น้ำ...เพื่อสุขภาพคุณผู้หญิง



หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่า น้ำสำคัญกับชีวิตเรามากมายเพียงใด ทั้งที่จริงๆ แล้วน้ำ คือองค์ประกอบสำคัญที่ให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างปกติและราบรื่น


อาจกล่าวได้ว่า ‘น้ำคือชีวิต’ เพราะน้ำเป็นองค์ประกอบของน้ำหนักตัวของคนเราถึง 75-85 % จะมีน้ำอยู่ในทุกๆ เซลล์ที่ประกอบขึ้นเป็นอวัยวะในร่างกาย รวมถึงของเหลวหลากหลายชนิดที่บรรจุอยู่ในอวัยวะต่างๆ หรือหล่ออยู่รอบๆ บางอวัยวะ เพื่อให้การทำงานได้อย่างปกติ ที่สำคัญคือจะมีปริมาณเลือดในระบบไหลเวียนถึง 5 ลิตร และน้ำไขสันหลังในระบบ สมองและไขสันหลัง เพื่อให้ระบบประสาททั้งหมดทำงานอย่างสัมพันธ์กัน เป็นผลให้การทำงานของทุกระบบในร่างกายทำงานอย่างประสานกันได้อย่างเหมาะเจาะและกลมกลืน เราจึงสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้

ดื่มน้ำน้อย ... น่ากลัวกว่าที่คิด

คนเราอดอาหารได้นานนับเดือน แต่อดน้ำได้ไม่เกิน 3-7 วันค่ะ หน่วยกู้ชีพจึงพยายามเร่งค้นหาพวกที่ติดอยู่ใต้ซากตึกถล่มซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากแผ่นดินไหวให้เร็วที่สุด เพราะหากเลย 1 สัปดาห์ไปแล้วความหวังก็จะเลือนรางเต็มทีค่ะ แต่ไม่น่าเชื่อนะคะว่า ผู้หญิงยุคใหม่ที่มีกิจกรรมและภาระมากมายทั้งทำงาน เรียนต่อ ดูแลครอบครัว งานสังคม งานเลี้ยงสังสรรค์ และอีกจิปาถะจนทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะดูแลตัวเองในขั้นพื้นฐานคือ ลืมดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน ร่างกายของหญิงยุคใหม่จึงขาดน้ำอย่างไม่รู้ตัว ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างมาก

อาการน่าเป็นห่วง ... ถ้าร่างกายขาดน้ำ

เลือดที่ข้นหรือหนืดขึ้นจะทำให้เกิดอาการสมองมึนงง ไม่สดชื่น รู้สึกเหมือนจะวูบ คิดอะไรได้ช้าลง และเหนื่อยง่ายขึ้นเพราะหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น และถ้ามีระดับคอเรสเตอรอลหรือไขมันในเลือดสูงด้วยแล้ว ก็อาจเกิดเส้นเลือดอุดตันกะทันหันได้ง่ายขึ้นค่ะ

ที่พบได้บ่อยในผู้หญิงคือ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเฉียบพลัน ปวดปัสสาวะบ่อย แต่ถ่ายออกมาในปริมาณน้อยๆ ในแต่ละครั้ง ปวดท้องน้อยรุนแรง ถ้าเป็นรุนแรงก็จะถ่ายออกมาเป็นเลือดสดหรือลิ่มเล็กๆ และต้องนั่งจ่อโถส้วมตลอดเวลา ซึ่งจะทรมานมากๆ และถ้าการอักเสบอาจลุกลามขึ้นไปที่ไตจะเกิดอาการกรวยไตอักเสบเฉียบพลัน มีไข้สูงมาก หนาวสั่น ปวดบั้นเอว และหากรักษาไม่ถูกต้องหรือเป็นเรื้อรัง ก็จะเป็นโรคไตวายได้ในที่สุดค่ะ

ส่วนนิ่วในไตนั้นเกิดจากการดื่มน้ำน้อยร่วมกับการจับกันของตะกอนแคลเซียม ในคนที่ กินแต่ผักที่มีแคลเซียมสูงแต่กินโปรตีนไม่เพียงพอ ทำให้ขาดฟอสเฟตที่จะจับกับแคลเซียมในเลือดค่ะ

นอกจากนั้นทุกๆ อวัยวะตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก็จะได้รับผลกระทบจากการขาดน้ำทั้งสิ้น ผม ตา ปาก และผิวแห้ง มีกลิ่นตัว กลิ่นปาก ตกขาวมีกลิ่นถ้ากินอาหารกลิ่นแรง เช่น สะตอหรือชะอม เป็นตะคริวง่าย กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอื่นๆ อีกมากมาย เปรียบต้นไม้เฉาเพราะขาดน้ำ นั่นเองค่ะ

ที่ไม่น่าเชื่อคือ จะเป็นเหตุให้สารก่อมะเร็งที่เกิดจากอาหาร และสารทุกข์จากความเครียดปฏิบัติการในร่างกายอย่างเข้มข้นและยาวนานก่อนที่จะถูกขับออกไปค่ะ คงเดากันออกแล้วนะคะว่า ถ้าดื่มน้ำน้อยต่อเนื่องนานๆ สุขภาพที่ปลายทางจะเป็นอย่างไร

น้ำ ... มากไปก็เป็นเรื่อง

มีข้อมูลมากมายในอินเตอร์เน็ตที่เชิญชวนให้ดื่มน้ำกันมากๆ จนกระเพาะปัสสาวะคราก หรือหมดสภาพ เพราะต้องทำงานอย่างหนัก ยิ่งถ้าดื่มไม่ถูกจังหวะกับการถ่ายออก เมื่อกระเพาะปัสสาวะเต็มก็จะเกิดอาการกระเพาะปัสสาวะหมดแรงที่จะอุ้มน้ำปัสสาวะ ทำให้ถ่าย ออกได้ช้าๆ และออกไม่หมด มีเหลือค้าง พอออกจากห้องน้ำไม่นานก็จะปวดอีก เพราะ กระเพาะปัสสาวะมีแรงกลับมา ก็ต้องเคลียร์ที่ค้างอยู่ออกให้หมด เพราะเดี๋ยวของใหม่ที่ดื่มเข้าไปก็จะตามกันมาอีก ดูๆ ก็น่าเห็นใจกระเพาะปัสสาวะนะคะ โดยเฉพาะถ้าดื่มน้ำแก้วโตแล้วเข้า นอน แถมยังไม่ถ่ายของเก่าออกก่อนเข้านอนเสียอีก ก็คงถูกกระเพาะปัสสาวะปลุกกลางดึกคืนละหลายเที่ยว จนเป็นโรคนอนไม่อิ่ม และโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบตามมาแน่นอนค่ะ ถ้ายังดื่มน้ำมากๆ ต่อเนื่องนานๆ ก็จะกลายเป็นโรคช้ำรั่ว หรือกระเพาะปัสสาวะเป็นโรคประสาท ไม่รู้ ว่าปวดจริงหรือไม่จริงและอยากเข้าห้องน้ำตลอดเวลา หรือเกิดอาการถอดไม่ทันแล้วเปียก ทำให้ ขายหน้าและเกิดอาการกังวลเวลาออกไปนอกบ้าน ต้องส่ายตาหาห้องน้ำอยู่ตลอดเวลา แล้วยิ่ง ผู้หญิงจะปล่อยทุกข์ที่ก็ต้องเป็นที่เป็นทาง ดูเป็นเรื่องน่าทรมานของผู้หญิงจังค่ะ

สูตรดื่มน้ำพอเพียง

สุขภาพของคนเราจะดีขึ้นด้วยวิธีง่ายๆ คือการดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวันค่ะ ‘ฉลาดดื่ม’ ด้วยสูตรสำเร็จง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

1.ปริมาณที่ควรดื่มในแต่ละวัน มีสูตรคำนวณดังนี้ น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วย 2 คูณด้วย 2.2 แล้วคูณด้วย 30 เช่น น้ำหนัก 55 กก. เท่ากับ 55/2 x 2.2 x 30 = 1815 ซีซี แต่ไม่ถึงขั้นต้องตวงดื่มกันนะคะ แค่เป็นตัวเลขคร่าวๆ ให้ใสใจที่จะดื่มให้พอเหมาะกับร่างกายของแต่ละคนเท่านั้นค่ะ

2.วิธีการดื่ม ส่วนใหญ่ที่ดื่มกันไม่พอ แม้จะทราบแล้วว่าจะต้องดื่มกันมากน้อยแค่ไหนแล้วก็ตาม เพราะไม่มีเวลา จึงมักจะใช้วิธีกรอกน้ำกันแก้วโตๆ ดื่มรวดเดียวกระดกหมดแก้ว แล้ว มีภาระติดพันจนต้องกลั้นปัสสาวะกันนานๆ จนเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะไวหรือช้ำรั่ว และ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังตามมาอย่างที่เล่าให้ฟังแล้ว

วิธีดื่มที่แยบยลคือ ต้องวางแผนให้จังหวะการดื่มพอดีกับการถ่ายออก เมื่อกระเพาะปัสสาวะเพิ่งเริ่มเต็ม เพราะหลังการดื่มแต่ละครั้งน้ำจะไปถึงปลายทางที่กระเพาะปัสสาวะประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ เช่น ก่อนออกจากที่ทำงานหรือก่อนเข้านอน 1 ชั่วโมง งดการดื่มน้ำและ ถ่ายออกทุกครั้ง กระเพาะปัสสาวะก็จะว่างและได้พักบ้างค่ะ หรืออาจใช้วิธีค่อยๆ ทยอยดื่มทีละน้อย แล้วเข้าห้องน้ำทันทีที่เริ่มปวดในขณะที่กระเพาะปัสสาวะยังถ่ายออกได้หมด ไม่เหลือค้าง เพราะไม่ได้อุ้มน้ำไว้นานๆ จนหมดแรง แค่นี้ก็จะเป็นการเห็นใจกระเพาะปัสสาวะ สุขภาพก็จะแข็งแรง และไม่เกิดโรคจากพฤติกรรมทำร้ายกระเพาะปัสสาวะอย่างไม่ได้ตั้งใจนะคะ

3.ประเภทของน้ำ น้ำเปล่าที่สะอาด ไม่ร้อนไม่เย็นดีที่สุดค่ะ และควรดื่มหลังกินอาหาร มื้อหลักไปแล้ว 40 นาที ไม่ควรดื่มระหว่างการกินอาหารหรือหลังอาหารทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ทำให้การย่อยอาหารดำเนินไปได้ไม่เต็มที่ค่ะ ช่วงกินอาหารควรดื่มน้ำซุปหรือน้ำ แกงค่ะ ส่วนนมและน้ำผลไม้ดื่มหลังมื้ออาหารไปแล้ว 2 ชั่วโมง จะช่วยให้ย่อยง่ายนะคะ งดชากาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ซึ่งมักกระตุ้นการหลั่งของน้ำย่อย และเป็นเหตุของการเกิดแผล ในกระเพาะอาหารได้ค่ะ

จะเห็นว่าไม่ยากเลยนะคะกับการดื่มน้ำให้สุขภาพดี และเป็นเคล็ดลับความงามของผู้หญิงเราจากภายใน เพราะเซลล์ทั่วร่างกายจะสดชื่นและเปล่งปลั่งอยู่เสมอค่ะ ยากตรงที่ความตั้งใจและใส่ใจที่จะฝึกดื่มน้ำอย่างฉลาดได้อย่างต่อเนื่องจนเป็นสุขนิสัยนะคะ


น้ำ...เพื่อสุขภาพคุณผู้หญิง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์