รู้ยังอยู่ที่ไหน? โรงแรมกีฬาแห่งแรกในไทย ทุ่มทุนสรัางกว่า 250 ล้าน

นับวันสโมสรฟุตบอล "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ทีมจ่าฝูงแห่งไทยพรีเมียร์ลีก ทีมดังจากแดนดินถิ่นอีสาน ฉายาปราสาทสายฟ้า จะแข็งแกร่งแรงสมชื่อ หลังทะลุผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2013 ได้อย่างสวยสดงดงาม

คงต้องยกเครดิตให้กับประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ที่เป็นแกนนำความเปลี่ยนแปลง ชนิดที่ต้องเรียกว่า "เสกได้" ให้ทีมฟุตบอลเก่งเพียงข้ามปี

และเนรมิตสนาม "ไอ-โมบาย สเตเดียม" ให้เป็นแลนด์มาร์กของจังหวัดบุรีรัมย์
มากกว่านั้น บิ๊กเนวินยังวางแผนเตรียมผุดเมกะโปรเจ็กต์อลังการงานสร้างอีกเพียบ !

แผนทั้งหมดหวังดันเมืองบุรีรัมย์ให้ทะยานขึ้นเป็น 1 ใน 5 จังหวัดน่าเที่ยวสุดของไทย

งานนี้ "ใครไม่แน่จริง ทำไม่ได้"

ล่าสุด ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จับมือออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป และกลุ่มโรงแรมอมารี ทุ่มทุน 250 ล้านบาท สร้าง "อมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" โรงแรมหรูที่ได้แรงบันดาลใจจากกีฬาฟุตบอลแห่งแรกของเมืองไทย ในเมืองที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจวัดจาก GDP อยู่ในอันดับ 70 กว่า ๆ จาก 77 จังหวัด โดยจะเปิดบริการ 4 ตุลาคม 2556

ประชาชาติธุรกิจมีโอกาสได้พูดคุยถึง "โรงแรมกีฬาแห่งแรก" ที่บุรีรัมย์ กับ ม.ล.สุรวุฒิ ทองแถม รองประธานอาวุโสฝ่ายขาย ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ถือเป็นกลุ่มโรงแรมแรกที่กระโดดเข้ามาจับเทรนด์ "สปอร์ตทัวริซึ่ม" หรือการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ที่กำลังจะเบ่งบานในเมืองไทย 

"สปอร์ตทัวริซึ่มมีอนาคตสดใสแน่นอน เพราะกีฬาหลายอย่างในเมืองไทยได้รับการสนับสนุนและความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทีมวอลเลย์บอล แบดมินตัน กอล์ฟ มวย ของไทยก็ติดอันดับโลก ขณะที่อีเวนต์กีฬาจะเป็นตัวช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้" ม.ล.สุรวุฒิกล่าว

แต่กีฬาที่ติดสปริงบอร์ดเติบโตเร็วน่าจับตามอง ยกให้ "ฟุตบอลไทยลีก"

ม.ล.สุรวุฒิโฟกัสไปที่ "ทีมตัวแทนระดับจังหวัด" มากกว่าทีมขององค์กร ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนการท่องเที่ยวภายในประเทศ นั่นเป็นเพราะทีมจังหวัดมีฐานแฟนคลับที่มีความรู้สึกร่วม ความภาคภูมิใจกับทีมมากกว่าในฐานะเป็นคนในจังหวัด ชวนคิดไปถึงทีมแมนฯยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล ที่เป็นเหมือนหน้าตาของเมืองนั้น ๆ 

ในวันที่ "ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ผงาดไปแข่งไกลถึงระดับเอเชีย ช่วยขยายฐานแฟนคลับในต่างประเทศ เช่น เซี่ยงไฮ้, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ บวกกับกลุ่มแฟนคลับชาวไทยที่ตามเชียร์ทีมบุรีรัมย์ฯอยู่ไม่ห่าง ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามฟอร์มการเล่นที่ดีวันดีคืน 

เมื่อเกิดการแข่งขันในแต่ละแมตช์ โดยเฉพาะ "แมตช์เหย้า" ทีมเจ้าบ้านจึงต้องมีสถานที่และที่พักคอยรองรับบรรดาผู้มาเยือนต่างถิ่นทั้งไทยและเทศ ทั้งผู้ใหญ่ในวงการฟุตบอลระดับ V.I.P. และกลุ่มแฟนคลับที่หลั่งไหลมาเชียร์ทีมโปรด

ม.ล.สุรวุฒิเล่าให้ฟังว่า หลังจากได้พูดคุยกับผู้ลงทุนฝ่ายบุรีรัมย์ฯ ลงความเห็นสร้างเป็นโรงแรมที่มีกลิ่นอายแตกต่างจากที่อื่น ในชื่อ "อมารี บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ระดับ 4 ดาว ภายใต้บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สปอร์ต โฮเต็ล จำกัด โดยให้ออนิกซ์ฯรับเป็นผู้บริหารโรงแรมแห่งนี้

ด้วยความโดดเด่นไม่มีใครเหมือน ราวกับพักผ่อนอยู่ในสนามแข่งขันกีฬาฟุตบอลจริง ๆ 

โครงสร้างอาคารได้รับแรงบันดาลใจจากไอ-โมบาย สเตเดียม ตกแต่งห้องนอนในแบบห้องพักนักกีฬา มีจำนวน 60 ห้อง แบ่งเป็นห้องแบบซูพีเรียร์, ห้องเดอลุกซ์ และห้องสวีต ส่วนห้องอาหารให้นั่งทานบนม้านั่งยาวเหมือนอยู่ร่วมโต๊ะกับนักเตะ

เพียงแค่เดินออกจากตัวโรงแรมไม่กี่นาที แฟนบอลก็จะได้รับชมบรรยากาศสด ๆ ของเกมการแข่งขัน

"นี่เป็นความแปลกใหม่ เป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่เป็นส่วนหนึ่งในสนามฟุตบอล คนไปพักจะได้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งในเกมแข่งขันฟุตบอล สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวเชิงกีฬา"

โดยเพิ่มเสน่ห์เฉพาะตัว สะท้อน "บุรีรัมย์สไตล์" ทั้งการนำวัตถุดิบจากท้องถิ่นมาประกอบอาหาร จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าหัตถกรรมของชาวบุรีรัมย์ ช่วยสร้างงานให้กับคนในพื้นที่ และดึงแรงงานกลับถิ่นฐาน

ที่เน้นจุดขายเรื่อง "สปอร์ตทัวริซึ่ม" ม.ล.สุรวุฒิเชื่อว่าเป็นไปได้แน่นอน แม้แต่จะหวังไปไกลถึงการเป็น "ศูนย์แข่งขันกีฬาแห่งอาเซียน" เมื่อก้าวสู่ AEC ก็มีลุ้น

ดังนั้นเมืองบุรีรัมย์ ไม่ใช่เมือง "เซราะกราว" ขนาดเล็ก ๆ อยู่นอกสายตาอย่างในอดีต แต่จะพลิกเป็น "เมืองแห่งกีฬา" ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ปักหมุดในแผนการเดินทาง

ที่สำคัญมักจะมีสิ่งใหม่ ๆ เกิดขึ้นให้เซอร์ไพรส์เสมอ 

ไม่ว่าจะเป็นสนามฟุตบอลสุดอลังการ โรงแรมหรู สนามแข่งรถระดับโลก "บุรีรัมย์ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต", "สวนน้ำวอเตอร์ธีมปาร์ค", "สนามแข่งเจ็ตสกี" 

ต้องลุ้นกันว่าจะมีอะไรให้ฮือฮา..! ได้อีก

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน