โรคที่มากับแมว

โรคที่มากับแมว






ธรรมชาติของแมว เป็นสัตว์กินเนื้อ มีนิสัยที่อยากรู้อยากเห็น และไม่อยู่นิ่ง ชอบ

ออกเดินทางไปตามที่ต่าง นิสัยเฉพาะตัวของแมวจึงเป็นที่มาของโรคหลายๆโรค

ที่มันนำมาสู่คนได้ คนที่เลี้ยงแมวก็ลองดูกันไว้ครับว่าคุณเสี่ยงที่จะเป็นโรคเหล่า

นี้หรือไม่


1. โรคหอบหืด ภูมิแพ้ - ขนแมว เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ โดยเชื่อกันว่าสามารถ

ก่อภูมิแพ้ได้ง่ายกว่าขนสุนัขจากคุณสมบัติที่เบากว่า แต่เรื่องขนไม่ใช่สาเหตุเดียว

ที่ทำให้แมวทำให้เจ้าของเกิดอาการภูมิแพ้ง่ายขึ้น แต่สิ่งที่คนเราแพ้จากแมวมาก

เสียยิ่งกว่าขนก็ยังมีคือ ขี้ไคลแมว... อันนี้คนเราแพ้ซะยิ่งกว่าที่แพ้ขนซะอีก นอก

จากนี้ยังมีเหตุอ้อมๆอีกหลายอย่าง เช่น แมวที่ชอบกัดหรือเล่นแมลงสาบ แมวที่

ชอบไปคลุกฝุ่น และเอามาป้ายเจ้าของ


ทางแก้ไขก็คืออาบน้ำแมวซะบ้าง และหลีกเลี่ยงการเอาแมวมานอนบนที่นอน
 
ซึ่งถ้าทำสองข้อนี้ไม่ได้และไม่สามารถตัดใจจากแมวได้ ก็ให้ทำใจว่าคุณคงไม่

หายจากโรคภูมิแพ้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนหมอแต่ประการใด


2. กลาก - ง่ายๆ สั้นๆ ผิวหนังสัตว์หลายๆชนิดเป็นที่สะสมของเชื้อราเป็นอย่างดี
ใครก็ตามที่เป็นกลากบ่อยๆ รักษาหายแล้วเป็นซ้ำตามที่ต่างๆไม่ค่อยซ้ำแห่งกัน

และเลี้ยงแมว ให้สังเกตไว้บ้างครับว่า แมวของท่านมันไปนอนซุกตามเสื้อผ้าบ้าง

หรือไม่ (คนที่ไม่เลี้ยงอาจคิดว่า ดูจากขนแมวสิ แต่ที่จริงไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะ

คนที่เลี้ยงแมวหลายๆคน เสื้อผ้าซักแล้วก็ยังมีขนแมวติดเสื้ออยู่ดี) ถ้าเจอก็ให้เอา

ไปซักซ้ำครับ


3. โรคท๊อกโสพลาสโมสิส (Toxoplasmosis) - อาจจะไม่คุ้นหูนัก แต่หากบอก

ว่า เป็นโรคเชื้อราขึ้นสมอง คงจะพอคุ้นหูกันบ้าง ที่ไม่ค่อยคุ้นเพราะโรคนี้มักไม่มี

ผลกับคนธรรมดาที่ร่างกายแข็งแรง แต่โรคนี้เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ

อย่างเช่น คนไข้มะเร็ง คนไข้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้สูงอายุ ผู้ที่กินสเตียรอยด์เป็น

ประจำ สตรีมีครรภ์ (ที่จริงคือเด็กในท้อง) โดยเชื้อโรคจะมีอยู่ในอุจจาระของแมว
 
ซึ่งจะแพร่กระจายได้ง่ายขึ้นหากปล่อยอุจจาระในที่ร่มจนแห้ง ทางแก้ เราไม่แนะ

นำให้ทิ้งแมว (ถ้าสังเกตดู คนที่มีปัญหาภูมิคุ้มกันต่ำข้างต้น ชอบเลี้ยงแมวซะ

ด้วย) แต่แนะนำให้ทุกครั้งที่เอากระบะอุจจาระแมวไปทำความสะอาด ควรใส่ผ้า

ปิดจมูกป้องกันการฟุ้งกระจาย และควรนำอุจจาระแมวหรือกระบะไปตากแดดก่อน

ทิ้งอย่างมิดชิด


4. โรคพิษสุนัขบ้า - เมื่อก่อนหลายคนยังเข้าใจผิดว่า โรคพิษสุนัขบ้ามีเฉพาะหน้า

ร้อนและมากับสุนัขเท่านั้น ความจริงโรคนี้ติดต่อได้ทางสัตว์ตระกูลเลี้ยงลูกด้วย

นม ซึ่งแมวก็เป็นหนึ่งในสัตว์ที่เสี่ยง วิธีป้องกันคือ นำแมวที่เลี้ยงไปฉีดยาปีละ

ครั้ง และทุกครั้งควรมีสมุดประจำตัวแมว เพื่อติดสติ๊กเกอร์เป็นหลักฐานว่าได้ฉีด

จริง เวลาแมวคุณไปกัดใครเข้า จะได้มีหลักฐานไปแสดง คนที่ถูกกัดจะได้ไม่ต้อง

ลำบากฉีดหลายเข็ม อีกอย่างหนึ่ง หากแมวคุณไปกัดคนอื่น แล้วโดนบังคับให้

ตัดหัวส่ง เพื่อตรวจหาเชื้อ... ในความคิดผมเห็นว่าไม่จำเป็น เพราะปัจจุบันถ้าไม่

มั่นใจหรือสงสัยจนถึงขนาดนั้น ก็มักจะฉีดเซรุ่มไปเลย ไม่มามัวนั่งรอผลตรวจ

สมอง ดังนั้นไม่ต้องตัด หรือถ้าจะตัด ก็ตัดไปส่งที่อื่นไม่ต้องเอามาส่งที่ รพ.



5. โรคติดเชื้อจากแผล - เช่นโรคบาดทะยัก และโรคติดเชื้อของเนื้อ (Cellulitis)
 
ในปากแมวมีเชื้อโรคมากมายยิ่งกว่าเชื้อโรคตามพื้นถนน จะเป็นรองก็แค่ปากคน

เท่านั้น ดังนั้นการโดนแมวกัดจึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก สังเกตได้ว่าแผลโดน

แมวขบเล็กๆ ทิ้งไว้เพียงวันเดียวก็สามารถแดงบวมขึ้นกลัดหนองได้ ดังนั้นหาก

โดนแมวกัด ก็ควรล้างน้ำฟอกสบู่ให้สะอาด และสังเกตว่ามีลักษณะปวดบวมแดง

ร้อนหรือไม่ หากมีก็อาจจะต้องเจาะล้างหรือกินยาปฏิชีวนะ ส่วนเรื่องของ

บาดทะยัก หากใครก็ตามที่ฉีดมานานกว่า10ปี ก็สมควรไปฉีดกระตุ้นเสมอ โดย

เฉพาะคนที่เลี้ยงแมวและโดนกัดหรือข่วนเป็นประจำ


หากรักจะเลี้ยงแมว สมควรรู้และปฏิบัติเพื่อป้องกันโรคที่มากับแมวครับ เพื่อการ

ป้องกันไว้ ไม่ให้เราเป็นโรค เพราะเมื่อเกิดโรคแล้วเราจะลำบากใจและทุกข์ใจที่

จะลาจากจากสัตว์หน้าขนน่ารักพวกนี้



P.s ที่มา อารมณ์ดีดอทคอม


โรคที่มากับแมว


โรคที่มากับแมว


โรคที่มากับแมว


โรคที่มากับแมว


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์