เมื่อรักร้าว...ผู้ชายก็เจ็บเป็น

เมื่อรักร้าว...ผู้ชายก็เจ็บเป็น


 บ่อยครั้งที่ผู้หญิงบอกเลิกแล้ว ผู้ชายต้องทนเก็บงำความเจ็บปวดไว้ในใจ

เมื่อต้องแยกทางกับคนรัก ผู้ชายมักจะจมอยู่กับความเศร้า หรือไม่ก็ร้องไห้อยู่หลายชั่วโมงจนไม่ได้หลับได้นอน โดยอาจมีคนที่ยอมรับฟังความทุกข์อยู่ให้กำลังใจ ซึ่งทุกขณะที่น้ำตาหรือความเศร้าของผู้ชายไหลหลั่งออกมานั้น มันหมายถึงการพยายามยุติความเศร้าโศกเสียใจให้เร็วที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้
 

แคนาดาออนไลน์- ปกติเวลาคู่รักทะเลาะหรือเลิกรากัน ส่วนใหญ่เรามักจะเห็นฝ่ายหญิงเป็นคนปล่อยโฮ หรือออกอาการทำใจไม่ได้แบบสุดๆ แต่อันที่จริงแล้วเมื่อความรักเดินมาจนสุดทางและต้องจบลงด้วยการเลิกรา ผู้ชายเองก็เจ็บและชอกช้ำไม่แพ้กัน

ที่ผู้ชายไม่ค่อยออกอาการเสียอกเสียใจนั้น ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไร แต่ผู้ชายมักคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องแสดงความรู้สึกเสียอกเสียใจจะเป็นจะตายให้ใครเห็น หรือจะให้ลดอาการเจ็บช้ำด้วยการสวาปามอาหารไม่หยุดหรือเปลี่ยนทรงผมก็ใช่ที่

เมื่อต้องแยกทางกับคนรัก ผู้ชายมักจะจมอยู่กับความเศร้า ไม่ก็ร้องไห้อยู่หลายชั่วโมงจนไม่ได้หลับได้นอนโดยอาจมีคนที่ยอมรับฟังความทุกข์อยู่ให้กำลังใจ ซึ่งทุกขณะที่น้ำตาหรือความเศร้าของผู้ชายไหลหลั่งออกมานั้นมันหมายถึงการพยายามยุติความเศร้าโศก เสียใจให้เร็วที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะทำได้

ความเชื่อของคนทั่วไปที่ว่าเมื่ออกหัก หรือรักคุดแล้วอะไรๆ จะเลวร้ายลงดูจะไม่ใช่ในมุมมองของผู้ชาย หนุ่มๆ หลายคนที่เพิ่งจะได้เป็นคนโสดหมาดๆ หรือได้กลับมามีอิสระใหม่อีกครั้ง ใช้ชีวิตโสด(อีกครั้ง)อย่างคุ้มค่าทุกเสี้ยววินาที

แต่บางทีการปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงก็ทำให้ผู้หญิงพากันเชื่ออย่างเอาเป็นเอาตายว่าผู้ชายเจ็บไม่เป็น ทั้งที่จริงผู้ชายเลือกที่จะสลัดความเศร้าโศก ผิดหวัง เสียใจออกไปจากหัวใจที่ปวดร้าวต่างหาก

"วิธีที่ว่ามานั่นน่ะ ไม่ใช่แบบที่ผมเคยทำเลย" แกรี ชายวัย 49 ปี กล่าว "การสิ้นสุดความสัมพันธ์เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมากสำหรับผู้ชายส่วนใหญ่"

บางครั้งผู้ชายก็แอบร้องไห้

อย่างไรก็ตาม จากบทสนทนาตามรายการวิทยุที่ได้ยินได้ฟังจากสถานีวิทยุนอกเมือง ในแคนาดานั้น แสดงให้เห็นว่า ผู้ชายมักจะซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดได้ดีกว่าผู้หญิง

ทั้งนี้ แกรี เล่าให้ฟังว่าอาการอกหักครั้งเลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาก็คือตอนที่ภรรยาทิ้งโน้ตบอกลาเขาไว้บนโต๊ะอา หาร เพื่อจบความสัมพันธ์ที่มีมาถึง 9 ปี ซึ่งเขาก็ยอมรับว่า ความเจ็บปวดในครั้งนั้นทำให้เขาต้องใช้เวลารักษาแผลใจเกือบสองปี

"ผมไม่เคยนึกไม่เคยฝันเลยว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้อีกครั้ง ผู้หญิงคนนั้นเป็นชีวิตทั้งชีวิตของผม"

ถ้าแกรี เจ็บปวดชอกช้ำซะขนาดนั้นแล้วเขารักษาแผลใจอย่างไรเล่า?

แกรี บอกว่า เขามีเพื่อนดีๆ เอาไว้พูดคุยปรึกษาหารือด้วยอยู่สองสามคน ซึ่งก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิง เพื่อนๆ ได้ดึงเขาออกมาจากความเศร้าในยามที่เขาไม่มีแรงใจที่จะทำอะไร และด้วยเหตุใดไม่ทราบ เขาก็สามารถก้าวผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายนั้นได้โดยไม่เคยพึ่งเหล้า

ผู้ชายก็เจ็บเป็น

นอกจากกรณีของแกรีแล้ว ทิม นายหน้าขายที่ดินวัย 27 ปี ก็เล่าว่า การแยกทางกับคนรักได้เปลี่ยนแปลงเขา เขาเริ่มมองหาสาวๆ ที่อยากจะมีอะไรๆ กับเขาแต่ไม่ต้องการมีพันธะใดๆ ต่อกัน

"ผมก็แค่ไม่อยากที่จะพาตัวเองกลับไปยังจุดเดิม ไปเสียอกเสียใจแบบเดิมๆ" ทิม บอก "ผมกลายเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง ผมไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ต่อหน้าคนอื่น"

เรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่ผิดหวังกับความรัก ดร.ชีลา โอเบิร์น นักจิตวิยา ที่เมืองคัลแกรี ประเทศแคนาดา กล่าว "บางที่อาจจะพูดได้ว่า ผู้ชายอาจจะเป็นฝ่ายเจ็บปวดมากกว่า เพราะพวกเขาไม่ได้ระบายความรู้สึกออกมาแบบที่ผู้หญิงทำ มันเป็นเรื่องของสภาวะทางจิตและอารมณ์ ที่ผู้ชายไม่อาจร้องไห้อย่างโจ่งแจ้งได้"

ดร.โอเบิร์น บอกว่า ตอนนี้สังคมกำลังเปิดโอกาสให้ผู้ชายแสดงอารมณ์ของพวกเขาออกมา แนวทางที่ว่านี้มีให้เห็นทั่วไปตามหนังสือแนะวิธีเยียวยาตัวเองจากอาการอกหัก

อย่างไรเสีย แม้ทิมจะใช้วิธีการเก่าๆ คือทุ่มเทเวลาให้กับงาน เล่นกีฬาอาทิตย์ละ 4 ครั้ง และใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากก็ตาม ทว่าเขาก็ไม่ได้แสดงอาการว่าเศร้าโศกเสียใจแต่อย่างใด

"ผมก็หวังนะว่า ผมเองจะมีลูกบ้าพอที่จะแสดงให้คนรอบข้างรู้ได้ตลอดเวลาว่าที่จริงแล้วผมคิดอะไรและรู้สึกอย่างไร


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์