บันทึกหลังความตายในโซเชียล


บันทึกหลังความตายในโซเชียล

เรื่องรายการบันทึกสั่งลาหรือทำพินัยกรรมเพื่อเปิดเผยหลังลาจากโลกไปแล้ว 

ในระบบของโซเชียลมีเดียได้มีการริเริ่มแล้วจะมีการทดสอบโปรแกรมของเดดโซเชียลในลักษณะเบต้าและจะมีการเปิดตัวสู่สาธารณะในเดือนมีนาคมนี้

สำหรับบริษัทเดดโซเชียลที่ประกาศจะเปิดตัวทางตอนใต้ของสหรัฐอเมริกา ก็จะเปิดตัวในงานเซาท์เวิลด์หรืองานตะวันตกเฉียงใต้ในเดือนมีนาคม และงานนี้จะจัดที่พิพิธภัณฑ์ประหลาด (Museum of Weird) ซึ่งก็เป็นอีเวนต์ที่เหมาะเจาะกับบันทึกสำหรับหลังความตายพอดี

ก็ยังมีอีกบริษัทที่ประเทศอังกฤษที่จัดทำโปรแกรมประเภทนี้เช่นกันและได้จัดตารางเวลาเพื่อให้สามารถส่งสารหรือข้อความเพื่อให้เป็นการเปิดเผยต่อสาธารณชนได้ยาวนานได้ถึง 100 ปีข้างหน้า เพราะฉะนั้นระบบความปลอดภัยของข้อมูลและเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหลายจะต้องมีอายุยาวนานถึงขณะนั้น คือ 2 ช่วงอายุคน ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องไม่พึ่งคนหรือมนุษย์ในการซ่อมบำรุงรักษาให้ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ปลอดภัยและมีอายุยาวนานขนาดนั้น ในทางทฤษฎีทางกลุ่มบริษัทในอังกฤษนี้พบว่าสามารถที่จะสร้างระบบการบันทึกหลังความตายให้ยาวนานได้ถึง 400 ปี ข้างหน้า

ถ้าหากอยากจะพูดกับมนุษย์ในโลกหน้าหรืออีก 400 ปีข้างหน้าว่า มนุษย์นั้นจะเป็นเช่นไรหรืออยากจะสื่ออะไรให้เป็นประวัติศาสตร์กับมนุษย์ยุคนั้นก็สามารถทำได้ เพราะเราจะเป็นประวัติศาสตร์ที่จะถูกขุดพบข้อความการสื่อสารใน 400 ปีข้างหน้า จินตนาการไม่ออกว่าโลกเราที่อยู่นี้จะเป็นเช่นไร

ในประเทศอิสราเอลเร็วกว่าได้มีการเปิดตัวไปแล้วในปี ค.ศ. 2011 ซึ่งขณะนั้นมีผู้ใช้ถึง 200,000 คน ส่วนใหญ่แล้วก็จะเลือกบันทึกคำลาจากที่สะเทือนใจ และมักจะเป็นบันทึกข้อความมากกว่าที่จะบันทึกด้วยวิดีโอ บริษัทในประเทศอิสราเอลยังให้บริการนี้ฟรีอยู่ แต่ในอนาคตจะมีการเก็บเงินสำหรับการบันทึก และการบันทึกนี้จะเปิดเผยต่อเมื่อได้รับการอนุญาตจากผู้จัดการมรดกที่ได้รับการแต่งตั้งเท่านั้น

คุณรูบินสไดน์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทอีฟไดดายหรือบริษัทถ้าฉันตาย ได้กล่าวว่า 

“บางคนรู้ว่าถ้าฉันจะตายและก็ได้มีการเตรียมตัวเองก่อนตายเอาไว้ แต่ปัญหาที่ท้าทายมากก็คือ เวลาความตายจะมาเยือน มักจะคาดไม่ถึงทุกครั้งไป” 

และยังกล่าวต่ออีกว่า “ในช่วงยุคที่เรายังมีชีวิตอยู่ส่วนใหญ่บันทึกเรื่องราวในลักษณะดิจิตอลเอาไว้ แต่คนเรามักอยากจะควบคุมสิ่งนั้นเอาไว้ให้ได้ในระดับหนึ่งและให้มีการเปิดเผยในภายหลังจากเสียชีวิตแล้ว”

บริษัทเหล่านี้ดูว่าเทคโนโลยีจะมาช่วยทำให้มนุษย์คิดเรื่องความตายเอาไว้บ้าง เมื่อยามจะลาจากโลกนี้ ใจอยากจะบันทึกเรื่องความลับอะไรที่เคยทำไว้หรืออยากจะทำอะไรจะได้คิดไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้คุ้นเคยกับเรื่องของความตาย และเรื่องของความตายไม่มีทางที่จะแยกออกจากมนุษย์โลกได้

สำหรับประเทศไทยคนส่วนใหญ่ซึ่งก็เป็นศาสนาพุทธไม่ต่างกันเลยเช่นกัน และในแง่ของความคิดอ่านปรัชญาแห่งความตายก็มีเรื่องนรกและสวรรค์เช่นเดียวกับศาสนาอื่นๆ แต่พอรู้ว่าจะตาย คำพูดนั้นมักจะมีความจริงให้ได้ทราบเสมอ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์