ควรเกรงกลัวต่อความชั่ว

สัจจะประการหนึ่ง

ความลี้ลับในการกระทำบาปกรรมอกุศลทั้งหลายไม่มี เพราะบุคคลกระทำกรรมไม่ว่าดีไม่ว่าชั่ว แม้จะไม่มีใครเห็นก็ต้องมีตนเองเป็นผู้รู้เห็น ทุกคนอาจปฏิเสธผู้อื่นได้ แต่จะไม่อาจปฏิเสธตนเองได้

เพราะฉะนั้นจึงได้มีพุทธภาษิตตรัสเตือนว่า
“ชื่อว่าที่ลับแห่งบุคคลผู้กระทำบาปกรรม ไม่มีในโลก”

เพราะฉะนั้นจึงสมควรระลึกถึงสัจจะ คือความจริงและพุทธภาษิตที่สอนให้ระลึกถึงความจริงดังกล่าว และตั้งใจละอกุศลบาปกรรมทั้งหลายทั้งในที่ลับทั้งในที่แจ้งตามสามารถ ตามรอยพระยุคลพุทธบาทแห่งสมเด็จพระบรมศาสดา ซึ่งทรงเป็นผู้บริสุทธิ์บริบูรณ์ด้วยประการทั้งปวง

คนโดยมากนั้นไม่กลัวความชั่ว
 
เพราะนึกว่าจะสามารถปกปิดความชั่วไม่ให้ผู้อื่นรู้ได้
และบางทีก็ สามารถที่จะพูดจาหรือกระทำกลับความชั่วให้เป็นความดี หรือกลับความดีให้เป็นความชั่ว อันหมายถึงว่าทำให้คนอื่นๆ ต้องรับรองว่าเป็นความดีหรือเป็นความชั่วตามที่ต้องการได้

ควรเกรงกลัวต่อความชั่ว


เมื่อเข้าใจว่าตนสามารถพลิกได้ดังนี้
 
จึงยิ่งทำให้เป็นผู้ไม่มี หิริ ความละอายใจ โอตัปปะความเกรงกลัวต่อความชั่วยิ่งขึ้น แต่อันที่จริงนั้นย่อมหนีความจริงไม่พ้น

กรรมอันใดที่บุคคลกระทำเมื่อเป็นกรรมดี
ผู้กระทำก็เป็นเจ้ากรรมดีที่กระทำนั้นและก็จะต้องได้รับผลดี

กรรมอันใดที่เป็นกรรมชั่วที่บุคคลกระทำ
ผู้กระทำก็เป็นเจ้าของกรรมชั่วนั้น และก็ต้องได้รับผลของกรรมชั่วนั้น


แต่ว่ากาลเวลาที่จะรับผลอันเป็นที่ปรากฏก็จะเป็นในปัจจุบันนี้บ้าง
ในภายหน้าบ้างหรือในเวลาที่ถัดๆ ไปจากภายหน้านั้นบ้าง
จึงอาจจะเป็นระยะเวลาที่นานอันทำให้คนทั้งปวงในปัจจุบันมองไม่เห็น

เมื่อเป็นดั่งนี้จึงได้พากันเหยียบย่ำคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งอันที่จริงเป็นการเหยียบย่ำตนเอง เพราะว่าทุกๆ คนนั้นคนอื่นไม่สำคัญ ใครจะรับรองว่าเราดีหรือชั่วหาสำคัญไม่ ความสำคัญนั้นอยู่ที่ตัวเราเอง

เมื่อทำชั่วต้องรับชั่วเองเมื่อทำดีก็ต้องรับดีเอง และทุกๆ คนจะพบตนเองเฉพาะในวันนี้ในชาตินี้เท่านั้นหาได้ไม่ แต่ว่าจะต้องพบตัวเองของตนเองในชาติหน้าและในชาติสืบๆ ไป

เพราะฉะนั้นก็จะต้องพบผลของกรรม ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วที่ตนกระทำไว้ไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้า ไม่ชาติหน้าก็ชาติถัดๆ ไป แม้ว่าจะยังไม่รู้ไม่เห็นในชาติหน้าและชาติต่อๆ ไป แต่ว่าเชื่อคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าไว้เป็นดีกว่า ปลอดภัยกว่า

เมื่อกระทำดีไว้ ชาติหน้าจะมีหรือไม่มีก็คงเป็นความดีอยู่นั่นเอง
เมื่อกระทำกรรมชั่วไว้ ชาติหน้าจะมีหรือไม่มีก็คงเป็นความชั่วอยู่นั่นเอง
และเมื่อเป็นกรรมดีความจริงก็หาชั่วไปได้ไม่
เมื่อเป็นกรรมชั่วแม้ใครจะว่าดีก็หาดีไปไม่


ดีก็ต้องเป็นดี ชั่วก็ต้องเป็นชั่วเสมอ เป็นสัจจะคือความจริง

เพราะว่าอันสัจจะคือความจริงนั้น หาได้เป็นจริงเพราะใครเข้าใจว่าจริงหรือใครว่าไม่จริง แต่เป็นความจริงที่ตัวความจริงเอง บรรดาความจริงทุกๆ อย่างก็เป็นอยู้ดังนี้ เหมือนอย่างของจริงของเทียมที่เป็นธรรมดาโลกนี้แหละ เช่นว่าเงินแท้ ทองแท้ ใครจะว่าเทียมว่าเก๊ ก็ต้องเป็นของแท้อยู่นั่นเอง

แต่ว่าเงินปลอม ทองปลอมใครจะว่าจริง ก็ต้องเป็นของปลอมอยู่นั่นเอง เป็นจริงหรือปลอมเกิดขึ้นที่ความจริงของสิ่งนั้นเอง ฉะนั้น จึงสมควรที่จะพิจารณาให้รอบคอบและเป็นผู้ไม่ประมาท หมั่นศึกษาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า

พระธรรมคำสั่งสอนอันใดที่เป็นคำสั่งสอนให้น้อมเข้ามาภายใน เช่น สติปัฏฐาน เป็นต้น ก็สามารถปฏิบัติรู้ด้วยตนเองได้ตามควรแก่การปฏิบัติ เพราะเป็นสิ่งที่มีอยู่ภายใน ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ใช่ภายนอก ไม่ใช่อดีต ไม่ใช่อนาคต

ขอขอบคุณเนื้อหาดีดี โดย:ลานธรรมจักร
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์