อยากปึ๋งปั๋ง ระวังเสี่ยงตาย!

เราคงเคยได้ยินกันบ่อย ๆ ว่า หอยนางรมสดนั้น ช่วยเพิ่มความปึ๋งปั๋งให้กับเพศชาย ทราบไหมคะว่าที่หอยนางรมสดถูกจัดเป็นอาหารที่ช่วยในเรื่องสมรรถภาพทางเพศของผู้ชายนั้น นั่นเพราะ หอยนางรมสดมีปริมาณ แร่ธาตุสังกะสี (Zinc) อยู่ในปริมาณสูงกว่าอาหารประเภทอื่น 60-75 มิลลิกรัม ต่อ 100 กรัม

สังกะสี เป็นแร่ธาตุที่สำคัญ และจำเป็นที่สุดสำหรับความเป็นชาย เพราะแร่ธาตุสังกะสี มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นลูกอัณฑะของท่านชายให้ผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน (Testosterone)  ผลิตตัวอสุจิ ซึ่งเทสโทสเตอโรนนั้นเป็นฮอร์โมนที่ช่วยให้มนุษย์ดำรงเผ่าพันธุ์ไว้ได้ เพราะเป็นฮอร์โมนที่กระตุ้นความอยากสืบพันธุ์ หรือ แปลว่าเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดอารมณ์เพศนั่นเองค่ะ

เพราะเหตุนี้จึงทำให้ชายหนุ่มไปจนถึงหนุ่มสูงวัยทั้งหลายสรรหาหอยนางรมสดมาเป็นอีก 1 เมนูยอดฮิตเพื่อพิชิตสาว ๆแต่ทราบไหมคะว่า หอยนางรมสดนั้น มีความเสี่ยงอาหารเป็นพิษ (Food Poisoning) จากเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรค ในกลุ่ม Vibrio ซึ่งสายพันธุ์ที่จะเป็นอันตรายได้ คือ Vibrio vulnificus และ Vibrio cholerae ที่ทำให้เกิดโรคอหิวาตกโรค (cholera) และ Vibrio parahaemolyticus ที่ก่อโรคลำไส้ใหญ่อักเสบ

โดยปกติเชื้อวิบริโอ มักจะอาศัยอยู่ในน้ำทะเลที่อบอุ่น ในประเทศตะวันตกมักจะพบผู้ป่วยติดเชื้อนี้ในหน้าร้อน แต่ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในเขตร้อนสามารถพบโรคติดเชื้อ วิบริโอ ได้ตลอดทั้งปี เชื้อนี้มักจะก่อโรคในคนที่กินอาหารทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ หรือมีบาดแผลเปิดที่สัมผัสกับเชื้อนี้ ในคนที่แข็งแรงดีเมื่อกินอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อนี้จะทำให้มีอาการในระบบทางเดินอาหาร  ส่วนในคนที่มีภูมิคุ้มกันไม่ปกติโดยเฉพาะถ้ามีโรคตับอยู่ มักจะมีการติดเชื้อในกระแสเลือด (bacteremia) ร่วมด้วย ทำให้มีอาการรุนแรงและอาจถึงกับเสียชีวิตได้

มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าคนที่มีโรคตับจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดมากกว่าคนปกติ 80 เท่าเมื่อรับเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย และอัตราการตายของคนที่มีการติดเชื้อวิบริโอ ในกระแสเลือดจะสูงถึงประมาณร้อยละ 50 และร้อยละ 95 ของสาเหตุการตายที่เกิดจากการกินอาหารทะเลมาจากการติดเชื้อนี้

อาหารทะเลที่ปนเปื้อนเชื้อวิบริโอนี้ไม่อาจแยกแยะได้จากการดูจากภายนอก เพราะไม่มีการเปลี่ยนแปลงของรูปร่าง สี กลิ่น หรือรส จึงไม่ควรกินอาหารทะเลดิบโดยเฉพาะหอยนางรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่เป็นโรคตับหรือภูมิคุ้มกันไม่ปกติ ควรทำอาหารทะเลให้สุก อาหารจำพวกหอยจำเป็นจะต้องทำให้สุกจนฝาหอยเปิดออก และต้มต่ออีก 5 นาทีหรือนึ่งต่ออีก 10 นาทีหลังจากที่ฝาหอยเปิดออก ไม่กินหอยที่ฝายังปิดอยู่หลังจากที่ทำสุกแล้ว ควรระวังไม่ให้อาหารที่ตั้งใจกินดิบ ๆ เช่น ผักสด แตงกวา สัมผัสกับอาหารทะเลที่ยังดิบและรอทำให้สุกด้วย

อย.ถึงขั้นประกาศเตือน ผู้นิยมกินหอยนางรมสดอยู่บ่อย ๆ เพื่อให้ระวังอันตรายจากเชื้อกลุ่มวิบริโอ ซึ่งจะทำให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร มีอาการท้องเสีย และมีไข้สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้สูงอายุ ผู้ที่เป็นโรคตับ โรคไต มะเร็ง เบาหวาน โรคเอดส์ และผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคหอยนางรมสด แนะควรกินแบบสุก เพื่อความปลอดภัยกันดีกว่า

นอกจากหอยนางรมสดจะมีความเสี่ยงจากอาหารเป็นพิษดังที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว หอยนางรมยังมีปริมาณคอเลสเตอรอลในปริมาณสูงอีกด้วย ซึ่งจะมีผลต่อระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายเราด้วย ดังนั้นทางที่เราจะลดความเสี่ยงจากการทานหอยนางรม แต่ยังคงได้รับแร่ธาตุสังกะสีเพื่อเพิ่มความปึ๋งปั๋งนั้น ยังมีอาหารอีกหลากหลายชนิดที่จะพบสังกะสีได้ เช่น เนื้อ ตับ ไข่ นม ไก่ และปลา ซึ่งเนื้อสัตว์ที่มีไขมันมากจะมีสังกะสีน้อย เนื่องจากในส่วนไขมันจะมีสังกะสีน้อย เนื้อสัตว์ที่มีสีแดงจะมีสังกะสีสูงกว่าเนื้อสัตว์ที่มีสีขาว ธัญญาหารเป็นแหล่งสังกะสีเช่นกัน ปริมาณสังกะสีในธัญญาหารขึ้นกับการขัดสี สังกะสีจะมีมากบริเวณเปลือกนอกของเมล็ด ดังนั้นเมล็ดพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย เช่น ข้าวซ้อมมือจะมีสังกะสีมากกว่าข้าวที่ขัดสีจนขาว แต่ในพืชจะมีสารไฟเตทซึ่งจะยับยั้งการดูดซึมสังกะสีในลำไส้ ทำให้ร่างกายได้รับสังกะสีจากอาหารเหล่านี้น้อยลง

หากต้องการที่จะทานหอยนางรมสดกันจริง ๆ ผู้เขียนคงได้เพียงแนะนำว่า ควรเลือกรับประทานจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ผ่านกระบวนการจัดเก็บ ตระเตรียมมาอย่างสะอาด อย่างไรก็ดี ก็ไม่ได้เป็นการการันตีว่าจะไม่มีเชื้อวิบริโอที่จะก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษนี้ปะปนมา อย่าลืมตระหนักถึงประโยคที่ว่า You are what you eat อยู่บ่อย ๆ นะคะ เพื่อสุขภาพที่ดีและความปลอดภัยในการเลือกทานของเราและคนที่เรารัก

เนื้อหาบางส่วนจาก  http://www.doctor.or.th/clinic/