วิธีเลือกหวีแปรงให้ถูกต้อง

1. แปรงผม ลักษณะแปรงที่ทำจากขนสัตว์ผสมกับขนไนล่อน สาเหตุที่ผสมขนสัตว์ลงไปจะช่วยให้กระจายน้ำมันจากโคนผมลงมาสู่ปลายผม ซึ่งจะช่วยให้เส้นผมเงางาม และลดการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ ทำให้ถนอมผมไปด้วยในตัว ส่วนการมีขนไนล่อนผสมก็เพื่อช่วยให้หวีง่ายขึ้น การดูแลรักษาแปรง ไม่ควรจุ่มลงในน้ำเพราะจะยิ่งทำให้แปรงหมดสภาพเร็วและขนสัตว์หลุดออกง่าย ควรใช้เพียงผ้าเช็คให้ฝุ่นละลองออกเท่านั้นก็พอค่ะ

2. แปรงไดร์ฐานครึ่งเสี้ยว เป็นแปรงที่ช่างจะใช้เมื่อต้องการเริ่มไดร์ผม ด้วยแปรงสามารถช่วยให้เส้นผมเรียงเส้น แปรงง่ายและผมไม่พันกัน ซึ่งช่างส่วนใหญ่จะใช้ขนาดขนแปรง 7 – 9 แถว หรือเล็กลงหน่อยเพื่อให้เหมาะกับการใช้กับคนผมสั้น หรือใหญ่ขึ้นอีกนิดเพื่อใช้กับคนผมยาว ค่ะ

3. แปรงไดร์ทรงกลม เหมาะกับการไดร์ผมหยักศกน้อย ๆ เพื่อให้ผมเหยียดตรง เพราะเป็นแปรงที่ออกแบบมาเพื่อให้ตอนไดร์ต้องอาศัยการดึงเล็กน้อย การใช้แปรงนี้จะช่วยให้ไม่ต้องออกแรงมาก และช่วยให้ผมติดแปรงไม่หลุดง่ายเกินไป แปรงทรงนี้จะช่วยยกโคนผมขึ้นเมื่อไดร์ ทำให้ผมดูหนาขึ้น หากใช้กับการไดร์ผมสั้น จะเป็นการเพิ่มวอลุ่ม โดยใช้ไดร์ขนาดกลางอยู่ที่ 2 นิ้ว แต่หากเป็นผมยาว ก็ควรใช้ที่ขนาด 3 นิ้ว มีให้เลือกทั้งแบบแกนแปรงทึบ และแบนแกนเจาะรูเพื่อให้ลมไดร์ไหลผ่านได้

4. แปรงไดร์พื้นโลหะเจาะรู เป็นแปรงที่มีพื้นทำจากโลหะ เพื่อเก็บความร้อน เหมาะกับการไดร์ที่ต้องการเร่งให้แห้งเร็ว บนแปรงจะมีการเจาะรูเพื่อระบายลมจากไดร์ แต่ไดร์แบบนี้ควรให้ช่างที่ชำนาญใช้จะดีกว่าเพราะความร้อนที่ได้จากทั้งไดร์และหวี เราจะต้องทำด้วยความเร็ว หากไม่ชำนาญจะทำให้ผมเสียได้ค่ะ ^ ^

5. หวีซีห่าง เป็นหวีที่มีความสำคัญอันหนึ่ง เพราะหวีชนิดนี้ เหมาะอย่างยิ่งกับการใช้หลังจากสระผมเสร็จ เพราะหลังสระ ผมจะพันกันและหนังศีรษะอ่อนตัวไม่แข็งแรง หากใช้แปรงหรือหวีที่ถี่จะทำให้เส้นผมขาด,ร่วง และแห้งเสียได้ง่ายจากการเสียดสี จึงควรใช้หวีซี่ห่าง ๆ หวีผมเสียก่อนที่จะใช้แปรงอื่นนะคะ

เกล็ดเล็ก ๆ ที่นำมาแชร์ในวันนี้ คงช่วยให้สาวๆ สามารถเลือกซื้อแปรงให้ตรงกับวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ในการดูแลสุขภาพผมได้มากขึ้นนะคะ