'มาร์ค ซัคเคอร์เบอร์ก'เศรษฐีใจบุญที่สุดปี2013
"มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก" ได้รับการจัดอันดับให้เป็น "เศรษฐีใจบุญที่สุดของปี 2013" หลังบริจาคหุ้นมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาทให้การกุศล
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก บริการสังคมออนไลน์บนอินเตอร์เน็ต ได้ชื่อว่า เป็นเศรษฐีใจบุญที่สุดประจำปี 2013 หลังจากบริจาคหุ้นเฟซบุ๊ก 18 ล้านหุ้น มูลค่า 990 ล้านดอลล่าร์ หรือเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ให้กับมูลนิธิซิลิคอน แวลลีย์ คอมมิวนิตี้
จากการจัดอันดับเศรษฐีใจบุญโดยหนังสือพิมพ์รายปักษ์ เดอะ ครอนนิเคิล ออฟ ฟิแลนโธรพี่ (The Chronicle of Philanthropy)
ที่รวบรวมข้อมูลการบริจาครายใหญ่ ที่ถือเป็นของขวัญชิ้นโตที่สุด 10 อันดับ และมีการประกาศสู่สาธารณชน ซึ่งพบว่า ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นผู้ครองอันดับ หนึ่งมหาเศรษฐีใจบุญที่สุด ที่บริจาคหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลล่าร์ให้กับการกุศล จากการที่เขาและพริสซิล่า ชาน ภรรยาเชื้อสายจีน ร่วมกับบริจาคหุ้นเฟซบุ๊ก 18 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่มูลนิธิ ซิลิคอน แวลลีย์ คอมมิวนิตี้
ที่รวบรวมข้อมูลการบริจาครายใหญ่ ที่ถือเป็นของขวัญชิ้นโตที่สุด 10 อันดับ และมีการประกาศสู่สาธารณชน ซึ่งพบว่า ซัคเคอร์เบิร์ก เป็นผู้ครองอันดับ หนึ่งมหาเศรษฐีใจบุญที่สุด ที่บริจาคหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านดอลล่าร์ให้กับการกุศล จากการที่เขาและพริสซิล่า ชาน ภรรยาเชื้อสายจีน ร่วมกับบริจาคหุ้นเฟซบุ๊ก 18 ล้านหุ้น มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ให้แก่มูลนิธิ ซิลิคอน แวลลีย์ คอมมิวนิตี้
แม้จะเป็นเงินจำนวนมหาศาล แต่เหล่าเศรษฐีใจบุญของอเมริกา ก็ไม่ได้บริจาคมากเท่ากับสมัยที่พวกเขาเคยบริจาคก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ขณะที่รายชื่อของผู้ที่ได้รับบริจาค 12 ใน 15 ชื่อ ประจำปี 2013 คือ มหาวิทยาลัยและวิทยาลัย
เศรษฐีที่ได้ชื่อว่าใจบุญที่สุดรองจากซัคเคอร์เบิร์ก คือ ฟิลิป ไนจ์ ผู้ร่วมก่อตั้งไนกี้ ผู้ผลิตเครื่องกีฬายักษ์ใหญ่ของสหรัฐ และเพนเนโลเป้ ภรรยา
ที่ร่วมกันบริจาคเงิน 500 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 15,000 ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งของ โอเรกอน เฮลธ์ แอนด์ ไซเอินซ์ ยูนิเวอร์ซิตี้ (Oregon Health and Science University) ส่วนไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์ค มาเป็นอันดับ 3 ด้วยการบริจาคเงิน 350 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท ให้แก่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปสกิ้นส เพื่อนำไปเป็นกองทุนช่วยเหลือนักศึกษา
ที่ร่วมกันบริจาคเงิน 500 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 15,000 ล้านบาท ให้แก่มูลนิธิเพื่อการวิจัยโรคมะเร็งของ โอเรกอน เฮลธ์ แอนด์ ไซเอินซ์ ยูนิเวอร์ซิตี้ (Oregon Health and Science University) ส่วนไมเคิล บลูมเบิร์ก มหาเศรษฐีที่เพิ่งพ้นจากตำแหน่งนายกเทศมนตรีนิวยอร์ค มาเป็นอันดับ 3 ด้วยการบริจาคเงิน 350 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาท ให้แก่มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปสกิ้นส เพื่อนำไปเป็นกองทุนช่วยเหลือนักศึกษา
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
