เวลาที่คุณคลิ๊ก “Like” ให้กับโรงเรียนสอนโยคะบนเพจเฟซบุค หรือเวลาไปซื้อดีลกับร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ดนั้น ที่จริงแล้วคุณอาจจะกำลังให้ความช่วยเหลือเหล่านักวิจัยโรคอ้วนอยู่อย่างไม่รู้ตัวก็เป็นได้
ทีมวิจัยทีมหนึ่งจากโรงพยาบาลเด็ก Boston นั้นได้สังเกตเห็นถึงความเกี่ยวพันกันระหว่างความสนใจของผู้ใช้บริการเฟซบุคและอัตราโรคอ้วนในพื้นที่ๆอยู่อาศัยของพวกพวกเขาได้
“ข้อมูลได้แสดงให้เห็นว่าในท้องที่ๆผู้ใช้บริการเฟซบุคนั้นมีความสนอกสนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมต่างๆเช่นออกกำลังกายอยู่เป็นจำนวนมากนั้น จะทำให้ค่าความแพร่หลายของโรคอ้วนและอาการน้ำหนักเกินของพื้นที่นั้นต่ำลง” นักวิจัย Rumi Chunara กล่าว “ข้อมูลเหล่านี้ได้เผยให้เห็นว่าเครือข่ายสังคมหรือโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คนั้นสามารถช่วยขยายขอบเขตการดูแลสาธารณสุขด้วยการทำให้นักวิจัยสาธารณสุขสามารถเข้าถึงข้อมูลในระดับประชากรที่พวกเขาไม่สามารถหาได้จากวิธีอื่นได้อย่างไร”
นักวิจัยได้ทำการรวบรวมข้อมูลจากเฟซบุค ซึ่งข้อมูลพวกนี้รวมไปถึงว่าพวกเขาโพสต์อะไรลงใน timeline บ้าง พวกเขากด “like” อะไร แชร์อะไรไปบ้าง หลังจากนั้นก็ทำการเปรียบเทียบข้อมูลดังกล่าวกับข้อมูลจากการสำรวจข้อมูลสุขภาพที่กระทำโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคและจากศูนย์สำรวจข้อมูลสุขภาพชุมชน EpiQuery ของรัฐ New York ด้วย ซึ่งหลังการเปรียบเทียบนั้นพบความสัมพันธ์ที่ชัดเจนคือ อัตราของโรคอ้วนในพื้นที่ที่ข้อมูลจากเฟซบุคบ่งบอกถึงวิธีชีวิตที่ค่อนข้างแอคทีฟและมีการเคลื่อนไหวออกกำลังกายบ่อยนั้นจะต่ำ ส่วนในพื้นที่มีความสนใจในกิจกรรมที่ไม่ค่อยขยับร่างกายเท่าไหร่อย่างเช่นดูทีวีนั้นจะมีอัตราโรคอ้วนที่สูงกว่า
วิธีดังกล่าวก็ยังใช้ได้กับข้อมูลในระดับท้องถิ่นเช่นเดียวกัน ซึ่งทางนักวิจัยก็ได้ลองสำรวจดูในหลายๆพื้นที่ของเขตนิวยอร์คแล้ว
แนวคิดก็คือข้อมูลประเภทนี้นั้นจะสามารถช่วยให้สามารถระบุมาตรการควบคุมเชิงท้องถิ่นได้อย่างแม่นยำมากยิ้งขึ้นด้วย
“เราต้องคอยมองหาวิธีที่เราจะสามารถเข้าถึงผู้คน และหนึ่งในสิ่งที่คุณจะสามารถศึกษาได้ก็คือวิธีการที่ผู้คนรวมกลุ่มกัน” ดร. Jennifer Li, ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชและหัวหน้าแผนกโรคหัวใจในเด็กที่ Duke University Medical Center ใน Durham รัฐ North Carolina กล่าว “ผู้คนนั้นรวมกลุ่มกันในเครือข่ายสังคมเหมือนกับที่พวกเขารวมกลุ่มกันในชีวิตจริงนั่นแหล่ะ ถ้าคุณสูบบุหรี่ เพื่อนของคุณก็มักจะสูบบุหรี่ด้วย ถ้าคุณอ้วน เพื่อนของคุณก็น่าจะอ้วนด้วยเช่นกัน ถ้าหากคุณสามารถสร้างผลกระทบต่อกลุ่มของคุณได้ล่ะก็ คุณก็สามารถทำให้เกิดปรากฏการณ์ระลอกคลื่นที่จะขยายผลนั้นออกไปในวงกว้างขึ้นได้ด้วย”
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
