คนเด่นบนเวทีโลก2556

การเคลื่อนไปของโลกในปี 2556 ก่อเกิดสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งเป็นเรื่องน่ายินดีและเรื่องไม่คาดฝันอันน่าเศร้าใจ ที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลักใหญ่ล้วนพึงเกิดจากฝีมือมนุษย์เราด้วยกันเองนี่แหละ ว่าแล้วเข็มนาฬิกาเดินมาบรรจบถึงท้ายปี จึงขอประมวลบุคคลที่แสดงบทบาทโดดเด่นเป็นที่จับจ้องบนเวทีโลกในรอบปีนี้มาให้ท่านผู้อ่านได้หวนระลึกกันเป็นการส่งท้าย



เริ่มจาก "สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส" ประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก เชื้อสายอาร์เจนไตน์ ซึ่งเป็นโป๊ปพระองค์แรกที่มาจากภูมิภาคละตินอเมริกา ได้รับการยกย่องจากนิตยสาร "ไทม์" ให้เป็น "บุคคลแห่งปี" ประจำปี 2556 โดยแนนซี กิ๊บ บรรณาธิการอำนวยการของไทม์ ให้เหตุผลที่โป๊ปฟรานซิสสมควรได้รับการเชิดชูเกียรตินี้ก็เพราะว่า แม้พระองค์จะเพิ่งขึ้นมาดำรงตำแหน่งประมุขแห่งคริสตจักรได้เพียง 9 เดือน แต่พระองค์ทรงเป็นบุคคลเพียงไม่กี่คนที่สามารถเป็นศูนย์รวมใจของชาวโลกได้ในเวลาอันรวดเร็ว พระองค์ยังทรงเป็นศูนย์กลางการสนทนาของคนทั่วโลกในทุกแง่มุมตั้งแต่เรื่องความร่ำรวย-ยากจน ความยุติธรรม ความโปร่งใส ความทันสมัย โลกาภิวัตน์ บทบาทของสตรี ธรรมชาติของการแต่งงาน และเรื่องของอำนาจ พระองค์ยังทรงเปลี่ยนแปลงสารของศาสนจักรคาทอลิกจนสามารถเหนี่ยวนำคริสต์ศาสนิกชนหลายล้านคนที่คลายความศรัทธาไปจากศาสนจักรให้หันกลับมายังวาติกันอีก

ที่ทำเอาสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วเวทีโลก หนีไม่พ้นผลงานของ "เอ็ดเวิร์ด สโนวเดน" อดีตลูกจ้างสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (เอ็นเอสเอ) อันเป็นหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ที่นำเอาเอกสารข้อมูลในชั้นความลับมากมายมหาศาลของรัฐบาลสหรัฐออกมาตีแผ่สู่สายตาชาวโลกผ่านสื่อสำนักต่างๆ นั่นเผยให้เห็นปฏิบัติการของสหรัฐในการล้วงลูกรัฐบาลนานาชาติ ทั้งที่เป็นพันธมิตรและศัตรูของตนเอง ตลอดจนภาคเอกชนเรื่อยไปจนถึงประชาชนทั่วไปที่ถูกหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐดักฟังโทรศัพท์หรือสอดแนมข้อมูล ผลงานชิ้นโบแดงของสโนวเดนแต่พญาอินทรีไม่ปลื้มชิ้นนี้ ได้สั่นคลอนสัมพันธภาพระหว่างสหรัฐกับนานาประเทศให้ง่อนแง่นไปไม่น้อย

เรื่องของหัวใจที่เด็ดเดี่ยวกล้าหาญต้องยกให้เธอคนนี้ "มาลาลา ยูซาฟไซ" สาวน้อยชาวปากีสถาน และนักเคลื่อนไหวต่อสู้เพื่อสิทธิความเท่าเทียมด้านการศึกษา ซึ่งกลายมาเป็นที่รู้จักของชาวโลกหลังจากเธอซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 15 ปี ถูกกลุ่มติดอาวุธทาลิบันดักยิงบนรถโรงเรียนขณะกลับบ้าน เหตุเกิดในช่วงปลายปี 2555 กระสุนฝังเข้าที่ศีรษะอาการปางตาย แต่เธอยังรอดชีวิตมาได้ สาเหตุที่มาลาลาถูกมุ่งหมายเอาชีวิตเป็นเพราะการออกมาต่อสู้เรียกร้องให้เด็กผู้หญิงชาวปากีสถานได้เรียนหนังสือ เมื่อสปอตไลต์จากเวทีโลกส่องสว่างมาที่ตัวเธอ มาลาลาได้ใช้โอกาสนี้กระตุ้นให้สังคมโลกใช้การศึกษาเป็นอาวุธในการต่อสู้กับความรุนแรง มาลาลาใช้เวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติเมื่อไม่นานมานี้ตอกย้ำให้เห็นว่าการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ หากทุกคนได้รับการศึกษาอย่างเท่าเทียม ไม่เว้นแม้ลูกๆ ของกลุ่มผู้ก่อการร้ายและกลุ่มทาลิบัน ความรุนแรงก็จะหมดไป เพราะคนเหล่านี้กลัวการศึกษา ในตอนหนึ่งมาลาลายังให้แง่คิดอันแสนเฉียบคมเอาไว้ว่า หากเธอใช้ความรุนแรงต่อสู้กับกลุ่มทาลิบัน นั่นก็จะทำให้เธอไม่ต่างอะไรจากคนเหล่านั้น!!

น่าจะเป็นข่าวที่นำความปลาบปลื้มยินดีมาให้เป็นที่สุดอีกข่าวหนึ่งในรอบปีนี้ โดยเฉพาะสำหรับราชวงศ์วินด์เซอร์ ในการประสูติของเจ้าชายจอร์จ พระโอรสของคู่รักราชวงศ์บันลือโลก เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ และแคเธอรีน (เคท) พระชายา ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งถูกสายตาประชาชนและสื่อทั่วโลกจับจ้องมานานนับแต่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงตั้งครรภ์ ท่ามกลางการลุ้นกันตัวโก่งว่าทารกในครรภ์จะทรงเป็นพระโอรสหรือพระธิดา การประสูติของเจ้าชายจอร์จทำให้พระองค์รั้งตำแหน่งรัชทายาทลำดับที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษสืบต่อจากพระบิดาในการที่จะก้าวขึ้นเป็นกษัตริย์ในอนาคตทันที จากนี้เราคงจะได้เห็นพัฒนาการของเจ้าชายน้อยพระองค์นี้กันต่อไป


คนเด่นบนเวทีโลก2556

ภาวะสงครามกลางเมืองในหลายจุดของโลกยังไม่มีทีท่าจะดับมอดลงได้ง่ายๆ รวมถึงที่ยังเป็นผลต่อเนื่องมาจากปรากฏการณ์อาหรับสปริง อย่างในซีเรียที่อยู่ภายใต้ระบอบอำนาจของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ไม่เพียงจะเป็นหนึ่งในแก่นรากของปัญหาการสูญเสียเลือดเนื้อในซีเรียครั้งนี้เท่านั้น แต่อัสซาดยังเกือบนำพาซีเรียสู่ห้วงเหวแห่งสงครามกับภายนอกอีกด้วย หลังจากสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ขู่จะใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย หากกองกำลังรัฐบาลซีเรียยังไม่หยุดยั้งการประหัตประหารประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วยอาวุธเคมี แต่ที่สุดซีเรียก็สามารถเลี่ยงการถูกโจมตีครั้งใหญ่ได้ หลังจากอัสซาดยอมรับเงื่อนไขตามข้อตกลงที่รัสเซียร่วมเสนอกับสหรัฐซึ่งกำหนดเงื่อนไขให้ซีเรียยอมทำลายคลังอาวุธนิวเคลียร์ของตนเอง ถึงขณะนี้เป็นเวลากว่า 30 เดือนแล้วที่สงครามกลางเมืองในซีเรียยังคงดำเนินไป โดยที่มีรายงานประเมินตัวเลขผู้สังเวยชีวิตไปแล้วอย่างคร่าวๆ อยู่ที่มากกว่า 120,000 ราย

"ฮัสซัน โรห์ฮานี" นักการศาสนาผู้มีแนวคิดสายกลาง วัย 64 ปี ได้รับเลือกตั้งขึ้นเป็นประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยเสียงสนับสนุนเด็ดขาด 50.68 เปอร์เซ็นต์ เป็นการล้มคว่ำอิทธิพลของนายมาห์มูด อาห์มาดิเนจาด อดีตประธานาธิบดีสายแข็งกร้าวที่กุมอำนาจปกครองอิหร่านมานานถึง 8 ปีเต็มลงได้เป็นผลสำเร็จ การก้าวขึ้นมาของโรห์ฮานีได้ส่งผลให้บรรยากาศความสัมพันธ์ของอิหร่านที่มีกับชาติตะวันตกเริ่มปรับดีขึ้น โดยนำไปสู่การเปิดเจรจากับชาติตะวันตกเพื่อหาทางยุติปัญหาพิพาทโครงการนิวเคลียร์อิหร่านซึ่งชาติตะวันตกกล่าวหาว่าเป็นไปเพื่อพัฒนาการอาวุธ แต่อิหร่านยืนกรานปฏิเสธว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนเองมีขึ้นภายใต้วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในทางสันติ แม้จนถึงขณะนี้การเจรจาดังกล่าวยังไม่บรรลุผลความเห็นพ้องร่วมกัน แต่ก็นับเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนให้เห็นว่าอิหร่านเริ่มบ่ายหน้าสู่การมีปฏิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับประชาคมโลกมากขึ้นแล้ว

"เท็ด ครูซ" วุฒิสมาชิกหน้าใหม่วัย 42 ปี จากรัฐเท็กซัส สังกัดพรรครีพับลิกัน ผู้ปลุกปั่นให้เกิดการปิดทำการสำนักงานบางส่วนของรัฐบาลกลางที่ไม่จำเป็นทั่วประเทศ หรือกัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม เป็นการเดิมพันที่ไร้ซึ่งความหวัง เพื่อแลกกับการยกเลิกบังคับใช้กฎหมายที่เป็นผลงานความสำเร็จของประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ การอภิปรายเตะถ่วงเพื่อไม่ให้มีการลงมติ หรือ "ฟิลิบัสเตอร์" ครั้งยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวุฒิสภาสหรัฐที่กินเวลา 21 ชั่วโมง 19 นาทีนั้น มีเป้าหมายเพื่อตัดลดงบประมาณในรัฐบัญญัติประกันสุขภาพ ที่เรียกกันในชื่อว่า "โอบามาแคร์" นั่นทำให้ครูซถูกชาวอเมริกันมองด้วยความไม่สบอารมณ์ ทำให้เขาไม่เป็นที่นิยมเอามากๆ ในหมู่สมาชิกพรรครีพับลิกันด้วยกัน ขณะที่พรรคเดโมแครตแทบจะปกปิดความยินดีที่มีต่อครูซเอาไว้ไม่อยู่จากการที่เขาทำให้คะแนนนิยมของรีพับลิกันตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เรียกว่า เท็ด ครูซ จุดไฟเผาบ้านตัวเองซะแล้ว แต่ครูซยังคงเชื่อว่า เขาเป็นผู้ชนะ และได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

ขอปิดท้ายด้วยดาวเด่นที่เป็นสีสันในปีนี้ แต่เป็นไปในเชิงลบเสียมากกว่า ทว่าผู้คนกล่าวขวัญถึงเธอไปทั่ว "ไมลีย์ ไซรัส" นักแสดง นักร้องและนักแต่งเพลงชาวอเมริกันที่เข้าสู่วงการตั้งแต่เด็กๆ แต่ในปีนี้เธอติด 1 ในโผบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ด้วย หนึ่งในการแสดงของเธอที่เป็นที่โจษจันคือการแสดงบนเวที เอ็มทีวี วิดีโอ มิวสิค อวอร์ดส ซึ่งเป็นการเต้นยั่วยวนทางเพศ ไมลีย์ยังทำให้คำว่า "ทเวิร์ก" เป็นคำศัพท์ใหม่ที่ถูกบรรจุอยู่ในพจนานุกรมฉบับอ๊อกซ์ฟอร์ด แนนซี กิบส์ บรรณาธิการอำนวยการของไทม์ บอกว่า การทรงอิทธิพลไม่ได้จำกัดงวงเฉพาะแค่ในทางการเมืองเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงในการครอบงำทางวัฒนธรรมหรือจิตวิญญาณซึ่งไมลีย์ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคอนาจารที่ทุกล้วนแต่พกพากล้องถ่ายรูป....


คนเด่นบนเวทีโลก2556

เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์