วันแห่งความรักของจีน



วันที่ 7 เดือน 7 ทางจันทรคติของจีน(ปีนี้ตรงกับวันพฤหัสบดี ที่ 13 สิงหาคม) ถือว่าเป็นวันสำคัญวันหนึ่งทางประเพณีจีนคือ วันแห่งความรัก ซึ่งเทียบได้กับวันวาเลนไทน์ของฝรั่ง

วันแห่งความรักเป็นวันสำคัญและมีความหมายอย่างยิ่งของหนุ่มสาวที่กำลงอยู่ในวัยกำดัดรักทั้งหลาย คือเป็นวันที่พวกเขาจะมีโอกาสนัดพบหรือแสวงหาคนรักตามที่ตนปรารถนา

การถือเอาวันดังกล่าวเป็นวันแห่งความรักมีที่มาจากตำนานปรัมปราว่า นานมาแล้วมีเทพธิดาทอผ้าเลอโฉมนางหนึ่ง นางเป็นธิดาองค์สุดท้องในจำนวน 7 องค์ของเจ้าสวรรค์ ยวี่-หวง-ต้า-ตี้ (玉皇大帝 ) กิจวัตรประจำวันของนางได้แก่การทอผ้าเป็นเครื่องนุ่งห่มแก่ทวยเทพทั้งหลาย ต่อมานางได้พบกับโคบาลหนุ่มซึ่งรับผิดชอบเลี้ยงดูฝูงวัวของเจ้าสวรรค์ ก็เกิดจิตพิสมัยตรงกันผูกพันเป็นความรู้สึกที่ล้ำลึกในเวลาต่อมา

จากรักกันลั่นเปรี้ยงเสียงดังตึงตังนั่นเอง ความได้ล่วงรู้ถึงเจ้าสวรรค์ ทั้งสองได้ถูกเรียกตัวไปพบและถามถึงข้อเท็จจริง เมื่อประจักษ์ว่าทั้งคู่รักกันจริงก็ไม่ว่ากระไร กลับจัดแจงทำพิธีสมรสให้อย่างเอิกเกริก โดยขอเพียงแต่ว่าเมื่อแต่งงานแล้ว อย่าลืมหน้าที่การงานเป็นพอ

หลังพิธีแต่งงานและดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าสวรรค์คิดขึ้นมาได้ว่า หากขืนให้สองผัวเมียอยู่ด้วยกันทุกวันอาจจู๋จี๋กันเพลินจนไม่เป็นอันทำการทำงานเป็นแน่ จึงมีบัญชาให้นกขุนทองลงไปบอกแก่สองสามีภรรยาว่า ให้เขาทั้ง 2 พบกันได้เพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น นกขุนทองเมื่อได้รับบัญชาแล้วก็รีบไปบอกผัวหนุ่มเมียสาวทันที แต่จะเป็นเพราะฟังไม่ได้ศัพท์ จับเอาไปกระเดียดหรืออย่างไรก็ไม่รู้ได้ กลับบอกไปว่าเจ้าสวรรค์อนุญาตให้ทั้งสองอยู่ด้วยกันทุกทิวาราตรีกาล จึงเป็นที่ชื่นชมยินดีของผัวหนุ่มเมียสาวในระยะข้าวใหม่ปลามันยิ่งนัก ทั้งคู่ขลุกอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน โดยฝ่ายหญิงลืมทอผ้า ฝ่ายชายลืมเลี้ยงวัวโดยสิ้นเชิง ครั้นเจ้าสวรรค์รู้เข้าก็ให้โกรธเป็นกำลัง จึงมีประกาศิตลงไปให้เทพธิดาทอผ้ากลับไปทอผ้าเช่นที่เคยปฎิบัติมา และให้โคบาลกลับไปเลี้ยงวัวตามเดิม จะพบกันได้ปีละครั้ง ในวันที่ 7 เดือน 7 โดยนกขุนทองที่รู้ตัวดีว่าเป็นผู้ทำให้สองสามีภรรยาต้องถูกแยกออกจากกันจะบินต่อเชื่อมเป็นสะพานให้ทั้งสองได้เดินมาพบกันในวันดังกล่าว 

ชาวจีนคงจะซาบซึ้งกับตำนานรักเรื่องนี้มาก จึงยกย่องและนับถือให้ความรักของเทพธิดาช่างทอผ้ากับโคบาลหนุ่มเป็นเทพเจ้าแห่งความรัก และถือเอาวันที่ 7 เดือน 7 ที่ทั้งสองได้พบกับเป็นวันแห่งความรัก เป็นประเพณีสืบทอดกันมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้ 

จากตำนานเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่า ชาวจีนสมัยก่อนให้ความสำคัญต่อท่าทีของการทำงานและความรับผิดชอบต่อหน้าที่มาก แต่ปัจจุบัน ความหมายอันแท้จริงของวันแห่งความรักนี้ กำลังแปลเปลี่ยนไป โดยผู้คนจะให้ความสำคัญไปที่ประเด็นคู่รักถูกพลัดพรากจากกันมากกว่า

วันแห่งความรักของจีน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์