จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี

จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี


จะทำงานก่อน หรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อ จะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อน หรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน

จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี (What to Choose between Study or Work after Graduation)

หลาย คนที่ใกล้เรียนจบปริญญาตรี อาจกำลังปวดหัวกับคำถามที่ว่าจะทำงานก่อน หรือเรียนต่อเลยดี หรือถ้าเลือกเรียนต่อ จะเรียนด้านไหนดี ซึ่งการทำงานก่อน หรือเรียนต่อก่อนนั้น มีข้อดีที่แตกต่างกัน โดยบทความนี้ได้รวบรวมข้อดีของการทำงานก่อน และการเรียนต่อมาฝากน้อง ๆ นักศึกษาที่ใกล้เรียนจบ เพื่อเป็นตัวช่วยในการพิจารณาว่าจะเลือกเส้นทางไหนดีค่ะ

เรียนต่อเลยทันที: สร้างโอกาสในการทำงาน

การ เรียนต่อเลยมีข้อดีคือ การสร้างโอกาสในการทำงาน เนื่องจากอาชีพบางประเภท เช่น นักวิจัย อาจารย์ นักกฎหมาย แพทย์ การเรียนต่อปริญญาโทหรือปริญญาเอกเป็นสิ่งสำคัญมาก เหมือนเป็นข้อบังคับเพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ หากใครที่เรียนมาในสายนี้ การเรียนต่อเลยจึงเป็นเรื่องที่จำเป็น สำหรับสาขาอาชีพอื่น ๆ เช่น สายงานการเงิน อาจระบุคุณสมบัติของคนที่จะเข้าทำงานว่าต้องมีวุฒิปริญญาโท ดังนั้น หากเราต้องการทำงานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ก็มีความจำเป็นต้องเรียนต่อก่อน จึงจะมีโอกาสได้รับพิจารณาเข้าทำงาน เว้นแต่ว่าตัวเราจะมีคุณสมบัติโดดเด่นที่ทำให้องค์กรนั้นรับเข้าทำงานโดยไม่ ต้องมีวุฒิปริญญาโทได้ เช่น ได้รับเกียรตินิยมเหรียญทอง มีใบอนุญาต (license) ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับงานนั้น ๆ

นอก จากนี้ การเรียนต่อเลยทันทีเหมาะกับผู้ที่ทราบแน่ชัดว่าเป้าหมายอาชีพของเราคืออะไร หรือจะเอาความรู้ที่เรียนนั้นไปทำอาชีพอะไรหลังเรียนจบ เพราะหากเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าชอบอะไร การเรียนต่อปริญญาโทไปโดยไม่ทราบว่าจะเอาไปทำอะไร หรือเรียนเพื่ออะไรก็จะเสียเวลาเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ได้

ทำงานก่อน: สร้างประสบการณ์ทำงานก่อนเลือกเรียนต่อโทในสาขาวิชาที่ตนเองชอบ

เพราะ การเรียนในมหาวิทยาลัยเป็นการเรียนภาคทฤษฎี เป็นการเรียนจากตำราเรียน ในขณะที่การทำงานเป็นการเรียนรู้ภาคปฏิบัติจริง การทำงานก่อนจึงมีข้อดีคือ สร้างประสบการณ์การทำงานให้ตนเอง ซึ่งช่วยให้รู้ว่าสิ่งที่เราเรียนมานั้นจะสามารถนำมาปรับใช้อย่างไรกับงาน ที่ทำ หรืออาชีพบางประเภท ทักษะที่เกิดจากการทำงานสำคัญกว่าปริญญาโท เช่น สายงานการตลาด สายงานพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ สายงานการผลิตภาพยนตร์ สายงานบันเทิง เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่จำเป็นต้องเรียนต่อปริญญาโท เพราะทุกวันนี้คนที่จบปริญญาโทมีจำนวนมากพอๆ กับคนที่จบปริญญาตรี ดังนั้น หากคน 2 คน มีประสบการณ์ทำงานไม่แตกต่างกันนัก คนที่มีวุฒิปริญญาโท ก็อาจมีโอกาสก้าวหน้าในหน้าที่การงานมากกว่าก็ได้

สำหรับ คนที่ไม่ได้มีเงินทุนเรียนต่อเลย การทำงานก่อนก็อาจจำเป็น เพื่อเก็บเงินเป็นทุนการศึกษาให้ตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น องค์กรหรือบริษัทส่วนใหญ่มักมีทุนการศึกษาให้พนักงาน โดยพนักงานต้องทำงานมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี เรียกว่าการทำงานก่อนก็ช่วยให้เรามีโอกาสขอทุนการศึกษาเพื่อเรียนต่อได้มาก ขึ้นด้วย

การทำงานหลังเรียน จบปริญญาตรีอาจเหมาะกับผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าตัวเราอยากทำงานอะไร เพราะหากเราเรียนต่อเลย เราอาจเรียนในสาขาวิชาที่เมื่อเรามาทำงานแล้ว ค่อยมาค้นพบว่า เราไม่ชอบ หรืองานนั้นไม่เหมาะกับเรา ซึ่งการทำงานก่อนไม่เพียงแต่ทำให้เรามีมุมมองที่กว้างมากขึ้น แต่ยังทำให้เราเข้าใจตัวเราได้มากขึ้นด้วยว่าเราชอบอะไร เหมาะกับอะไร จะได้เลือกเรียนต่อในสาขาวิชาที่ตัวเราชอบหรือสนใจอยากเรียน นอกจากนี้ ปริญญาโทบางสาขาวิชาต้องให้ผู้เรียนมีประสบการณ์ทำงานก่อน เช่น สาขา MBA ต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อย 1-3 ปี เพื่อจะได้มีประสบการณ์จากการทำงานแลกเปลี่ยนพูดคุยกับผู้เรียนคนอื่น ๆ ดังนั้น หากเราสนใจเรียนต่อด้านนี้ก็ต้องเลือกทำงานก่อนจึงจะเรียนได้

เรื่อง ของการเรียนต่อเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน เพียงแต่เวลาที่เหมาะสมในการเรียนต่อของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน หลายคนควรทำงานก่อน แต่สำหรับคนที่แน่ใจในชีวิตแล้วว่าจะเดินไปทางใดอาจเหมาะกับการเรียนต่อเลย แต่ไม่ว่าเลือกเส้นทางไหน การตั้งใจเรียนและมุ่งมั่นในการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในชีวิตค่ะ

จบตรีปีนี้จะเรียนต่อหรือทำงานก่อนดี

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์