กินเจ สุขภาพดี ต้องหลีกหนี แป้ง มัน เค็ม



เทศกาล ”ถือศีล-กินเจ” ล่วงเลยมาได้หลายวันแล้ว คุณผู้อ่านที่รักสุขภาพทั้งหลาย เลือกทานอะไรกันไปบ้างคะ? เลือกทานอาหารเจที่ดีต่อสุขภาพหรือเปล่า? บทความสุขภาพปีนี้ผู้เขียนจึงขอเป็นตัวช่วยในการย้ำเตือนคุณผู้อ่านที่ทั้งรักสุขภาพ ที่ตั้งใจจะรักษาศีล-กินเจ เพื่อลดการเบียนเบียนการฆ่าสัตว์ ให้ได้มีสุขภาพที่ดี ตลอดเทศกาล ถือศีล-กินเจ ในปีนี้ และปีต่อ ๆ ไปกัน

น่าดีใจที่กระแสการถือศีล-กินเจ ที่มีมากขึ้น ทำให้ทุก ๆ ปีมีปริมาณคนกินเจกันเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาที่จะมีผู้ประกอบการขายอาหารเจ เพื่อรองรับผู้บริโภคจำนวนมากเหล่านี้ อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน ว่าร้านค้าต่าง ๆ แทบทุกร้าน ทั้งร้านอาหารข้างทาง ร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆในห้างสรรพสินค้า ไปจนถึงร้านที่ขายอาหารเจโดยเฉพาะ ก็จะต้องมีเมนูอาหารเจให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ เลือกทานเป็นจำนวนมาก แต่อาหารเจที่ขายกันอยู่ในปัจจุบันส่วนใหญ่ มักเป็นอาหารเจที่อุดมไปด้วย แป้ง ไขมัน และเกลือ ซึ่งหากเราได้รับเข้าสู่ร่างกายเป็นจำนวนมาก การกินเจที่เราคิดว่าดีเพราะปราศจากเนื้อสัตว์เหล่านี้อาจเป็นอาหารที่ส่งผลร้ายกับร่างกายเราได้

ซึ่งคุณผู้อ่านทราบกันดีอยู่แล้วว่า การทานแป้ง เป็นจำนวนที่มากเกินความพอดี จะมีผลต่อโรคอ้วน โรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด และอาจมีความเสี่ยง และผลต่อโรคบางโรค เช่น โรคเบาหวาน มะเร็ง อัลไซเมอร์ หรือ โรคเกี่ยวกับตาอีกด้วย ส่วนไขมัน หากร่างกายได้รับเกินความพอดีที่จะนำไปใช้งาน ก็จะทำให้ร่างกายมีน้ำหนักและไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้น มีระดับไขมันในเลือดสูงจะส่งผลทำให้หลอดเลือดแดงแข็ง ตีบ อุดตัน ส่งผลให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย หลอดเลือดที่ไปเลี้ยงขาตีบตัน ตับอ่อนอักเสบ ส่วนการทานเกลือมากเกินความพอดี จะทำให้ร่างกายมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคลมปัจจุปัน (หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก) โรคหัวใจ และ ไตวาย รวมทั้ง โรคกระดูกพรุนได้อีกด้วย

เห็นไหมว่า ทั้งแป้ง ไขมัน และเกลือ ส่งผลร้ายต่อร่างกายมากแค่ไหน มาดูกันดีกว่าว่าเทคนิคในการกินเจให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพ ควรพิจารณาถึงสิ่งใดกันบ้าง

1. เลือกกินให้ครบ 5 หมู่ในทุก ๆ มื้อ หลักนี้สำคัญมากและขาดไม่ได้เลย ไม่ว่าจะทานอาหารปกติ หรือทานอาหารเจ เราควรคำนึงถึงสัดส่วนอาหารในแต่ละหมู่ให้ครบในทุก ๆ มื้อ ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หากใครกลัวว่าทานเจแล้วไม่ละเว้นการทานเนื้อสัตว์จะได้โปรตีนไม่เพียงพอ ไม่ต้องกังวล ให้เน้นทานพืชตระกูลถั่ว เพื่อเป็นแหล่งโปรตีนกัน

2. เลือกกินข้าวหรือแป้งที่ไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืชต่าง ๆ ร่างกายใช้พลังงานในการย่อยออกมาเป็นแป้งที่พร้อมดูดซึม ซึ่งน้ำตาลไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับปริมาณที่เท่ากันของแป้งขัดขาว

3. เลือกกินของนึ่ง, ต้ม, ตุ๋น และเลี่ยงของทอดและผัด เพราะช่วยให้เลี่ยงการกินน้ำมัน ซึ่งมีไขมันอยู่สูง ข้อนี้สำคัญมาก ๆ สำหรับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และไม่อยากได้ไขมันส่วนเกินแถมมาในช่วงเทศกาลกินเจ

4. เลือกกินผักใบมากกว่าพืชหัว เพราะผักใบมีคาร์โบไฮเดรตที่น้อยกว่าพืชหัวมาก ดังนั้น การกินผักใบจะทำให้เราได้พลังงาน และปริมาณแป้งน้อยกว่าจึงไม่ทำให้อ้วน

5. กินหวานให้น้อยลง ไม่ใช่ว่าเมื่อคุณกินเจแล้ว จะสามารถกินขนมหวานได้เต็มที่ เพราะไม่ว่าจะเป็นอาหารเจหรือไม่เจ ถ้ามีความหวานและผสมน้ำตาลอยู่มากก็อ้วนได้ไม่ต่างกัน

6. ควรกินผลไม้หลาย ๆ สี ทั้งแดง, เขียว, ขาว, เหลือง, ดำ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่หลากหลายและเพียงพอ รวมไปถึงมีไฟเบอร์ที่จะช่วยระบบขับถ่าย ช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียและสารพิษตกค้างออกมา ส่วนใครที่มักมีปัญหา กินเจแล้วหิวบ่อย ให้หาแอปเปิ้ลเขียว หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อยติดตัวไว้ ได้รองท้องแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกมากมายเลย

7. ควรกินพืชตระกูลถั่วด้วย เพราะเป็นแหล่งโปรตีน มีธาตุเหล็กสูง ช่วยสลายคอเลสเตอรอล ปัจจุบันถั่วถูกแปลงโฉมให้อยู่ในรูปของโปรตีนเกษตร ที่มีความคล้ายคลึงกับอาหารจริง ๆ แล้วแถมยังไม่มีไขมันด้วย แต่แนะนำให้เลี่ยงพวกถั่วทอดไว้ เดี๋ยวจะได้ไขมัน และคอเลสเตอรอลเพิ่มได้โดยไม่รู้ตัว

8. ควรกินให้หลายหลาย หลักการเดิม ๆ ที่ผู้เขียนเองมักเตือนทุก ๆ ท่านอยู่บ่อย ๆ ว่าไม่ควรทานอะไรซ้ำ ๆ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการสะสมของอันตราย โดยเฉพาะอันตรายทางเคมีที่เรามองไม่เห็น และสะสมในร่างกายจนเกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ โดยเฉพาะอาหารเจที่มีไขมันสูง บรรจุในกล่องโฟม อาหารปิ้ง ย่าง หรือทอด

ทราบอย่างนี้แล้วต่อไปในทุก ๆ ปีคุณผู้อ่านจะได้มีสุขภาพที่ดีจากการถือศีล-กินเจกันอย่างสบายใจด้วยหลักทั้ง 8 ข้อนี้ อย่าลืมนะคะว่า You are what you eat อยากมีสุขภาพดีต้องเริ่มที่การใส่ใจในอาหารที่เรารับประทาน ผู้เขียนขออนุโมทนาบุญกับผู้ที่รักษาศีล-กินเจทุก ๆ ท่านด้วย


"PrincessFangy"
twitter.com/PrincessFangy


กินเจ สุขภาพดี ต้องหลีกหนี แป้ง มัน เค็ม

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์