รังนกมีประโยชน์จริงหรือไม่


รังนกมีประโยชน์จริงหรือไม่

ชาวจีนโบราณถือว่ารังนกเป็นอาหารบำรุงชั้นเยี่ยม มีสรรพคุณในการรักษาโรค โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ ช่วยบำรุงปอด บรรเทาอาการไอเรื้อรัง และช่วยฟื้นฟูร่างกายในระยะพักฟื้น อีกทั้งช่วยบำรุงสุขภาพเด็กที่ร่างกายไม่แข็งแรง หนังสือ “สืออู้ยี่จี้” กล่าวถึงสรรรพคุณในรังนกไว้ว่า “ช่วยเสริมพลัง กระตุ้นความอยากอาหาร บำรุงไขกระดูก ให้ความชุ่มชื้นกับปอด รักษาอาการท้องเสียเรื้อรัง ละลายเสมหะ”

      จุดเริ่มต้นของรังนกสามารถสืบย้อนไปได้หลายพันปีตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง รังนกถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า มีคำเรียกว่า ‘Guan Yan’ ที่แสดงถึงคุณค่าของรังนก ที่มักใช้มอบเป็นของขวัญให้กับเชื้อพระวงศ์ และข้าราชการระดับสูง นอกจากนี้แพทย์หลวงก็มักนำรังนกมาปรุงเป็นโอสถบำรุงกำลังถวายแด่องค์ จักรพรรดิอีกด้วย ตามแพทย์แผนจีนจัดรังนกมีฤทธิ์ไม่ร้อน ค่อนไปทางเย็น มีฤทธิ์กลางๆ รสหวาน เข้าเส้นลมปราณ ปอด ม้าม ไต มีสรรพคุณทั้งบำรุงพลังและขับระบายความร้อน ค่อนไปทางบำรุงหยินทำให้ภายในไม่แห้ง เกิดความชุ่มชื้น บำรุงพลังไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากทางแพทย์แผนจีนใช้การวิเคราะห์ร่างกายของผู้รักษาเป็นสำคัญ เพื่อปรับสมดุลตามอาการที่แสดงออกของแต่ละคน จึงอาจมีการจัดยาและอาหารบำรุงต่างกันไปไม่เป็นสูตรตายตัว

      รู้จักนกแอ่นกินรัง นกแอ่นกินรังอยู่ในกลุ่มนกแอ่นสวิฟต์เลต (Swiftlet) ซึ่งเป็นกลุ่มนกแอ่นที่ทำรังด้วยน้ำลายซึ่งนำรังมากินได้ มีอายุประมาณ 6 - 7 ปี เป็นนกขนาดเล็ก หลังสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ ปีกและหางดำ หางเป็นแฉกเล็กน้อย ขาและเท้าเล็ก เล็บยาวและโค้งงอ นิ้วเท้าทั้งสี่เรียงอยู่ด้านหน้าเพื่อใช้สำหรับเกาะเกี่ยวผนังถ้ำหรือขอบ รัง นกแอ่นกินรังเป็นนกประจำถิ่นที่มีอยู่เฉพาะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบตั้งแต่ทางตะวันออกของเทือกเขาหิมาลัย เรื่อยมาทางอ่าวเบงกอล พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไปจนถึงฟิลิปปินส์ เป็นนกที่อยู่รวมกันเป็นฝูง มักอาศัยอยู่ตามถ้ำหินปูนบนเกาะกลางทะเล โดยออกหากินตอนกลางวัน เมื่อบินออกจากถ้ำแล้วจะไม่เกาะที่ใดเลยตลอดทั้งวันจนกว่าจะกลับเข้าถ้ำใน เวลากลางคืน

   ประเภทของรังนก  

     1. รังแรก – รังนกที่เก็บในช่วงเดือนมีนาคมเป็นรังที่นกที่ทำครั้งแรกในปีนั้นๆ จึงเป็นรังที่สมบูรณ์ที่สุดคือ มีเส้นยาว ขาว สะอาด และมีขนาดใหญ่ ถือเป็นรังที่มีคุณภาพดีที่สุด
     2. รังนกกลายเป็นหิน – เมื่อลูกนกเติบโตเต็มที่แล้วนกจะไม่ใช้รังอีก รังนกที่ถูกทิ้งไว้กับผนังถ้ำจะมีแร่ธาตุมาเกาะพอกพูนจนกลายเป็นหิน ทำให้นกเสียพื้นที่ทำรังในฤดูผสมพันธุ์ครั้งใหม่ การเก็บรังนกจึงถือเป็นการช่วยเปิดพื้นที่ให้นกได้ทำรังใหม่ได้สะดวกขึ้นตาม วงจรชีวิตในธรรมชาติ
     3. รังนกแดง – สีแดงของรังนกแดงไม่ได้เกิดจากเลือดนกปะปนออกมากับน้ำลายตามความเชื่อผิดๆ ของคนบางกลุ่ม แต่เกิดจากออกไซด์ของของธาตุเหล็กหรือแร่ธาตุอื่นๆ จากผนังถ้ำที่แทรกซึมเข้ามาผสมผสานกับเนื้อรังนก
     4. รังนกเนื้อทอง – รังนกสีทองอร่าม เกิดขึ้นเฉพาะในถ้ำธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ ท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์สะอาด ซึ่งพบเพียงบางถ้ำเท่านั้น จึงเป็นของหายากมีจำนวนจำกัด ถือเป็นรังนกที่มีคุณค่าสูงกว่ารังนกทั่วไป
     5. รังนกบ้าน – ปัจจุบันมีการสร้างบ้านให้นกมาทำรังอยู่ในเมืองหรือชุมชนหลายแห่ง รังนกบ้านเหล่านี้จะมีเส้นเล็ก สั้น และคุณภาพหลายประการด้อยกว่ารังนกถ้ำ เนื่องจากไม่มีแร่ธาตุจากถ้ำ และนกที่ทำรังก็ไม่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่จะเอื้ออำนวยให้ผลิตรัง ที่มีคุณภาพได้
     6. รังนกปลอม – เนื่องจากรังนกมีราคาสูง จึงมีคนพยายามลอกเลียนแบบทำสินค้าให้มีรูปร่างคล้ายรังนก ซึ่งอาจทำจากวุ้นสาหร่าย เห็ดหูหนูขาว แป้ง ถั่ว ในปัจจุบันมีผู้ผลิตรังนกปลอมที่ทำจากยางคารายา (Karaya gum) ซึ่งได้จากไม้ยืนต้นชนิดหนึ่ง มีลักษณะคล้ายรังนกจนไม่อาจแยกออกได้ด้วยตาเปล่า แต่ไม่มีคุณค่าสารอาหารใดๆ และหากบริโภคมากอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย
 
    ประโยชน์ของรังนก     

      จากความเชื่อในอดีตของชาวจีนที่เชื่อว่ารังนกมีสรรพคุณเป็นยาบำรุง รักษาโรคระบบทางเดินหายใจ ช่วยบำรุงปอด ปัจจุบันได้มีการศึกษาถึงองค์ประกอบของรังนกแล้วพบว่ารังนก
มี องค์ประกอบหลักคือไกลโคโปรตีน ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของภูมิคุ้มกันในร่างกายมนุษย์ โดยช่วยเพิ่มการทำงานของเซลเม็ดเลือดขาว ที่ชื่อ Monocyte ซึ่งทำหน้าที่ช่วยปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ

      คณะนักวิจัยจาก ประเทศญี่ปุ่น ได้พิสูจน์ และค้นพบกลไกการเสริมภูมิคุ้มกันของรังนก โดยนักวิจัยได้เตรียมตัวอย่างรังนก โดยเลียนแบบกระบวนการผลิต และการย่อยอาหารของมนุษย์ ก่อนจะนำตัวอย่างที่ได้ไปทดสอบประสิทธิภาพ นักวิจัยพบว่ารังนกมีฤทธิ์ยับยั้งการติดเชื้อไวรัส โดยไกลโคโปรตีนที่มีในรังนกจะไปจับเชื้อไวรัส และยับยั้งการเกิด hemagglutination ที่จำเป็นในการเพิ่มจำนวนของเชื้อไวรัส จึงช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัส โดยนักวิจัยได้ทดสอบประสิทธิผลดังกล่าว และพบว่ารังนก ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้หลายชนิด ทั้งไวรัสที่มีในคน เป็ด และหมู ท้ายสุดผู้วิจัยได้สรุปผลว่า รังนกเป็นอาหารที่ปลอดภัย และมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ได้

      ต่อเนื่องจากการศึกษาที่พบว่า สารสกัดจากรังนกมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นผลมาจาก O- or N-glycoconjugates การศึกษาในระดับโมเลกุลพบว่า ไกลโคโปรตีนที่ผลิตจากต่อมน้ำลายของนกแอ่นกินรังนี้ มีโครงสร้างคือ N-glycosylation มี 2,3-N-acetylneuraminic acid เป็นส่วนประกอบหลัก เป็นตัวทำให้เกิดผลในการต้านไวรัสดังกล่าวได้

       นอกจากนี้รังนกยังประกอบด้วย Epidermal Growth Factor (EGF) ซึ่งมีองค์ประกอบเหมือนกับ EGF ที่มีอยู่ในคน ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ชั้นนอกสุด และเยื่อบุต่างๆ นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่า EGF ช่วยกระตุ้นให้เซลเม็ดเลือดขาว ชื่อ Leucocyte ที่ซึ่งทำหน้าที่ในการปกป้องร่างกายจากเชื้อโรคต่างๆ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์