10 กิจกรรมเสี่ยงโรคติดเชื้อ หมอแนะวิธีป้องกัน


10 กิจกรรมเสี่ยงโรคติดเชื้อ หมอแนะวิธีป้องกัน 

นายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันพบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากโรคติดเชื้อ ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการติดเชื้อมีผู้ร้ายหลัก ๆ เช่น ไวรัส ทำให้เกิดไข้หวัด ไข้เลือดออก มือเท้าปาก เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เอดส์ มะเร็งและอีกมาก แบคทีเรีย ตามแผลเปิด หลังผ่าตัด อุปกรณ์การแพทย์ที่ไม่สะอาด ในสถานที่ที่มีคนเจ็บไข้ได้ป่วยมารวมกันมาก เชื้อรา ตามที่อับชื้นอย่าง ผิวหนัง เล็บหนังศีรษะโพรงจมูก-ไซนัส ปอดหรือแม้แต่ในสมอง พยาธิ ในเนื้อดิบ ผักดิบ เดินเหยียบดินโดยไม่ใส่รองเท้า อาหารปนเปื้อนที่ไม่สะอาด แล้วเมื่อเข้าร่างกายเชื้อเหล่านี้จะชอบไปที่ไหนนั้น  การจะทำนายเป้าหมายของเชื้อโรคต้องรู้ความชอบของมันก่อน  โดยทั่วไปแล้วเชื้อพวกนี้ชอบที่ที่มีอาหารพร้อม (มีเลือดไปเลี้ยงไม่เสี่ยงอันตราย




สำหรับอวัยวะที่ต้องระวังให้ดีได้แก่ สมอง หัวใจ ตับ ไต ทางเดินอาหาร และระบบเลือดทั้งร่างกาย อย่างไรก็ตาม แม้อวัยวะที่ว่ามาจะมี ด่านธรรมชาติที่ดักเชื้อไว้แต่เมื่อไรที่มี 3 ปัจจัยคือ เชื้อมาก เชื้อแรงและร่างกายอ่อนแอ เชื้อโรคก็พร้อมที่จะเข้าไปครอบครองปรปักษ์อยู่ในร่างกายเรา ผ่านทางกิจกรรมง่าย ๆ ที่หลายท่านคาดไม่ถึงดังต่อไปนี้

1.หยิบจับสัตว์ ต้องระวังของกินบาด เช่นครีบปลาบาดนิ้ว ก้างตำเหงือกหรือกุ้งทิ่มคอหอย โดยอุบัติเหตุเหล่านี้เกิดได้ทั้งขณะเลือกและรับประทาน เพราะตามธรรมชาติผิวของสัตว์น้ำเหล่านี้มีเชื้อโรคอยู่ได้ถ้าไม่ทำให้สะอาดทั้ง ซีฟู้ดส์และสัตว์น้ำจืด โดยเฉพาะปลา ปู กุ้ง หอย อาจมีเชื้อกลุ่มแบคทีเรียกินเนื้อ (มีหลายชนิดมากต้องระวัง) เชื้อไส้เน่า(อีโคไล ซัลโมเนลล่า) เชื้อที่เข้ากระแสเลือด (เชื้อในหอยนางรมที่กินไม่สุกสนิท)

2.เลียสแตมป์หรือซองจดหมาย การใช้น้ำบ่อน้อยโดยใช้ปลายลิ้นสัมผัสกับแถบกาวเหล่านี้เพื่อติดตราไปรษณียากรหรือซองเอกสารและซองผ้าป่าใดๆก็ตาม ให้ใช้ความระมัดระวังหรือดีที่สุดคือเลี่ยงการใช้ลิ้นสัมผัสโดยตรง เพราะเสี่ยงต่อการรับเชื้อจากพื้นผิวที่ไม่สะอาดหรืออาจบาดลิ้นเอาได้ เรื่องกระดาษบาดลิ้นก็เป็นเรื่องใหญ่ทำให้ติดเชื้อรุนแรงถึงในช่องคอต้องผ่าตัดรักษากันวุ่นวายมาแล้ว เพราะช่องปากและลิ้นเป็นอวัยวะที่มีเส้นประสาทและเลือดมาเลี้ยงมากหากเชื้อเข้าก็จะกระจายได้ไวเหมือนขึ้นทางด่วน

3.ตัดเล็บ-ตะไบเล็บ ถ้าสะอาดก็จะปลอดภัย จึงขอให้ทำด้วยความระมัดระวัง เพราะกิจกรรมนี้มีส่วนให้ต้องถอดเล็บ เพราะติดเชื้อกันมานักต่อนัก ด้วยเวลาตัดเล็บอาจมีส่วนจมูกเล็บตรงขอบนิ้วที่บาดเจ็บแล้วเปิดช่องให้เชื้อหนองเข้าไปได้
หรือเวลาตะไบลึกถึงซอกเล็บให้ระวังในท่านที่มีรูปเล็บพิเศษถ้าลึกไปอาจได้แผลแถมเชื้ออักเสบและเชื้อราได้

4.แคะหู ไม่ควรบ่อยเกิน ควรเลี่ยงแคะแรงและไม่ควรใช้ของแปลกแคะหูเป็นต้นว่าไม้จิ้มฟัน ก้านต้นหญ้า ก้านไม้กวาด(ไม่ใช่ด้าม) กิ๊บหนีบผมหรือเส้นผมเองมาปั่นหู เพราะในกิจกรรมมีสิทธิได้รับเชื้อผ่านมาที่ท่อหูชั้นนอกเกิดอักเสบ(Otitis)ปวด บวม คันได้ ควรเลี่ยงการปั่นหูรุนแรงขณะที่หูแฉะเช่น หลังอาบน้ำและว่ายน้ำเสร็จใหม่ๆ 5. สั่งน้ำมูกแรง การสั่งน้ำมูกเป็นกิจกรรมยามเป็นหวัด ภูมิแพ้และอะไรก็ตามที่ทำให้คัดจมูกเช่น เมื่อได้กลิ่นผัดเผ็ดอยู่ใกล้ๆ การสั่งแรงไปเป็นการเพิ่มแรงอัดเข้าไปในท่อหู ซึ่งเบาะๆ ก็ทำให้หูอื้อหูลั่นได้เพราะแก้วหูโดนผลักอย่างแรง แต่ถ้าแรงอัดนั้นมากพอจะดันน้ำมูกผนวกเชื้อ ผนึกกำลังกันเข้าท่อหูส่วนกลางอย่างแม่นยำทำให้ทั้งอื้อและปวดหูจากการติดเชื้อได้ จึงขอรณรงค์ให้สั่งน้ำมูกอย่างนิ่มนวลดีกว่า คืออย่าสั่งอัดอย่างรุนแรงและเมื่อรู้สึกจะอื้อให้หยุด

6. บีบสิว เป็นกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมจะทำให้ระบม(อักเสบ) มีแผลและเป็นการกระตุ้นการติดเชื้อได้ เช่นบีบสิวเฉพาะกิจด้วยนิ้วมือที่ไม่สะอาดหรือการฉีดสิว
ด้วยยาสเตียรอยด์ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อหรือหน้าเป็นหลุมสิวตามมาได้

7.ขยี้ตาหรือถอดคอนแทกเลนส์ไม่ระวัง เพราะดวงตาโดยเฉพาะเยื่อบุตาและกระจกตาส่วนนอกนั้นแสนบอบบาง (ส่วนที่ท่านเห็นนูนใสออกมาและเยื่อบนตาขาว) การขยี้ตาแรงหรือแม้ฉีดน้ำล้างหน้าแรงๆมีส่วนที่ทำให้ดวงตาอักเสบแดงเป็นนางเอกเอ็มวีได้จากการติดเชื้อได้ทั้ง แบคทีเรียหรือไวรัส นอกจากนั้นการถอดคอนแทคเลนส์ไม่ระวังเช่นรีบถอด ถอดขณะตาแห้งง่วงนอนอาจทำให้กระจกตาถลอกซึ่งมีสิทธิ์ติดเชื้อรุนแรงจนต้องเปลี่ยนกระจกตาได้(เพราะกระจกตาซ่อมไม่ได้)

8.ใช้หน้าจอสัมผัสผิดหลักอนามัย ในการใช้ชีวิตยุคสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตมีความสะดวกและคล่องตัวสูง แต่ในบางครั้งที่รีบก็อาจทำให้พลาดเรื่องสุขภาพได้ ใน การสไลด์จอเพื่อคุยโทรศัพท์ พิมพ์ข้อความด่วนหรือชวนกันเล่นเกมส์ออนไลน์การสัมผัสหน้าจอที่ปนเปื้อนหรือ ไม่มีการทำความสะอาดรวมถึงมือที่ไม่สะอาดนั้นอาจทำให้เกิดสิวติดเชื้อจากการ แนบแก้มกับเครื่อง อาจติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเมื่อใช้เครื่องหลังเข้าห้องน้ำ
หรือในเด็กๆ อาจติดไวรัสหวัด มือเท้าปากและท้องเสียได้จากการใช้แทบเล็ตปนเปื้อนร่วมกัน

9.เอามือเข้าปาก ไม่ว่าจะกัดเล็บหรือหยิบอาหารเข้าปากโดยตรง มีส่วนพาเชื้อโรคทางเดินอาหารอย่างไวรัสตับอักเสบแบคทีเรียอีโคไล ซัลโมเนลล่า สแต้ฟไปจนถึงพยาธิผ่านเข้าไปลึกล้ำถึงทางเดินอาหารเราได้ พูดง่ายๆถ้าไม่ระวังก็ได้เชื้อจนสุดไส้ มีเทคนิกง่ายๆอยู่ก็คือให้หมั่นล้างมือให้บ่อย ระวังการเอามือเข้าปาก(โดยเฉพาะในเด็กเล็ก)และเช็คความสะอาดของมือให้ดีหลังจากเข้าห้องน้ำ

10.ชำระหลังเข้าห้องน้ำ ขยายความสักนิดคือการชำระหลังการขับถ่ายทั้งหนักและเบา โดยเฉพาะในสาวๆและเด็กเล็กที่มีสิทธิ์เสี่ยงติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ จากที่ได้พบคนไข้ท่อปัสสาวะติดเชื้อมา หลายรายเข้าห้องน้ำหนักแล้วชำระจากด้านหลังมาข้างหน้า ทำให้มีการปนเปื้อนเข้าเข้าท่อฉี่จนปัสสาวะขัดและบางรายขึ้นไปถึงไตทำให้กรวยไตติดเชื้อเฉียบพลันอันตรายได้ จึงขอให้เทคนิกง่ายๆ ไว้คืออย่ารีบและชำระจากหน้าไปหลังเสมอ
จะช่วยป้องกันได้

นายแพทย์กฤษดา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามอย่าเพิ่งกังวลจนตระหนกไปเพราะการทำกิจกรรมต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ไม่ได้ทำให้ติดเชื้อได้ง่ายเสมอไป ในคนที่ติดเชื้อรุนแรงต้องดูว่ามีปัจจัยต่อไปนี้หรือไม่เช่น มีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง เป็นกลุ่มคนพิเศษที่มีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง กินยากดภูมิหรือเพิ่งเจ็บป่วยไม่สบาย ปลูกถ่ายอวัยวะมา ดังนั้นไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเป็นรุนแรงเสมอไป อยู่ที่รู้จักมันรักษาให้ทันและรู้ต้นทุนสุขภาพของตัวเรา แค่เข้าใจก็สามารถป้องกันภัยได้


10 กิจกรรมเสี่ยงโรคติดเชื้อ หมอแนะวิธีป้องกัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์