’10 ดินแดนสวรรค์’สุดโรแมนติก ที่คนมีคู่ไม่ควรไปเยือน

หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง ’10 ดินแดนสวรรค์’สุดโรแมนติก ที่คนมีคู่ไม่ควรไปเยือน

1. โรงแรมดันตัน ฮอท สปริงส์ รัฐโคโลราโด สหรัฐอเมริกา

คู่รักที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายสับสนของสังคมเมืองเพื่อไปพักผ่อน อย่างเงียบสงบท่ามกลางธรรมชาติ ที่นี่เคยเป็นที่ตั้งของเมืองร้าง แต่ปัจจุบันถูกพัฒนาให้เป็นรีสอร์ทหรูสไตล์กระท่อม ของโรงแรมดันตัน ฮอท สปริงส์ ซึ่งมีให้เลือกพัก 13 หลัง ภายในถูกตกแต่งอย่างหรูหราสะดวกสบาย ส่วนกิจกรรมก็มีให้ทำหลากหลายไม่ว่าจะเป็น การเดินป่า ขี่ม้า ตกปลา เล่นสกี ปีนเขา ขี่จักรยานวิบาก ล่องแพ พายเรือคายัค และแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน เป็นต้น หากไม่ชอบพักในกระท่อมไม้เก่าแก่ สามารถเลือกพักในเต็นท์หรู"เครสโต้ แรนช์ เต็นท์ส" ที่โรงแรมดันตัน ฮอท สปริงส์

2.โคลชากัว วัลเลย์ ประเทศชิลี

’10 ดินแดนสวรรค์’สุดโรแมนติก ที่คนมีคู่ไม่ควรไปเยือน

หนึ่งในแหล่งผลิตไวน์ดีที่สุดของประเทศชิลี กิจกรรมเด็ดห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาเยือนที่นี่ก็คือ การชิมไวน์ระดับเวิลด์คลาสที่ผลิตจากองุ่นพันธุ์ คาร์เมเนร์ (Carménère), มัลเบค (Malbec) ซีราห์ (Syrah) และคาเบอร์เนต์ โซวิญอง (Cabernet Sauvignon) ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจก็คือการ ไต่เขา ปั่นจักรยาน ขี่ม้า เที่ยวชมหมู่บ้าน และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ของอดีตนักค้าอาวุธสงครามตัวพ่อ "คาร์ลอส การ์ดอน"

3. เมืองควีนส์ทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์

ที่นี่เปรียบดังสวรรค์ของนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย เพราะมีกิจกรรมสุดท้าทายหลากหลายชนิด ทั้งบันจี้จัมพ์ สกี สโนว์บอร์ด ล่องแพกระโดดร่ม ร่มร่อน ล่องเรือเจ็ทโบ๊ต เดินป่า ตกปลา จักรยานวิบาก แต่ถ้าคิดว่ากิจกรรมวัดใจเหล่านี้โหดเกินไปสำหรับทริปฮันนีมูน ก็สามารถพาคนรักขึ้นเฮลิคอปเตอร์ข้ามเทือกเขาเซ้าท์เทิร์นแอลป์ ไปชมความสวยตะลึงของฟยอร์ด 'มิลฟอร์ด ซาวนด์'หากมีโอกาสไปเยือนเมือง

4. รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

โลนลี่ แพลนเน็ต แนะนำให้ไปที่ "บิ๊กเซอร์" ซึ่งเป็นที่ตั้งของเทือกเขา "แซนตาลูเชีย" ซึ่งมีอุทยานแห่งชาติให้เที่ยวชมหลายแห่ง ทั้งยังมีป่าเรดวู้ดสูงชะลูด

มีสายน้ำไหลลงมาจากซอกเขา ที่ตกลงมาบนชายหาดแล้วไหลลงสู่ทะเล

มีกิจกรรมปีนเขา เดินป่า และมีร้านอาหารรสเลิศหลายแห่ง

5.บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

หนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์ชวนหลงใหลมากที่สุดในโลก เพราะมีธรรมชาติที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ภูเขา ท้องทะเลและอาทิตย์อัสดง แม้จะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิม แต่ผู้คนที่นี่นับถือศาสนาฮินดูมาเกือบ 2,000 ปีแล้ว วัดฮินดูบนเกาะแห่งนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเทียวยอดนิยม โลนลี่ แพลนเน็ต แนะนำให้เข้าพักที่โรงแรมตูกู ในหมู่บ้านชางกู ซึ่งอยู่ใกล้ชายหาด ทุ่งนา และหมู่บ้านชาวประมง อีกทั้งยังอยู่ห่างจากสนามบินเพียง 30 นาที โรงแรมแห่งนี้เป็นบูติกโฮเต็ลแสนโรแมนติก ที่ภายในตกแต่งด้วยงานศิลปะในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนของสะสมโบราณอีกมากมาย

6.แคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปน

อันดาลูเซีย เป็นแคว้นปกครองตนเอง มีเมืองหลวงชื่อ "เซบียา" ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศสเปน และยังเป็นที่ตั้งของแหล่งมรดกโลกมากถึง 3 แห่ง อีกด้วย สถานที่สำหรับคู่รักที่โลนลี่ แพลนเน็ตแนะนำ คือ บูติกโฮเต็ลที่มีชื่อว่า "ตราเซียร์ร่า" ตั้งโดดเด่นอยู่บนเทือกเขาเซียร์ร่า โมเรน่า โรงแรมแห่งนี้ มีบรรยากาศที่อบอุ่นและให้ความรู้สึกหมือนอยู่บ้านมากกว่าโรงแรม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่นี่เป็นบ้านโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 แถมเจ้าของบ้านคนปัจจุบัน "ชาร์ลอด สกอต" นักออกแบบชาวอังกฤษ อาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 30 ปีจนถึงปัจจุบัน โรงแรมแห่งนี้ไม่มีรูมเซอร์วิส มินิบาร์ ทีวี โทรศัพท์ และห้องอาหาร พนักงานหลักของโรงแรม คือ เจ้าของบ้านและลูกๆ ทั้ง 4

7. ประเทศเซนต์ ลูเชีย

เกาะภูเขาไฟที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขามากกว่าเกาะอื่นๆ ในทะเลแคริบเบียน จุดที่โดดเดนและเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ คือ พิตอน ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟ 2 ลูก ที่มีแนวสันเขาเชื่อมต่อระหว่างกัน นอกจากนี้ ที่นี่ยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ จึงเหมาะสำหรับคู่รักที่ชอบท่องเที่ยวแบบผจญภัย ไม่ว่าจะเป็นการปีนเขา,

ดำน้ำ ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น รวมทั้งการดำน้ำแบบ "สนูบ้า"(ลูกผสมระหว่างการดำน้ำแบบสกูบาและสน็อกเกิ้ล) ตลอดจนการโหนสลิง หรือซิปไลน์ เป็นต้น

8. เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโค

โดยโลนลี่ แพลนเน็ต ระบุว่า "มาร์ราเกช" เป็นหนึ่งในเมืองโรแมนติกที่สุดในโลก ที่นี่อบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศอาหรับและกลีบกุหลาบ มีเสียงเพลงคานาวา และเต็มไปด้วยตะเกียงที่สวยงาม มีแหล่งช้อปปิ้งที่ตลาดอาหรับสไตล์ดั้งเดิม และหยุดดูการเป่าปี่เรียกงูที่จัตุรัส จามา เอล ฟีน่า โลนลี่ แพลนเน็ต

แนะนำให้เข้าพักที่โรงแรมลา เมซอง อาหรับ (La Maison Arabe) ซึ่งเป็นโรงแรมหรูแบบฟูลเซอร์วิส ที่ออกแบบและตกแต่งในสไตล์ริยาด หรือบ้านสไตล์โมร็อกกันขนานแท้ที่มีสวนหรือลาน สำหรับพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน จึงเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ สวยงาม ทั้งยังมีมุมพักผ่อนอันเงียบสงบและเป็นส่วนตัวอีกด้วย

9. กรุงบราซีเลีย ประเทศบราซิล

สปอตไลท์ด้านการท่องเที่ยวและกีฬาจะฉายไปที่ประเทศบราซิล ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันฟุตบอลโลก และสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮอตที่นักท่องเที่ยวมักพากันนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ก็คือ ชายหาดโคปาคาบานา และชายหาดอิปปาเนมา ในเมืองริโอเดอจาเนโร

10. แคปปาโดเชีย ประเทศตุรกี

นอกจากจะเป็นแหล่งประวัติศาตร์และอารยธรรมโบราณแล้ว ยังเต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ลองตื่นนอนแต่เช้ามืด เพื่อขึ้นบอลลูนชมภูเขาและแท่งหินรูปทรงแปลกตา ที่สร้างสรรค์โดยธรรมชาติล้วนๆ และที่ห้ามพลาด ก็คือ การปีนบันไดขึ้นไปบนปราสาทอูชิซาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูง เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินและวิวทิวทัศน์อันสวยงามแปลกตาในแบบพาโนรามา หากเดินทางไปเยือนที่นี่ โลนลี่ แพลนเน็ต แนะนำให้เข้าพักที่โรงแรม "อาร์โกส" ในแคปปาโดเชีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศาสนสถาน แต่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้เป็นโรงแรมถ้ำสุดชิคและสวยงามที่สุด