รักษาก่อน “อีสุกอีใส” จะฝากรอย


สถานการณ์โรคภัยไข้เจ็บช่วงนี้น่าเป็นห่วง ยิ่งมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ ที่กำลังแพร่ระบาดคร่าชีวิตผู้คนไปรายหลาย โลกเราปัจจุบันอยู่ยากขึ้นทุกวัน แม้ว่ามีหยูกยามารักษาโรคแต่ก็มีการกลายพันธุ์และรุนแรงขึ้น 

ฉะนั้นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดเราต้องมั่นออกกำลังกาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อรับมือภัยร้ายต่างๆ ถ้าสุขภาพแข็งแรง สิ่งเหล่านี้คงยากจะคุกคามเราได้ “ยาขนานเอก” ยังคงเน้นวิถีในการรักษาสุขภาพ และรักษาโรคไปในเวลาเดียวกัน ตามอย่างบรรพบุรุษเราให้ไว้เป็น “ภูมิปัญญา”

สำหรับในบ้านเราฤดูกาลนี้ โรค “อีสุกอีใส” มักจะเป็นโรคฮิตประจำฤดูกาล ช่วงมกราคม – เมษายน ส่วนใหญ่เกิดกับเด็กเล็กจนถึงช่วงวัยวุ่น แต่คนที่อายุมากแล้วก็ยังประมาทไม่ได้ อาการของโรคอีสุกอีใส จะมีอาการปวดเมื่อยตามตัว เป็นไข้ ปวดศีรษะ เบื่ออาหาร มีผื่นแดงและตุ่มขึ้นที่หนังศีรษะ ลามไปบริเวณหน้า แผ่นหลัง ลำตัว แขนและขา บางคนอาจมีตุ่มขึ้นในช่องปาก ทำให้เจ็บคอ ลิ้นเปื่อย ปากเปื่อย คันและชอบเกาที่แผลตอนตกสะเก็ดจึงทำให้กลายเป็นแผลเป็น

สมุนไพรที่ใช้รักษา “เสลดพังพอนตัวเมีย” หรือมีชื่อหนึ่งว่าพญายอ เพียงแต่เด็ดใบเสลดพังพอนตัวเมียมาล้างให้สะอาด นำมาโขลกหรือปั่นให้ละเอียดผสมกับน้ำดินสอพองทาตุ่มสุกใส ทาบ่อยๆ จะช่วยลดอาการคันและทำให้ตุ่มแผลแห้งเร็ว ลดอาการบวมแดงของตุ่มได้ดี ช่วยให้เด็กไม่มาแกะเกาตุ่มจนกลายเป็นแผลเป็น

ใบมะยม ใช้ใบกลางอ่อนกลางแก่ 2 – 3 กำมือ ใส่น้ำ 2 – 3 ลิตร ต้มให้เดือดนาน 20 นาที ยกลงผสมน้ำเย็นให้อุ่นพออาบได้ อาบวันละ 3 ครั้ง เช้า กลางวัน เย็น หลังอาบน้ำอาการค่อยทุเลาและหายเป็นปกติใน 3 วัน

“ผักหนาม” ที่ชาวบ้านใช้รับประทานในครัวเรือน นำเอา หัว ของ “ผักหนาม” กะตามจำนวนที่ต้องการ หรือตามแต่จะหาได้ ต้มกับน้ำจนเดือด แล้วให้ผู้ที่มีอาการที่กล่าวข้างต้นอาบทั้งเช้าและเย็น ต้มอาบเรื่อยๆ จะช่วยเป็นยาถอนพิษ ทำให้ทุเลาลงอย่างรวดเร็ว และหายได้ในที่สุด นอกจากนี้ หัวของผักหนามที่ว่านี้ แพทย์แผนไทยโบราณยังนำไปปรุงเป็นยากินแก้ไอและขับเสมหะได้อีกด้วย นับมีคุณค่าทางยาและมีประโยชน์ทางอาหารดียิ่งนัก

รักษาก่อน “อีสุกอีใส” จะฝากรอย


ขอบคุณ : ISNHOTNEWS


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์