กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
อยู่หรือไป? วีซ่าแดนปลาดิบ หลากปัญหาหลังคนไทยแห่ไปญี่ปุ่น
หลังประเทศญี่ปุ่นประกาศให้คนไทยเข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า เมื่อปีที่แล้ว กระแสการท่องเที่ยวญี่ปุ่นก็คึกคักขึ้นทันตา เพราะประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายที่คนไทยหลายๆ คน ชื่นชอบด้วยความคุ้นเคยในวัฒนธรรม อาหารการกิน การ์ตูน และทัศนียภาพที่สวยงามดึงดูด เมื่อสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ทำให้การตัดสินใจเดินทางเป็นไปโดยง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น
ถ้ามีทุนทรัพย์ก็หยิบพาสปอร์ตจองตั๋วบินไปได้ทันที คนไทยชอบ คนญี่ปุ่นก็ยิ้มรับ
สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ พาไปดูบรรยากาศการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในเที่ยวบินปฐมฤกษ์ กรุงเทพฯ-โตเกียว วันเดียวกับที่เส้นทางการบิน กรุงเทพฯ-โอซาก้า ของสายการบินเดียวกันทำการบินครั้งแรก
ป้ายที่ติดไว้ตามร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และที่สาธารณะ นอกจากภาษาจีนและเกาหลีแล้ว ยังมีภาษาไทยช่วยสื่อสาร รองรับนักท่องเที่ยวไทยที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงปีที่ผ่านมา
แต่ไม่นานมานี้มีข่าวอุบัติเหตุคนไทยเมาแล้วขับรถยนต์ชนคนญี่ปุ่นจนเสียชีวิต ที่จังหวัดชิบะ ประเทศญี่ปุ่น นอกจากความเสียใจที่เกิดการสูญเสียแล้ว ยังสั่นสะเทือนผู้ที่หวังจะไปเยือนแดนอาทิตย์อุทัย เมื่อมีเสียงแว่วในโลกออนไลน์ว่า คนญี่ปุ่นเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรการยกเว้นวีซ่าให้คนไทย
เพิ่มเติมจากปัญหา "โรบินฮูด" คนไทยที่หวังไปแสวงโชคในแดนปลาดิบ โดยอยู่เกินระยะเวลาที่กำหนดและลักลอบทำงาน ยิ่งเมื่อญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้คนไทย ตัวเลขคนที่อยู่เกินกำหนดวีซ่ามีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งแบบมาแสวงโชคเอง ถูกนายหน้าหลอกมา หรือซื้อแพคเกจทัวร์ญี่ปุ่นราคาถูกแล้วโดดออกจากทัวร์ดื้อๆ เลยก็มี
ปัญหาเหล่านี้จะส่งผลให้ทางญี่ปุ่นทบทวนมาตรการวีซ่าของคนไทยหรือไม่ ต้องถาม สิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ อัครราชทูตไทย ประจำกรุงโตเกียว
"เรื่องคนที่อยู่เกินกำหนดในภาพรวมของประเทศญี่ปุ่นปีที่แล้วลดลง มีไม่กี่ชาติที่เพิ่มขึ้น คือ ประเทศไทย และอีก 2-3 ชาติแถบบ้านเรา เพราะมาตรการยกเว้นวีซ่า แต่ตัวเลขไม่ได้พุ่งจนน่าเกลียด เรามักจะได้ยินว่า เอ๊ะ?รัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเลิกไหม จะให้เรากลับไปขอวีซ่าไหม ผมเชื่อว่ายังไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยในปีที่แล้วเพิ่มขึ้นมา รัฐบาลญี่ปุ่นก็พึงพอใจ เอกสารแนะนำการท่องเที่ยวของหลายเมืองก็มีภาษาไทย เขาทราบดีว่านักท่องเที่ยวไทยเป็นตลาดใหญ่ของเขา แน่นอนว่ามีเหตุการณ์ต่างๆ บ้างเป็นเรื่องปกติเมื่อคนจากประเทศหนึ่งเข้ามาเยอะๆ
อย่างล่าสุดที่มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนคนญี่ปุ่นเสียชีวิต เป็นคนไทยที่อยู่ที่นี่อยู่แล้ว ขับรถไม่มีใบขับขี่ ดื่มเหล้าเมา ส่งผลให้ขับรถชนจนมีผู้เสียชีวิต แต่จริงๆ เขามองเป็นแค่กรณีที่คนกระทำผิดคนหนึ่ง เขาคงไม่ได้มองว่าคนไทยทุกคนต้องมาเมาแล้วขับ ฉะนั้นคงยังไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้เขาจะทบทวนมาตรการขึ้นมา" ทูตสิงห์ทองอธิบายให้ฟัง
ทูตไทยประจำกรุงโตเกียวเล่าต่อไปว่า ปีที่แล้ว คนไทยที่อยู่เกินกำหนดเพิ่มจาก 3,000 คน มาเป็น 4,000 คน ทั้งคนที่อยู่ก่อนแล้วและคนที่เข้ามาใหม่ มีประเภทที่มาอยู่เกิน 15 วัน แล้วหางานทำไม่ได้ เมื่อก่อนคนไทยลักลอบมาทำงานได้ง่าย แต่เดี๋ยวนี้กฎหมายเข้มงวดขึ้น นายจ้างที่จ้างแรงงานผิดกฎหมายก็ถูกลงโทษด้วย ที่ไทยมีนายหน้าที่ไปบอกว่าญี่ปุ่นเปิดแล้วทำงานได้ คนก็มาเพราะความเข้าใจผิด อาจมีนายจ้างคนไทยที่คิดว่าคงไม่มีคนมาตรวจเจอ ก็รับไว้บ้าง แต่ว่าน้อย
"ชาติอื่นที่มาอยู่เกินกำหนดที่เยอะที่สุดจะเป็นจีนกับเกาหลี เพราะเขามีชุมชนใหญ่ที่นี่ อย่างตัวอักษรจีนก็สามารถใช้เข้าใจได้ คนที่มาอยู่เกินกำหนดก็จะเยอะ ปัญหาของคนไทยจะอยู่ที่วีซ่านักท่องเที่ยวระยะสั้น ทางฟิลิปปินส์เองพอเปิดวีซ่าสถานทูตเขาก็เตรียมตัวเพราะเชื่อว่าจะเพิ่ม ตราบใดที่เศรษฐกิจต่างกัน เมื่อเรามองว่าค่าแรงที่นี่สูงกว่า แต่ค่าครองชีพที่นี่ก็สูงกว่าไทย เพราะฉะนั้นถ้าทำงานถูกกฎหมาย มีบริษัทที่รับอย่างถูกต้องก็ดี"
ส่วนปัญหาอื่นๆ หลังยกเว้นวีซ่าคนไทย ทูตสิงห์ทองบอกว่า มีเรื่องอุบัติเหตุ เพราะที่ผ่านมาตอนที่ยังมีวีซ่า คนจะเที่ยวผ่านบริษัทท่องเที่ยวมีประกันเรียบร้อย แต่ตอนนี้สามารถมากันเองได้ จะเจอนักท่องเที่ยวไทยที่มาด้วยตัวเอง มีไกด์บุ๊กดูแผนที่เอา พอมาแล้วส่วนใหญ่ไม่ทำประกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ค่าใช้จ่ายที่นี่จะสูง อย่างกรณีที่พบ เช่น เล่นสกีที่ฮอกไกโดหกล้มกระดูกหัก เข้ารักษาโรงพยาบาลญี่ปุ่น 2-3 ล้านเยน ก็เป็นล้านบาท ตรงนี้เป็นปัญหา ไม่มีประกันก็ต้องรับผิดชอบเอง
"มีคนถามว่า ทำไมสถานทูตหรือรัฐบาลไม่จ่ายให้ ถ้าเราจ่ายต้องเอาภาษีราษฎรมาจ่ายให้คนที่พอจะมีปัญญามาเที่ยวเมืองนอก แล้วคนไทยตาดำๆ ในประเทศที่ถูกเอาภาษีไปใช้ล่ะ...ก็ไม่ใช่ เราอำนวยความสะดวกเรื่องต่างๆ ให้ได้ อย่างการทำของหายและอุบัติเหตุ บางท่านทำใบขับขี่สากลมาแล้วมาขับรถ ซึ่งญี่ปุ่นกฎจราจรเข้มงวดมาก แต่เราขับตามความเคยชินแล้วไปเกิดอุบัติเหตุก็มี ต้องระมัดระวัง แล้วที่ไม่มีใบขับขี่ เมาแล้วขับต้องระวัง เพราะกฎหมายที่นี่แรง ขับรถโดยไม่มีใบขับขี่ของเราแค่ปรับ แต่ของเขามีบทลงโทษจำคุกด้วย ถ้าเมาไม่มีใบขับขี่แล้วขับรถชนคนตาย โทษสูงสุดจำคุก 20 ปี เป็นสิ่งที่สังคมเขาประณาม" ทูตสิงห์ทองเล่าให้ฟังพร้อมฝากเตือนไปยังนักท่องเที่ยวไทย
ลองถามภาคธุรกิจที่ขยายการลงทุนรับนักท่องเที่ยวไทยที่มาญี่ปุ่นมากขึ้น
นัดดา บุรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ที่เพิ่งเปิดเส้นทางการบินไทย-ญี่ปุ่นหมาดๆ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ทางสายการบินไม่มีความกังวลเรื่องการทบทวนมาตรการวีซ่าของคนไทย เพราะได้สอบถามและพูดคุยกับทางการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ตั้งแต่ 2-3 เดือนที่แล้ว
"ทางประเทศญี่ปุ่นตั้งเป้าไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะเดินทางเข้ามาญี่ปุ่นเพิ่มจาก 10 ล้านคน เป็น 20 ล้านคน ภายในปี 2020 นี่คือตัวเลขที่ประกาศออกมา ญี่ปุ่นพูดตัวเลขนี้ขึ้นมาแสดงว่า ประเทศเขาต้องพึ่งการท่องเที่ยวอยู่พอสมควรทีเดียว เพราะฉะนั้นการจะมาเลิกวีซ่าก็คือการเตะตัดขาตัวเอง ฉะนั้นคงไม่ทำ แล้วอย่าลืมว่า เขาต้องการรายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวอยู่สูงพอสมควร" นัดดากล่าวอย่างมั่นใจ
ส่วน อุไรวรรณ คูหะเปรมะ รองกงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ในฐานะที่ต้องดูแลคนไทยในเขตคันไซ เล่าประสบการณ์ให้ฟังว่า ตั้งแต่เปิดยกเว้นวีซ่าก็มีคนไทยเข้ามาหลากหลาย มีตั้งแต่มาตายเอาดาบหน้า หายไปแล้วจะรู้ก็ต่อเมื่อเกิดปัญหา ทางญี่ปุ่นก็กังวลเพราะเป็นคนเปิดนโยบายนี้เอง แต่สิ่งที่จะเป็นภาระคือ คนไทยที่ถูกหลอกมาหรือตั้งใจให้เขาหลอกมา นึกว่าจะหางานทำได้ตามที่คิด
"อีกปัญหาคือ บริษัทจัดหาคู่ คนญี่ปุ่นเสียเงินผ่านนายหน้าจำนวนมาก นายหน้าก็จะดูแลให้คนไทยไปเรียนภาษาญี่ปุ่น แต่การเรียน 3 เดือนไม่ได้ผล ที่สำคัญคือความคาดหวังจากฝ่ายหญิงไทย ประเทศนี้ไม่ได้มีเครือญาติที่อยู่ร่วมกันช่วยผ่อนแรงเรื่องงานบ้าน ถ้ามีลูกก็ต้องทำเองทุกอย่าง ผู้หญิงไทยกลุ่มหนึ่งต้องการจะมีอนาคตที่ดี อาจมองแต่ส่วนที่มีความหวัง อยากเตือนว่าควรศึกษาให้ดีๆ เพราะว่าชายญี่ปุ่นหลายคนหาคู่แต่งงานในญี่ปุ่นไม่ได้ เลยจะหาคนต่างชาติ
แล้วก็มีคนไทยที่แต่งงานกับชายญี่ปุ่นที่อายุมาก ที่ญี่ปุ่นผู้ชายที่หย่าแล้วก็อาจไปหาผู้หญิงในต่างประเทศ บางกรณีไม่จดทะเบียนสมรส เพราะถ้าจดทะเบียนแล้วสามีเสียชีวิตรัฐบาลญี่ปุ่นต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูผู้หญิงจนชีวิตหาไม่ ถ้าไม่ได้จดทะเบียน ไม่มีหลักประกันอะไรในชีวิต พอสามีเสียชีวิตก็ถูกญาติพี่น้องหรือลูกที่ติดมากับสามีเก่าขับไล่ออกจากบ้านก็มี ทำให้งานคุ้มครองของกงสุลหนักขึ้น อยากฝากว่าให้พิจารณาให้ถี่ถ้วน" อุไรวรรณกล่าวเตือนอย่างห่วงใย
หลากปัญหาเกิดขึ้นเมื่อคนไทยเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงต้องตัดสินใจอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะเหล่าโรบินฮูดที่เห็นโอกาสทอง เมื่อลักลอบทำงานและอยู่เกินกำหนด หากถูกจับได้จะถูกปรับเงิน ส่งตัวกลับและเข้าประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงโอกาสที่จะถูกกดขี่แรงงานและค่าแรงจนถึงต้องเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินชีวิต
ยืนยันได้ว่า ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้กำลังทบทวนมาตรการยกเว้นวีซ่าท่องเที่ยวของคนไทย ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวยกเว้นวีซ่าให้ประเทศอื่นๆ ในอาเซียนเพิ่มเติม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยอาศัยการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่อย่างไรนักท่องเที่ยวก็ควรเคารพกฎหมาย เรียนรู้วัฒนธรรมความมีระเบียบและมารยาทแบบญี่ปุ่น จะได้เที่ยวแบบรู้จักเจ้าของประเทศ สบายใจทั้งเจ้าบ้านและผู้มาเยือน เข้าเมืองตาหลิ่วแล้วต้องหลิ่วตาตาม
ขอบคุณข่าวจาก prachachat.net
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
