กินแบบคลีน ๆ ต้องกินยังไง


กินแบบคลีน ๆ ต้องกินยังไง


หลายคนคงเคยได้ยินกับคำว่า "กินคลีนหรือกินแบบคลีน" บางคนอาจสงสัยว่ามันคืออะไร ดีอย่างไร แล้วกินไปทำไม วันนี้ทีมงานที่นี่ดอทคอมจึงมีเรื่องราวของการกินแบบคลีนๆ มาฝากกันค่ะ
อาหารคลีน (Clean Food) คือ อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งด้วยสารเคมีต่าง ๆ หรือผ่านการแปรรูปน้อยที่สุดนั่นเอง อาหารเหล่านี้จะเป็นอาหารที่สดสะอาดไม่ผ่านกระบวนการหมักดองหรือปรุงรสใด ๆ มากจนเกินไป เช่น เค็มจัดหรือหวานจัด ข้าวเลือกชนิดที่ขัดสีน้อยที่สุด ขนมปังเลือกชนิดที่เป็นโฮลวีท  เป็นต้น
โดยในแต่ละมื้อควรมีผักและผลไม้ต่างๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับวิตามิน และเส้นใยที่ช่วยในการย่อยอาหาร ที่ช่วยให้การดูดซึมและการขับถ่ายที่ดีขึ้นอีกด้วย
การปรุงอาหารแบบคลีนไม่ใช่การเน้นทานผักเยอะ ๆ แต่เป็นการทานอาหารทุกหมู่อย่างในสัดส่วนที่เหมาะสม คือต้องมีทั้งคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เนื้อสัตว์ที่ใช้ควรเลือกแบบที่ไม่ใช่สำเร็จรูปหรือผ่านการปรุงรสมาแล้ว



กินแบบคลีน ๆ ต้องกินยังไง

เทคนิคการทานอาหาร Clean Food 7 ประการ คือ

1. ทานอาหารเช้าภายใน 1 ชั่วโมงหลังลืมตาตื่น
2. แบ่งมื้ออาหารรับประทานเป็นมื้อย่อย เช่น 4 หรือ 6 มื้อต่อวัน
3. เลือกบริโภคโปรตีนแบบ “ไม่ติดมัน” และคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (เช่น ข้าวกล้อง, ขนมปังโฮลวีต) ทุกมื้อ
4. รับประทานไขมันดีทุกวัน เช่น น้ำมันปลา, ปลาทู, น้ำมันมะกอก, น้ำมันสุขภาพอื่นๆ
5. คุมส่วนของอาหาร (portion) ให้ดี ไม่ควรเลือกไซส์ใหญ่หรือรับประทานอเมริกันไซส์
6. รับประทานไฟเบอร์, วิตามิน, สารอาหารและเอนไซม์จากผักสดและผลไม้
7. ดื่มน้ำเปล่า วันละ 2-3 ลิตร




กินแบบคลีน ๆ ต้องกินยังไง

รายชื่ออาหารคลีน

น้ำมัน

น้ำมันดอกทานตะวัน ,น้ำมันมะพร้าว , น้ำมันวอลนัท , น้ำมันอะโวคาโด , น้ำมันมะกอก , น้ำมันเมล็ดองุ่น , น้ำมันเมล็ดฟักทอง

ไขมันดี

อะโวคาโด , มะพร้าว , วอลนัท , อัลมอนด์ , ถั่วเปลือกแข็ง , เมล็ดต่างๆ , ปลาแซลมอน , ปลากะพง , ปลาแมกเคอเรล , ปลาหิมะ , ปลาเทราท์

โปรตีน

ปลานิล , ปลาเก๋า , ไข่ขาว , อกไก่ , เต้าหู้ , เนื้อสัตว์อื่นๆ(ที่ไม่มีมัน) , หอยเชลล์

ผลไม้

แตงโม , แคนตาลูป , แอปเปิ้ล , มะละกอ , ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ , ฝรั่ง , มะม่วง , ส้ม , สตรอเบอร์รี่ , มะเขือเทศ , กล้วย , ส้มโอ

ผัก

บร็อคโคลี่ , ดอกกะหล่ำ , ผักโขม , ผักคะน้า , กะหล่ำปลี , ผักกาดหอม , กระเทียม , ผักชีฝรั่ง ,หน่อไม้ฝรั่ง , ขิง , มันฝรั่ง(ต้ม) , แครอท , บีทรูท , ถั่วเหลือง , หัวไชเท้า , หัวหอม , บวบ , ฟักทอง , พริก , มะเขือยาว ,

เครื่องดื่ม

น้ำเปล่า , กาแฟ(ดำ) , ชา(ไม่ใส่น้ำตาล)




การปรุงอาหาร Clean Food ควรเลี่ยงอาหารดังต่อไปนี้

1.แป้งขัดขาว อย่าง แป้งข้าวสาลี, ขนมปังขาว, ปาท่องโก๋, เค้ก, คุกกี้, เบเกอรี่และอาหารที่ทำจากแป้งหรือน้ำตาล

2.น้ำหวาน รวมถึงน้ำตาลเทียม เครื่องดื่มหวานทุกชนิด อาทิ กาแฟชงสำเร็จ, กาแฟทรีอินวัน, ชาเขียวรสหวาน, น้ำอัดลม, น้ำหวานหรือแม้แต่น้ำผลไม้

3.แอลกอฮอล์ทุกประเภท หรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ อาทิ ค็อกเทล

4.ไส้กรอก ,แฮม, เบคอน, กุนเชียง, หมูสวรรค์, หมูแผ่น หรือ อาหารแปรรูป เพราะในอาหารแปรรูป มักใส่ “ไนไตรต์” ซึ่งเป็นกลุ่มดินประสิวให้เนื้อแดงน่ากิน

5.ผงชูรสและซุปก้อน เพราะมักใส่ผงชูรสและซุปปรุงรส รวมทั้งน้ำซุปในก๋วยเตี๋ยวน้ำ, แกงจืด, ต้มยำ, อาหารจีนโดยเฉพาะที่รับประทานนอกบ้าน

6.อาหารสังเคราะห์ เช่น อาหารไมโครเวฟ, บะหมี่สำเร็จรูป, อาหารกระป๋องบางชนิด, ไอศกรีมปรุงแต่งรส, ครีมเทียมใส่กาแฟ, เนยเทียม, เยลลี่หลากสี

7.ของทอดของมัน เพราะไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ จะมีอยู่มากในอาหารกลุ่มนี้

 

สำหรับท่านที่เริ่มต้นการกินอาหารคลีน ต้องเริ่มต้นด้วยการไม่ยึดติดในรสชาติของอาหารแบบเดิม ๆ ที่เราเคยรับประทาน เพราะการกินคลีน หรือกินอาหารคลีนนั้นรสชาติจะเป็นรอง แต่จะให้ความสำคัญกับตัวอาหารที่ไม่เน้นการปรุงแต่ง หรือปรุงแต่งให้น้อยที่สุด เพื่อให้การกินอาหารคลีนได้รับประโยชน์สูงสุดแก่ร่างกาย และผลพลอยได้ทำให้สุขภาพดีในระยะยาว ไม่เจ็บป่วยง่าย





ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก VoiceTV
เรียบเรียงโดยทีมงานที่นี่ดอมคอม


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์