ต้องสรรเสริญนางเลยครับ คงไม่มีใครคาดคิดว่าอาชีพสุดซับซ้อนอย่างโปรแกรมเมอร์จะมีผู้หญิงเป็นผู้บุกเบิก ซึ่ง Ada Lovelace คือสาวน้อยโปรแกรมเมอร์คนแรกของโลกจากยุคศตวรรษที่ 19 โดยในเวลานั้นเธอกับ Charles Babbage บิดาแห่งคอมพิวเตอร์ ได้ร่วมมือกันเขียนโค้ดแบบอัลกอริทึ่มที่ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์ตัวแรกของโลก
นอกจากนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ยังมีนักคณิตศาสตร์หญิงอัจฉริยะ 6 คน ที่ได้ฉายาว่า Human Computers ถูกเรียกเข้ากองทัพ เพื่อให้ช่วยเขียนโปรแกรมของคอมพิวเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ตัวแรกของโลกอีกด้วย แต่น่าเสียดายที่โปรแกรมเมอร์หญิงค่อยๆลดจำนวนลงจนบอกลากับอาชีพนี้กันไป
ในปัจจุบัน มีผู้หญิงราว 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นที่ถูกจ้างให้ทำงานในโรงผลิตเบียร์ แต่อักษรเฮียโรกลีฟิคของอียิปต์โบราณทิ้งหลักฐานไว้ว่าการหมักเบียร์เป็นหน้าที่ของผู้หญิงซึ่งทำต่อๆกันมานับศตวรรษ อีกทั้งในช่วงยุคกลาง ผู้หญิงถูกยกให้เป็นสุดยอดของนักหมักเบียร์ แต่พอย่างเข้าศตวรรษที่ 17 อันเป็นยุคอุตสาหกรรมเฟื่องฟู เบียร์กลายเป็นสินค้าอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ทำให้หน้าที่นี้ถูกยึดไปจากมือผู้หญิงสู่มือผู้ชายจนถึงปัจจุบัน
ในยุค 1916-1923 เป็นยุคที่ผู้หญิงมีบทบาทสูงมากในการสร้างหนังให้สหรัฐอเมริกา พวกเธอเป็นทั้งผู้เขียนบท, ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ ซึ่งศาสตราจารย์ Jane Gaines จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพิ่งค้นพบว่าผู้หญิงในยุคนั้นคือผู้บุกเบิกการทำหนังเงียบ นอกจากนี้เจ้าของสตูดิโอส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นผู้หญิงทั้งนั้น แต่น่าเสียดายที่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของงานทั้งหมดในยุคนั้นขาดการเก็บรักษาที่ดี ทำให้งานของหญิงสาวเหล่านี้ถูกโลกลืมเลือน
การตีกลองต้องใช้พลังอย่างหนักหน่วงเพื่อให้ได้เสียงที่ดุดัน ดังนั้นพลังของผู้ชายจึงสำคัญเป็นอย่างมาก แต่ในหนังสือเรื่อง When The Drummers Were Woman ได้ระบุว่า มือกลองคนแรกของโลกเป็นผู้หญิงยุคโบราณ เธอมีชื่อว่า Lipushiau ซึ่งเป็นนักบวชของดินแดนเมโสโปเตเมีย ในสมัยนั้นหญิงสาวส่วนใหญ่จะมีหน้าที่ตีกลองเพื่อประกอบศาสนกิจ และนั่นถือเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต ตลอดจนความอุดมสมบูรณ์ แต่ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อศาสนาคริสต์ประกาศห้ามไม่ให้ผู้หญิงยุ่งกับดนตรี ฉะนั้นไม่ใช่แค่มือกลองหญิงเท่านั้น แต่แทบจะไม่หลงเหลือนักดนตรีหญิงอยู่เลย
ในวงการแพทย์ปัจจุบัน แพทย์ที่มีชื่อเสียงส่วนใหญ่มักเป็นผู้ชาย แต่ ในยุคอียิปต์และกรีกโบราณสถานะนั้นตกเป็นของผู้หญิง อีกทั้งในยุโรปยุคตอนต้น แม่ชีมักจะได้ทำหน้าที่ในการรักษาพยาบาล และยังเชี่ยวชาญในนรีเวชวิทยาและการทำคลอดอีกด้วย แต่พอเข้าสู่ปลายยุคกลาง ศาสนจักรกำหนดให้ผู้ที่เป็นแพทย์ต้องมีวุฒิการศึกษาเท่านั้น และเนื่องด้วยในขณะนั้นผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เข้าเรียน ส่วนใครที่มีการฝ่าฝืนเรียนรู้ในการทำยาก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ซึ่งครั้งหนึ่งก็เคยเกิดเรื่องสุดเจ็บแสบขึ้น เมื่อ Trotula ศาสตราจารย์หญิงด้านการปรุงยาในศตวรรษที่11 เธอได้เขียนตำราแพทย์ที่มหัศจรรย์เล่มหนึ่งขึ้นมา แต่ผู้ตีพิมพ์กลับเปลี่ยนชื่อคนเขียนเป็นผู้ชาย เพียงเพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าหนังสือที่เปี่ยมคุณภาพเล่มนั้นผู้หญิงจะเป็นผู้เขียนขึ้นมาได้
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้ กระทู้เด็ดน่าแชร์
