9 สัญญาณอันตราย...ปวดศีรษะ



คงไม่มีใครที่ไม่เคยบ่นว่า "ปวดหัว"นั่นเพราะจากความเครียด ไมเกรนฯลฯ ซึ่งก็ไม่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิตแต่ว่ามีอาการปวดศีรษะ บางประเภทที่บ่งบอกถึงความผิดปกติอันตรายจนอาจถึงแก่ชีวิตได้

จากข้อมูลเชิงวิชาการจากศูนย์สมองและระบบประสาทระบุว่าผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะ เกิดจากโรคปวดศีรษะทั่วๆ ไปซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตการจำแนกโรคปวดศีรษะทั่วไปจากโรคปวดศีรษะ ที่มีสาเหตุอื่นซ่อนอยู่โดยเฉพาะสาเหตุจากภายในสมอง เช่น ก้อนเนื้องอก เลือดออก หรือเส้นเลือดผิดปกติถือเป็นสิ่งสำคัญมากทางการแพทย์ และเป็นวัตถุประสงค์แรกของแพทย์ในการเริ่มต้นค้นหาและทำการรักษาผู้ป่วยที่ มีอาการปวดศีรษะเป็นอาการสำคัญประวัติและรายละเอียดลักษณะของอาการปวดศีรษะ จากผู้ป่วยถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยโรค รวมถึงการสืบค้นสาเหตุอื่น ๆที่เป็นต้นเหตุของการปวดศีรษะที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้

ซึ่งมี 9 อาการปวดศีรษะ อันตรายที่ควรรีบพบแพทย์!

1.โรคและอาการเจ็บป่วยทางกายอื่นๆที่เกิดร่วมกับอาการปวดศีรษะเช่น มีไข้ หนาวสั่น เหงื่อออกตอนกลางคืน ปวดกล้ามเนื้อ น้ำหนักลดมีประวัติโรคมะเร็ง การติดเชื้อหรือภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น เอชไอวีผู้ที่รับประทานยาบางประเภท เช่น ยาสเตอรอยด์ ยาละลายลิ่มเลือด ยากดภูมิคุ้มกันประวัติเหล่านี้ บ่งบอกถึงโรคติดเชื้อ การอักเสบ และการแพร่กระจายของมะเร็ง

2.อาการแสดงผิดปกติทางระบบประสาท ได้แก่พฤติกรรมหรือบุคลิกภาพเปลี่ยนจากเดิม แขนขาอ่อนแรง ชาหรือการรับรู้ประสาทสัมผัสผิดปกติ การมองเห็น หรือการได้ยินผิดปกติ

3.อาการปวดศีรษะที่เริ่มต้นหลังตื่นนอนมักบ่งบอกถึงภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง

4.อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นรุนแรงอย่างเฉียบพลัน ซึ่งมักใช้เวลาเป็นเสี้ยว วินาทีบ่งบอกถึงภาวะวิกฤตของหลอดเลือดสมองทั้งเส้นเลือดสมองตีบและแตก

5.อาการปวดศีรษะครั้งแรกหลังอายุ 50 ปี แม้ว่าโรคปวดศีรษะปฐมภูมิหลายๆชนิดอาจเริ่มต้นครั้งแรกหลังอายุ 40-50 ปีโดยโรคปวดศีรษะปฐมภูมิไม่ใช่อาการปวดศีรษะที่มีผลจากการรับยาแต่เป็นการ ปวดศีรษะจากความเครียดไมเกรน อาการปวดหัวแบบผสม และปวดแบบชุดๆ แต่อายุที่มากขึ้นมักสัมพันธ์กับโรคอื่นๆ ที่อาจจะเป็นสาเหตุของอาการปวดศีรษะได้ที่พบบ่อย เช่น ก้อนเนื้องอก การติดเชื้อของระบบประสาทส่วนกลางการอักเสบของหลอดเลือด ดังนั้น ผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะครั้งแรกหลังอายุ 50 ปีจึงควรได้รับการเอกซเรย์สมองทุกรายถึงแม้ว่าจะไม่พบความผิดปกติจากการตรวจร่างกายทางระบบประสาท

6.ลักษณะอาการปวดศีรษะต่างจากอาการปวดศีรษะที่เป็นประจำ โดยเฉพาะอาการปวดศีรษะที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดย ที่ไม่มีช่วงเวลาหายปวดหรือมีความถี่และความรุนแรงมากขึ้น

7.อาการปวดศีรษะที่แย่ลงเมื่อไอจามหรือเบ่งมักสัมพันธ์กับความดันในกะโหลก ศีรษะสูงขึ้นเช่นกัน

8.อาการปวดศีรษะที่แย่ลงเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทาง เช่น ปวดมากขึ้นเมื่อยืน นอน หรือเมื่อมีการเคลื่อนไหวของศีรษะและคออาจเกิดจากความผิดปกติของระบบน้ำใน โพรงสมองและไขสันหลัง หรือกระดูกต้นคอ

9.อาการปวดศีรษะที่เกิดขึ้นข้างเดียวตลอดเวลา หรือมักปวดบริเวณ ด้านหลังของศีรษะแสดงถึงพยาธิสภาพที่อาจเกิดอยู่บริเวณนั้นของศีรษะหากเป็น อาการปวดศีรษะทั่วไปมักมีการสลับข้างซ้ายขวาบ้าง แต่มักพบว่าจะปวดข้างใดข้างหนึ่งมากกว่าอีกข้าง

เมื่อมีอาการปวดศีรษะครั้งแรก แม้จะมีหรือไม่มีอาการดังกล่าวข้างต้นควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินว่าเป็นโรคปวดศีรษะชนิดใด

ส่วนผู้ที่มีอาการปวดศีรษะอยู่แล้วหรือปวดศีรษะครั้งแรกแล้วมีสัญญานอันตรายดังกล่าวข้างต้นให้รีบมาปรึกษาแพทย์ระบบประสาทโดยเร็ว เพื่อสืบค้นสาเหตุที่อาจเป็นอันตรายได้และเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทัน ท่วงทีและตรงกับโรคที่เป็นสาเหตุการตรวจวินิจฉัยที่สำคัญได้แก่การเอกซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์หรือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าการเจาะเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการและอื่นๆ ตามแต่โรคที่แพทย์วินิจฉัย

เรื่องของศีรษะจึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราควรคอยสังเกตความผิดปกติ ที่เกิดขึ้นเพราะแพทย์จะได้วินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงที


 9 สัญญาณอันตราย...ปวดศีรษะ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์