6 วิธี รีเฟรชชีวิตหลังเซ็นใบหย่า


เพราะการใช้ชีวิตคู่นั้น ไม่เรื่องง่ายที่ใคร ๆ ก็ทำได้ บางคู่สมหวัง บางคู่ผิดหวังคละเคล้ากันไป แต่ก่อนจะมาถึงทางแยกเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายต่างก็ทำดีที่สุดแล้ว เพื่อประวิงเวลาชีวิตของคุณเอาไว้ แต่ในเมื่อไปกันไม่รอดจริง ๆ คงไม่มีทางไหนดีไปกว่าการแยกทาง


1. มีชีวิตใหม่

อะ ๆ อย่าเพิ่งคิดสั้น ก็แค่เข้าสู่การเปลี่ยนแปลงเท่านั้นเอง แต่คุณจะเริ่มชีวิตไม่ได้เลยถ้ายังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิม ๆ วนเวียนอยู่กับสถานที่เก่า ๆ ที่คุณทั้งคู่เคยไปกันมาตั้งแต่เดทแรกยันแต่งงาน หลีกเลี่ยงสถานที่เหล่านั้น แล้วลองคิดสิว่าในชีวิตเดิม ๆ ของคุณเคยคิดจะเปลี่ยนอะไรบ้างหรือเปล่า เช่น เปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เปลี่ยนงานใหม่ เปลี่ยนงานอดิเรก เปลี่ยนกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เปลี่ยนสถานที่ช้อปปิ้ง ฯลฯ อะไรที่ไม่เคยทำก็ทำซะ เปิดหูเปิดตาเปิดใจให้กับชีวิตใหม่ พร้อมก้าวต่อไปดีกว่า


2. เริ่มต้นกับรักครั้งใหม่

เป็นการกระทำที่ถือว่าอยู่ในความเสี่ยงพอสมควร ถ้าคุณไม่รู้จักหัวใจตัวเองดีพอ ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งใหม่กับใคร ควรถามตัวเองให้แน่ใจก่อนว่าคุณจริงใจกับรักครั้งนี้แค่ไหน แค่คบเล่น ๆ ฆ่าเวลา หาเพื่อนคุยสนุก ๆ หรือต้องการเริ่มชีวิตคู่ใหม่อีกครั้งจริง ๆ ถ้าเป็นเหตุผลข้อสุดท้ายคุณต้องถามต่อไปอีกนิดว่า ที่ผ่านมาคุณทำอะไรพลาดไปบ้าง มีอะไรบ้างที่ต้องแก้ไข ถ้าคุณยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ หรือไม่คิดจะทำอะไรให้มันดีขึ้น ไม่ว่ารักครั้งไหน ๆ สุดท้ายหัวใจคุณก็จะเจ็บกลับมาเหมือนเดิม เหมือนเทปม้วนเก่าเอามาเล่นใหม่ แต่แค่เปลี่ยนคู่เท่านั้นเอง


3. ทำใจยอมรับ

เพราะคุณอาจต้องเจอกับภาวะความโดดเดี่ยว เปลี่ยวเหงา อ้างว้าง ซึ่งต้องใช้ความพยายามและอดทนมากกว่าสิ่งใด แต่สิ่งที่จะช่วยคุณได้ดีที่สุด คือ การทำใจยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น แม้จะทำได้ยากแต่รับรองว่าคุณทำได้แน่นอน อาจจะอ่านหนังสือหรือข้อความที่ให้กำลังใจดี ๆ สักเล่ม อาจจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น หรือออกไปเที่ยวกับครอบครัว เพื่อน หรือญาติ ๆ ก็ได้ เพราะพวกเขารู้ดีว่าจะทำอย่างไรให้คุณหายเศร้า แล้วเวลาจะช่วยเยียวยาความเจ็บปวดของคุณได้ในที่สุด


4. บอกความจริงกับลูก

ลูกของคุณอาจจะไม่เข้าความใจในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสอง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะโกรธ จะทะเลาะกันขนาดไหน ก็ไม่ควรเก็บอารมณ์มาลงที่เขา และไม่ควรใช้ลูกเป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อยื้อความสัมพันธ์ไว้ เพราะมันไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ดังนั้น ทางที่ดีบอกให้เขาเข้าใจสถานการณ์ของคุณดีกว่า เด็ก ๆ เขาเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่คุณคิดนะ โกหกลูกไปก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ คุณอาจใช้ประสบการณ์ครั้งนี้ของคุณสอนลูก ๆ ของคุณก็ได้ เพื่อไม่ให้เขาเดินไปผิดทาง หรือเจอกับสถานการณ์แบบเดียวกันอีก


5. พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์เดียวกัน

เพราะมีคำแนะนำดี ๆ รอคุณอยู่เสมอ และการที่คุณได้พูดคุยกับคนที่มีประสบการณ์แบบเดียวกัน หรือคล้าย ๆ กัน พวกเขาก็จะเข้าใจคุณได้ดีกว่า รวมถึงให้กำลังใจคุณได้มากกว่า อย่างน้อยคุณก็ได้รู้ว่าสิ่งที่คุณคิดว่าแย่ อาจมีคนที่แย่กว่า แล้วจะทำให้สิ่งต่าง ๆ มาทำร้ายชีวิตพวกคุณทำไม ต่างคนต่างมาช่วยกันทำอะไรให้ชีวิตดีขึ้นดีกว่า เรียกความมั่นใจและคุณค่าในชีวิตของคุณกลับมา ยังมีวันใหม่รอคุณเสมอ


6. ให้อภัย

ไม่มีอะไรในโลกที่ยิ่งใหญ่กว่า “การให้อภัย” เพราะเป็นสิ่งที่สร้างความสบายใจให้กับทั้งคุณและเขา ปล่อยให้เขาไปมีชีวิตในแบบที่ควรจะเป็น ส่วนคุณก็เริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่า การผูกใจเจ็บไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมาเลย แต่กลับเป็นคุณที่ทุกข์มากกว่าเดิม แล้วแบบนี้คุณจะมีความสุขได้อย่างไร แต่ถ้ายังสงบใจไม่ได้ก็คิดเสียว่าทำเพื่อความสุขของตัวเองแล้วกันนะคะ หรือจะเขียนบันทึกระบายความในใจก็ช่วยได้เหมือนกัน

ไม่ มีใครอยากจะให้ชีวิตคู่จบลงด้วยการหย่าหรอกนะคะ แต่ถ้ามันไม่มีทางไปแล้วจริง ๆ สิ่งหนึ่งที่ควรทำก็คือการยอมรับ เพราะในชีวิตของเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ถึงแม้คุณจะแต่งงานแล้วก็ไม่มีอะไรมารับรองได้ว่าคู่ของคุณจะอยู่ด้วยกันไป จนแก่ ฉะนั้น ถ้าตอนนี้คุณกำลังจะหย่าหรือคนที่คิดจะหย่า ลองทบทวนกันอีกครั้งดีไหม กว่าคุณจะตัดสินใจแต่งงานไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าทำให้เรื่องหย่ากลายเป็นเรื่องง่ายเพราะอารมณ์ชั่ววูบเลยนะคะ


6 วิธี รีเฟรชชีวิตหลังเซ็นใบหย่า

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์