กูลิโกะ เป็นยี่ห้อขนมชื่อดังของญี่ปุ่น ผลิตโดย บริษัท เอซากิ กูลิโกะ จำกัด ผู้ก่อตั้งกิจการนามว่า ริอิจิ เอซากิ
ริอิจิเกิดในจังหวัดซางะ เกาะคิวชู ทางใต้ ปีค.ศ.1882 ตรงกับพ.ศ.2425 เมื่อเรียนจบระดับประถมศึกษาในการเรียน 4 ปี ตอนอายุ 14 ปี ก็เริ่มมาช่วยกิจการเภสัชกรรมของครอบครัว พร้อมกับอาศัยอ่านตำราชั้นมัธยมฯ ที่ขอยืมมา
ช่วงเวลานี้ไปพบครูที่อยู่ใกล้ๆ บ้านเพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ รวมถึงการทำธุรกิจ เรียนรู้ว่า ธุรกิจไม่ได้ทำเพื่อตนเองเท่านั้น แต่ต้องทำเพื่อสังคมด้วย หากคนขายได้กำไรจากการขายของและคนซื้อได้กำไรจากคุณค่าของสินค้า การใช้เงินจึงคุ้มค่า ริอิจิ เอซากิจึงถือหลักการว่า "ธุรกิจเท่ากับการบริการ" ตลอดชีวิตโดยจากโลกไปในปีพ.ศ.2523 ขณะอายุ 97 ปี
เขาก่อตั้งบริษัทเอซากิ กูลิโกะ ในปีพ.ศ.2465 ที่โอซาก้า ชื่อบริษัทคำแรกมาจากนามสกุล ส่วนอีกคำคือ กูลิโกะ เป็นคำย่อจาก ไกลโคเจน (Glycogen) โมเลกุลคาร์โบไฮเดรตเก็บสะสมไว้ในเซลล์ มีความเชื่อมโยงกับน้ำตาลในเลือด
มีเคล็ดว่า ยิ่งนักวิ่งรักษาระดับของไกลโคเจนไว้ได้นานเท่าไร ก็เท่ากับว่าความอึดก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
ริอิจิสกัดไกลโคเจนจากหอยนางรมสด ในรูปแบบของน้ำตาล ทำขนมที่สร้างชื่อให้กับบริษัทตัวแรก คือลูกกวาดคาราเมล มีโลโก้ที่กล่องเป็นรูปนักวิ่งบนลู่วิ่งสีน้ำเงิน สื่อถึงไกลโคเจนหรือกูลิโกะที่กล่าวมา
พร้อมคำอธิบายว่า ในการกินขนมคาราเมลกูลิโกะ 1 ชิ้นนั้น มีแคลอรีอยู่ที่แท่งละ 15.4 กิโลแคลอรี ซึ่งเพียงพอต่อการนำพลังงานไปใช้ในการวิ่งเป็นระยะทาง 300 เมตร ส่วนฉากหลังเป็นวงกลมสีแดงธงชาติญี่ปุ่น และย่านดงบุริ แหล่งบันเทิงของเมืองโอซาก้า
ในปี 2488 ปีสุดท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานกูลิโกะในโอซาก้าถูกทิ้งระเบิดพังยับ เช่นเดียวกับที่กรุงโตเกียวต้องปิดตัวลง ทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตขนมออกจำหน่ายได้ทั้งในและต่างประเทศ
อีก 6 ปีต่อมากิจการเริ่มฟื้นตัวและกลับมาเปิดโรงงานอีกครั้งในปี 2494 พร้อมขยายสาขาไปเปิดโรงงานที่เกาะคิวชู และดำเนินกิจการรวมทั้งพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาดเรื่อยมา
ในปีพ.ศ.2509 บริษัทเอซากิ กูลิโกะ คิดค้นดัดแปลงขนมปังกรอบเพรตซ์แบบแท่งยาว (Pretz) มาเคลือบด้วยช็อกโกแลตทั้งแท่ง แล้วใช้กระดาษสีเงินมาห่อตรงปลายเพื่อไม่ให้มือเลอะเทอะเวลากิน แต่ก็ติดปัญหาด้านต้นทุนและการผลิต สุดท้ายจึงเคลือบช็อกโกแลต (รวมถึงรสชาติอื่นๆ) โดยเว้นส่วนปลายแท่งไว้นิดหน่อยเพื่อให้เป็นเหมือนกับ "ที่จับ" ดังที่เห็นในปัจจุบัน
แต่เดิมขนมชนิดนี้ใช้ชื่อว่า ช็อกโกเทก (Chocoteck) ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่วัยรุ่นชาวญี่ปุ่น จนทำยอดขายอย่าง ฮือฮาในการออกวางจำหน่ายช่วง 2 ปีแรก ต่อมาจึงได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น ป๊อกกี้ (Pocky) มีที่มาจากเสียง "ป๊อก" เวลากัดขนม
ตั้งแต่ปีพ.ศ.2514 ทางบริษัทผลิตป๊อกกี้รสชาติใหม่ๆ ออกมาเรื่อยๆ
บริษัทกูลิโกะรักษาความเป็น ผู้ผลิตขนมชั้นนำระดับโลกมาอย่างยาวนาน นอกจากพัฒนาตัวสินค้าแล้ว ยังมีแผนการตลาดที่มีสีสันไม่หยุดนิ่ง เช่น เป็นสปอนเซอร์ให้ กับการ์ตูนเรื่องเท็ตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28 และล่าสุดออกเวอร์ชั่นหนัง Star Wars เทียบแท่งกูลิโกะป๊อกกี้ กับดาบเลเซอร์ ไลต์ เซเบอร์ ออกมาอย่างมีอารมณ์ขันและน่ากิน