เรื่อง...สิว...สิว


เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ลา โรช-โพเซย์ จัดงาน The Perfect Match for your Acne by La Roche-Posay เลือกคู่ที่ใช่กับปัญหาสิวของคุณ ภายในงานมีกิจกรรมตรวจเช็คสภาพผิว เพื่อเลือกเวชสำอางที่เหมาะสม ลดการระคายเคืองและก่อให้เกิดสิว โดยระดับปัญหาสิวมี 3 แบบ ได้แก่
 
ผิวหน้ามันเงา สังเกตได้จากผิวหน้ามันเงาตลอดวันและรูขุมขนกว้าง ถัดมาเป็น

ผิวมีสิวอุดตัน ปัญหาที่พบคือ ผิวหน้าไม่เนียนเรียบเมื่อสัมผัส ผิวหน้าหมองคล้ำและมีชั้นผิวที่หนาผิดปกติ และดูโอ้ หรือ

ผิวที่มีทั้งสิวอักเสบและอุดตัน
สังเกตจากผิวหน้าไม่เรียบเนียน หมองคล้ำ มีสิวหัวดำหรือสิวหัวขาว และมีการอักเสบของสิว

นายแพทย์ วาสนภ วชิรมน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางผิวหนัง แผนกผิวหนังและเลเซอร์ คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เล่าว่า สิว เป็นการอุดตันของระบบต่อมไขมันในรูขุมขน เกิดจากปัจจัยหลัก 2 ประการ ได้แก่ ปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ระดับฮอร์โมน, กรรมพันธุ์, พื้นผิวดั้งเดิม, อารมณ์ และความเครียด อีกปัจจัยคือปัจจัยภายนอก เช่น ยา, ครีมและเครื่องสำอางบางชนิด, แสงแดด, อุณหภูมิ และอาหาร โดยสิวที่พบแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ สิวที่ไม่มีการอักเสบ เช่น สิวอุดตันหัวขาว (สิวอุดตันหัวปิด), สิวอุดตันหัวดำ (สิวอุดตันหัวเปิด) และ สิวที่มีการอักเสบ เช่น สิวที่เป็นตุ่มแดง (สิวอักเสบ), สิวที่มีหนอง (สิวตุ่มหนอง), สิวอักเสบขนาดใหญ่ (สิวหัวช้าง) และสิวที่มีการทำลายของผิวข้างในจนเป็นโพรงคล้ายซีสต์

วิธีการรักษา คุณหมอวาสนภ บอกว่ามี 2 ชนิด คือ การรักษาหลักได้แก่การใช้ยา ซึ่งยาชนิดทาที่นิยมใช้ เช่น ยาทาที่มีส่วนผสมของเบนโซอิลเปอร์ออกไซด์ ยาปฏิชีวนะ (เช่น คลินดามัยซิน อีรีโทรมัยซิน) ยาทาที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ (เช่น เตตริโนอิน ไอโซเตตริโนอิน อะดาพาลีน) และยาทาที่มีส่วนผสมของกรดอะเซเลอิค สำหรับยารับประทานที่นิยมใช้คือยากลุ่มปฏิชีวนะ ยากลุ่มฮอร์โมน และยากลุ่มอนุพันธ์วิตามินเอ การรับประทานยาสิวไม่ว่าจะเป็นยาตัวใดก็ตาม ควรรับประทานติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 3 เดือน หากหยุดยาเร็ว สิวจะกลับมาเป็นใหม่ได้ง่าย อีกชนิดคือ การรักษาเสริม อาทิ การกดสิว, การฉีดยาสิว และการใช้เลเซอร์ เป็นต้น

ส่วนวิธีการรักษาและปกป้องผิวที่เป็นสิว เภสัชกร นิวัตร ธีรวิวัฒน์วงศ์ ผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ ลา โรซ-โพเซย์ แนะนำว่า

1. การทำความสะอาด ควรล้างหน้าวันละ 2 - 3 ครั้ง เพื่อลดความมันบนใบหน้า เวลาล้างหน้าไม่ควรถูแรง ๆ ไม่ควรสครับ และที่สำคัญควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่อ่อนโยนเหมาะกับผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง คัดสรรส่วนผสมที่ดี สูตร soap-free ปราศจากพาราเบน (paraben-free) ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ไม่มีสารแต่งสี ไม่มีความเป็นกรด ด่างมากเกินไป ควรมีค่าความสมดุลต่อผิวที่ pH 5.5 และไม่ควรมีความเข้มข้นมากจนเกินไปจนทำให้หน้าแห้งตึง และจะดีมากสำหรับผิวมันเป็นสิว หากหลังล้างแล้วหน้าไม่แห้งตึง และมีสารช่วยลดความมัน จำพวกซิงค์ จะช่วยให้หน้าไม่มันเงาด้วย

2. เลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารเคลือบผิว (Occlusive component) ส่วนมากเป็นสารไขมันที่ทำหน้าที่เคลือบผิว ป้องกันการสูญเสียน้ำจากผิว หรือมีส่วนผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดสิว ควรเลือกที่เป็นสูตร oil-free และ non-comedogenic

3. การรักษาเบื้องต้นในกรณีที่เป็นสิวระยะต้น หรือไม่รุนแรง (Mild Acne) อาจทาครีมกลุ่มเวชสำอางที่มีส่วนผสมของกรดความเข้มข้นไม่มาก เช่น LHA (Lipo-Hydroxy Acid) เพื่อทำให้มีการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ลดการอุดตันของสิว ลดรอยดำคล้ำจากสิวได้ ร่วมกับการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว สำหรับผิวมัน ระคายเคืองง่าย ควรเลือกที่มีสาร เช่น ไนอะซีนามายด์ จะช่วยลดการระคายเคืองผิว

4. เมื่อเป็นสิวรุนแรงมากขึ้น (Moderate to Severe Acne) หรือไม่สามารถควบคุมได้ อาจต้องใช้วิธีการรักษาอื่นร่วมด้วย เช่น การทายา การรับประทานยา หรือวิธีร่วมอื่น ๆ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง สำหรับการทายา การรับประทานยารักษาสิว ได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ อาจมีผลข้างเคียงต่อผิว เช่น ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ไวต่อการระคายเคือง แสบ แดง เมื่อสัมผัสโดนแสงแดด ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์มอยเจอร์ไรเซอร์ กลุ่มเวชสำอาง เพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้นผิว ร่วมด้วยนั้น ควรเลือกที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เป็นสูตร oil-free สูตร non-comedogenic มีค่า pH ใกล้เคียงผิว ปราศจากพาราเบน (paraben-free) และผ่านการทดสอบทางคลินิก

5. คนผิวมันที่กังวลเกี่ยวกับหน้ามันเงา ให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มเวชสำอางเป็นมอยเจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า ควบคุมความมัน ควรเลือกที่เป็นสูตร Oil-free Texture ที่มีสารพวกซิงค์, เพอร์ไลท์, ซิลิก้า หรือสารที่มีคุณสมบัติซีบูไรส (Sebulyse) ที่ทำงานตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการผลิตน้ำมัน เพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน ช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้า และกระชับรูขุมขน สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวมันเงา

6. ทากันแดดสม่ำเสมอ
7. ควรหลีกเลี่ยงการนวดหน้า
8. อย่าใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสใบหน้า และไม่ควรจับสัมผัสหน้าบ่อย ๆ
9. อย่าบีบหรือแกะสิว กดสิว เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อเพิ่มขึ้น และเกิดรอยแผลเป็น
10. อย่าปล่อยให้ผมมัน สำหรับผู้ที่มีผมมันมีรังแค ควรสระผมบ่อย ๆ พร้อมทั้งงดการใช้น้ำมันใส่ผม
11. หลีกเลี่ยงความเครียด อารมณ์หงุดหงิดและการนอนดึก
12. หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เหงื่อออกมากเกินไป เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดการอุดตัน

หาก 12 ข้อยาวไป ลองวิธีง่าย ๆ คือ อย่านอนดึก รับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ เน้นผักผลไม้ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับรองสวยจากภายในสู่ภายนอก ไร้สิว กวนใจ


เรื่อง...สิว...สิว

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์