5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


ทุกวันนี้โลกเราของเรามีมลภาวะมากขึ้นจึงต้องใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษเพราะมีผลโดยตรงและทันทีต่อสุขภาพของเรา แต่รู้ไหมว่าอาหารบางชนิดไม่ได้ทำร้ายแค่สุขภาพภายในเท่านั้น แต่มันยังทำลายผิวสวยๆ ของคุณให้เสียไปด้วย มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่เป็นอาหารต้องห้าม และไม่ควรรับประทานถ้าไม่จำเป็น



1.เนื้อแปรรูป

บางครั้งเนื้อแปรรูปก็ประกอบไปด้วยซัลไฟต์ (sulfites) และสารกันเสียอื่นๆ โดยสารพวกนี้สามารถนำไปสู่อาการอักเสบของผิวหนังได้ นอกจากนี้เกลือที่ใส่ลงไปในอาหารพวกนี้ก็ทำให้ผิวของคุณดูบวมพองได้ด้วยเช่นกัน


5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


2.แอลกอฮอล์และไวน์ขาว

ไวน์ขาวจะทำให้คุณยิ่งแก่ไว เพราะสามารถทำลายฟันหรือส่งผลเสียต่อฟันของคุณอย่างมาก กรดในไวน์ขาวจะทำลายเคลือบฟันหรือชั้นนอกของฟัน และทำให้ฟันของคุณมีคราบแบบถาวรง่ายขึ้น ถ้าอยากดื่มไวน์ขาวหรือเครื่องดื่มที่มีกรดเป็นครั้งคราวก็ทำได้ แต่อย่าลืมแปรงฟันหลังดื่มด้วยค่ะ ส่วนแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ นั้นก็มีสารพิษที่ทำลายตับ และถ้าหากตับของคุณถูกทำลายแล้วก็จะส่งผลให้ผิวหนังเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสิว ผิวซีด หรือริ้วรอย


5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


3.เนื้อไหม้

เนื้อไหม้นั้นประกอบด้วย pro-inflammatory hydrocarbons ซึ่งสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนังของคุณได้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คุณไม่จำเป็นต้องงดเมนูเนื้อสัตว์ทั้งหมด แต่แค่ให้แน่ใจว่าเขี่ยส่วนที่ไหม้ทิ้งออกและไม่ทานเนื้อส่วนที่ไหม้ก็พอ


5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


4.ขนมหวาน

คุณสามารถทานขนมหวานได้บ้าง แต่ก็อย่าให้บ่อยเกินไป เพราะการทานขนมหรือน้ำตาลหวานมากจะทำให้เกิดกระบวนการที่เรียกว่า ไกลเคชั่น (Glycation) คือ เกิดการเชื่อมข้ามสายโมเลกุล โดยน้ำตาลในเลือดในร่างกายทำปฎิกิริยากับโปรตีนทำให้โปรตีนออกมาผิดโครงสร้างไป และกระบวนการดังกล่าว จะส่งผลในการทำลายคอลลาเจนในผิวหนังของคุณได้


5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


5.อาหารรสเค็มและอาหารกระป๋อง

Ranella Hirsch แพทย์และอดีตประธานสมาคมเครื่องสำอางและศัลยกรรมความงามแห่งสหรัฐอเมริกาได้กล่าวว่า "อาหารกระป๋องหลายชนิดถูกเก็บรักษาโดยใช้โซเดียม ซึ่งโซเดียมหรือเกลือในอาหารรสเค็มสามารถทำให้ร่างกายของคุณกักเก็บน้ำไว้ จนเกิดอาการบวมน้ำได้"


5 อาหารที่กินทำร้ายผิวโดยไม่รู้ตัว


ขอบคุณข้อมูลจาก :: th.theasianparent.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์