที่มาก มันก็ส่งผลให้ดวงตาของคุณเกิดการระคายเคืองได้ (โดยเฉพาะบริเวณช่วงตาด้านบนที่ต่อขนตา)

และเมื่อคุณเผลอไปเกา หรือขยี้ตา มันก็จะทำให้ดวงตาเกิดการอักเสบแดงตามมา พร้อมกันนี้ถ้าคุณใช้บ่อยเข้าด้วยกาวที่ไม่มีคุณภาพ มันอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขนตาจริงของคุณเปราะบาง และหลุดขาดได้ง่าย


“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

ฉะนั้นแล้วจะดีกว่าไหม ถ้าคุณเลือกใช้กาวติดขนตาที่มีคุณภาพ หรืออาจเป็นยี่ห้อที่คนส่วนใหญ่รู้จัก-นิยมใช้กัน และไม่ใช่กาวในปริมาณมากเกินไปต่อครั้ง เพื่อดวงตาคู่สวยอย่างปลอดภัยของคุณ !

 

5. ใช้ดินสออายไลเนอร์เขียนตาด้านใน

เมคอัพทุกอย่างหลังการเปิดใช้ล้วนแต่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และแบคทีเรีย ไม่เว้นแม้แต่ดินสออายไลเนอร์ ที่ดูเหมือนจะปลอดภัยที่สุด แต่ความจริงแล้วกลับเป็นหนึ่งในเมคอัพที่น่ากลัวที่สุด ! ตามธรรมชาติแล้วดวงตาของคุณมีแบคทีเรียซ่อนอยู่ และเมื่อคุณเอาดินสออายไลเนอร์ไปเขียนขอบตาด้านใน แบคทีเรียก็ยิ่งแพร่กระจายมากขึ้น

คุณลองคิดดูว่า แบคทีเรียที่ไปเกาะสะสมอยู่บนดินสออายไลเนอร์ บวกกับสิ่งสกปรกต่างๆ จากภายนอกเข้ามาอีก เมื่อคุณนำมาใช้เขียนขอบตาอีกครั้ง มันจะเป็นการนำพาแบคทีเรีย และเชื้อโรคเข้าสู่ดวงตาของคุณอีกขนาดไหน อีกทั้งมันจะเกิดการสะสมมากขึ้นๆ เรื่อยๆ ในแต่ละครั้งที่คุณใช้ (ถึงหลังใช้คุณจะเก็บมันไว้อย่างดีก็เถอะ) จนเลวร้ายกว่านั้นมันอาจทำให้ดวงตาคุณติดเชื้อ เกิดการอักเสบ และรู้สึกคันอยู่ตลอดเวลา แถมยังเกิดต่อมไขมันอุดตันเป็นเม็ดเล็กๆ บริเวณรอบดวงตาอย่างเห็นได้ชัดด้วย

ที่มา : womenshealthmag.com

“5 นิสัยการแต่งหน้าแบบผิดๆ” ที่ส่อทำลายสุขภาพผิวบอบช้ำ !

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์