10 ปราสาทสุดหลอน ที่สุดในโลก
1. Edinburgh Castle
หลายปีก่อน Edinburgh Castle เคยติดอันดับ “สิบสถานที่หลอนที่สุด” ซึ่งถูกจัดอันดับโดยนิตยสาร Times ความหลอนเริ่มต้นจาก ในปี 1537 Lady Glamis ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด ถูกเผาในขณะที่ลูกชายตัวน้อยของเธอยืนดูอยู่ และ วิญญาณของเธอยังคงวนเวียนอยู่ในปราสาท หลังจากนั้น ราวปี 1650 มีผู้พบเห็นและได้ยินเสียงของผีมือกลองไร้หัวในห้องโถงของปราสาท นอกจากนั้น ยังมีผู้พบเห็นผีหมาที่วิ่งเล่นไปมาในสุสานที่ปกคลุมไปด้วยหมอก
จากเรื่องราวความหลอนที่มีมากมาย ทำให้มีการพิสูจน์ความลี้ลับหลายต่อหลายครั้ง ในปี 2001 มีกลุ่มอาสาสมัครกว่า 240 คน เข้าไปอาศัยในบริเวณปราสาทกว่าสิบวัน ในการคัดเลือกอาสาสมัคร ได้คัดเลือกเฉพาะอาสาสมัครที่ไม่เคยทราบความเป็นมาของปราสาทเท่านั้น ผลปรากฏว่า สิ่งที่อาสาสมัครค้นพบ คล้ายคลึงกับสิ่งที่มีคนเคยพบก่อนหน้านี้ เช่น รู้สึกได้กลิ่นไหม้ เห็นเงาประหลาด และ เห็นอสูรกายในผ้ากันเปื้อนหนัง คุกใต้ดินโบราณ รวมถึงทางเดินในปราสาทยังคงเป็นที่ที่มีความลี้ลับซ่อนอยู่
2. Chillingham Castle
ความหลอน: Chillingham Castle อยู่ทางตอนเหนือของอังกฤษ และ เป็นที่ทราบดีถึงความหลอนมาเป็นเวลายาวนาน ปราสาทถูกสร้างขึ้นเป็นป้อมปราการเพื่อป้องกันการรุกรานของชาวสกอตแลนด์ ดังนั้นมันจึงจัดเป็นสถานที่นองเลือด Chillingham Castle มีผีอยู่อย่างน้อย 6 คน ในปัจจุบัน ปราสาทนี้เปิดให้เข้าชมแบบทัวร์รอบปราสาทประมาณ 2 ชั่วโมง รวมถึง เปิดให้แขกที่ใจถึงพักค้างคืนด้วย ปราสาทนี้อยู่ห่างจาก Newcastle หรือ Edinburgh ประมาณ 70 ไมล์
ผีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ ผีเด็กที่ถูกเรียกว่า “blue boy” ซึ่งถูกพบเห็นบ่อยครั้งในห้องสีชมพู ในลักษณะเป็นแสงสีฟ้า และ บางครั้งปรากฏเป็นรัศมีสีฟ้าอยู่เหนือเตียงของแขกที่มาพักค้างคืนหลังจากมีเสียงร้องไห้เสียงดัง ผีที่น่ากลัวที่สุดคือ John Sage ซึ่งถูกแขวนคอในระหว่างสงครามของอังกฤษกับสกอตแลนด์ ซึ่งมีคนเคยเห็นเขาเดินลากตัวไปมารอบปราสาท
3. Houska Castle
ความหลอน: Houska castle ตั้งอยู่ทางเหนือของ Prague และ ไม่เคยเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบ ไม่เกี่ยวข้องกับการเป็นป้อมปราการที่คอยตั้งรับการรุกรานของข้าศึก แต่มันถูกสร้างเพื่อซ่อนบางอย่างไว้ภายใน
ปราสาทถูกสร้างทับหลุมขนาดใหญ่ที่เชื่อว่าเป็นประตูไปสู่นรก หลุมมีขนาดใหญ่มากจนไม่มีทางมองเห็นก้นหลุม ลือกันว่ามีสัตว์ประหลาดที่มีปีก และ สัตว์ประหลาดครึ่งคนครึ่งสัตว์อาศัยอยู่ภายในหลุมนั้น Bohemian rulers เป็นคนสั่งให้สร้างปราสาทขึ้นทับหลุมที่ว่านี้ โดยก่อนสร้าง ได้เสนอให้นักโทษที่กล้าถูกหย่อนลงไปในหลุมโดยใช้เชือก จะได้รับการอภัยโทษ พบว่า นักโทษคนแรกที่โดนหย่อนลงไปในหลุม ร้องตะโกนออกมา เมื่อเขาถูกนำตัวขึ้นมาพบว่าเขาดูแก่ไปจากเดิมกว่า 30 ปี และ เสียชีวิตลงไม่กี่วันหลังจากนั้น โดยไม่ทราบสาเหตุการตายแน่ชัด
Houska castle เต็มไปด้วยผี ซึ่งรวมถึง หมายักษ์ กบยักษ์ มนุษย์ยักษ์ ม้าสีดำไร้หัว และ ผีผู้หญิงในชุดเก่าคร่ำคร่าที่มักมีคนเห็นเธอแอบมองลอดหน้าต่างออกมาจากชั้นบนสุด เชื่อกันว่าด้านล่างปราสาทยังคงมีปิศาจที่โผล่ขึ้นมาจากหลุมวนเวียนอยู่
4. Belcourt Castle
ความหลอน: Oliver Belmont เป็นผู้สร้าง Belcourt Castle ขึ้นในศตวรรษที่ 19 และ ปราสาทมีมูลค่าถึงกว่า 100 ล้านดอลล่าร์ ในช่วงท้ายๆของการก่อสร้าง Oliver เดินทางไปทั่วโลกเพื่อเลือกของมาประดับตกแต่งปราสาท ปราสาททรุดโทรมไปตามกาลเวลาเนื่องจากไม่ได้รับการทำนุบำรุง ในปี 1956 ปราสาทถูกขายให้กับครอบครัว Tinney ในราคา 25,000 ดอลล่าร์ (200,000 ดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินในปัจจุบัน)
สมาชิกในครอบครัว Tinney ได้ครอบครองปราสาทที่ต้องมีการซ่อมบำรุงมากมาย รวมถึงได้ผีมาเป็นของแถมด้วย สิ่งที่แปลกที่สุดของ Belcourt Castle คือ สิ่งลี้ลับต่างๆมาจากของแต่งบ้านที่มาจากทั่วโลกมากกว่ามาจากตัวปราสาทเอง เช่น ในทุกๆเดือนมีนาคม จะมีเสียงร้องโหยหวนดังออกมาจากเกราะนักรบของศตวรรษที่ 15 ซึ่งมีเสียงลือว่า เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าของเกราะถูกหอกแทงทะลุตา นอกจากนั้นเก้าอี้ในห้องบอลรูมของปราสาทสามารถเคลื่อนไหวได้เองและมีพลังงานบางอย่างนั่งลงบนเก้าอี้เหล่านั้น
5. Brissac Castle
ความหลอน: Brissac Castle เป็นปราสาทสไตล์ฝรั่งเศสที่สูงที่สุดใน Loire Valley ตัวปราสาทมีมากกว่า 7 ชั้น และ มีมากกว่า 200 ห้อง เจ้าของปราสาทคนแรกคือ Counts of Anjou และ ในเวลาต่อมา ปราสาทถูกขายให้กับคู่สามี ภรรยานามว่า Jacques และ Charlotte ฝ่ายภรรยาคือ Charlotte มักทรมานสามีของเธออยู่เสมอด้วยการมีเซ็กซ์เสียงดังและเปิดเผยกับคู่นอนไม่เลือกหน้า จนวันหนึ่งที่สามีของเธอทนไม่ไหว
จนในเวลาต่อมาพบว่า ทั้ง Charlotte และ คู่นอนของเธอหายตัวไป Jacques คือผู้ต้องสงสัย แต่หลังจาก Charlotte และ คู่นอนได้ตายไปแล้ว เสียงครางของทั้งคู่ยังคงไม่หายไป แต่กลับดังขึ้น จนกระทั่ง Jacques ตัดสินใจขายปราสาท ปัจจุบันมีเสียงลือว่า ในช่วงเช้ายังคงได้ยินเสียงครางของ Charlotte และ คู่นอนของเธอ
Château de Brissac เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม และ มีห้องสำหรับพักค้างคืนด้วยในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนกันยายน
6. Eltz Castle
ความหลอน: Eltz Castle เป็นปราสาทที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่า ตัวปราสาทมีความสวยงาม และ มีการตกแต่งภายในที่ตระการตามากที่สุดแห่งหนึ่งในเยอรมนี Eltz Castle เป็นปราสาทหนึ่งในไม่กี่แห่งในบริเวณใกล้เคียงที่ไม่เคยถูกทำลาย และ ยังเป็นปราสาทหนึ่งในไม่กี่แห่งในเยอรมนีที่ลือกันว่ามีผีสิง ลือกันว่า อัศวินจากยุคกลางยังคงตรวจตราและเฝ้าเวรยามอยู่ที่ปราสาท และ ปราสาทแห่งนี้ไม่เคยเปลี่ยนมือเจ้าของ หลังจากผ่านไปถึง 33 รุ่น ปราสาทยังคงมีเจ้าของเป็นสมาชิกในครอบครัวเดิม
7. Castle of Bardi (or Landi Castle)
ความหลอน: เรื่องราวแสนเศร้าของผีในป้อมปราการแห่งนี้ มาจากตำนานของ Moroello และ Soleste โดย Soleste เป็นลูกสาวของเจ้าของปราสาท ซึ่งหลงรัก Moroello ที่เป็นกัปตันของเหล่าอัศวิน ระหว่างการสู้รบที่ยาวนาน Soleste นั่งเหม่อมองไปที่ปลายขอบฟ้า เฝ้ารอ Moroello อยู่บนป้อมปราการของปราสาท จนวันหนึ่ง Soleste เห็นนักรบกลับมาจากแนวหน้า แต่เมื่อนักรบเข้ามาใกล้ในระยะที่ตาเธอมองเห็น เธอกลับพบว่านักรบเหล่านั้นคือฝ่ายศัตรู Soleste เศร้าเสียใจเมื่อคิดว่า Moroello อาจจะเสียชีวิตแล้ว เธอจึงทิ้งตัวตกลงมาจากปราสาท แต่ความจริงที่โหดร้ายคือ นักรบเหล่านั้นคือ Moroello และ เหล่าทหารของเขาที่ใส่เสื้อรบของศัตรูเพื่อประกาศชัยชนะ Moroello พบคนรักของเขานอนตายอยู่บนพื้น และเศร้าเสียใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย ผีของ Moroello ยังคงวนเวียนอยู่ในปราสาท เขายังคงตามหาคนรักของเขาที่หายไป
8. Dragsholm Castle
ความหลอน: สถานที่ที่มีผีสิงทั่วไป อาจจะมีผีอยู่ 1 หรือ 2 ตน แต่ Dragsholm Castle ลือกันว่ามีผีถึง 100 ตน เนื่องจากสถานที่แห่งนี้เคยเป็นทั้งคุก และ ป้อมปราการที่ป้องกันการรุกรานของข้าศึก บางคนถึงกับจัดให้ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทที่หลอนที่สุดในโลก ปราสาทแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักแบบค้างคืน และ ในตัวปราสาทมีร้านอาหารด้วย
จากเรื่องราวมากมายของผีที่ Dragsholm Castle เรื่องราวต้นตำรับของตำนานความหลอนที่น่ากลัวที่สุดน่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ “White Lady” ก่อนที่จะตายและกลายเป็นผี White Lady เป็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงที่หลงรักคนงานของปราสาทคนหนึ่ง เนื่องจากเธอเป็นสมาชิกของครอบครัวชั้นสูง พ่อของเธอซึ่งเป็นเจ้าของปราสาทจึงไม่เห็นด้วยกับความรักครั้งนี้ แต่ทั้งสองก็ยังคงลักลอบคบกัน จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อของ White Lady โกรธจัด เขาจึงขังลูกสาวของตัวเองไว้ในกำแพงของปราสาท ไม่มีใครพบเห็น White Lady อีกเลยจนกระทั่ง 100 ปีต่อมา ในช่วงศตวรรษที่ 20 ในขณะที่มีการปรับปรุงซ่อมแซมปราสาท คนงานค้นพบโครงกระดูกภายในกำแพงปราสาท และ เจ้าของโครงกระดูกนั้นใส่ชุดสีขาว
9. Moosham Castle
ความหลอน: ปราสาทแห่งนี้ ถูกสร้างโดย Prince-Bishops of Salzburg และ มีประวัติที่แปลกประหลาดและน่าสยดสยอง แม่มดจำนวนหลายร้อยคนถูกตัดหัวภายใน Moosham Castle และ ผีแม่มดหลายตนยังคงวนเวียนอยู่ในปราสาทแห่งนี้ เนื่องจากเรื่องราวความหลอน ปราสาทแห่งนี้จึงถูกเรียกชื่อว่า “ปราสาทแม่มด”
นอกจากจะเป็นแหล่งที่อยู่ของผีจำนวนมากแล้ว Moosham ยังเป็นที่อยู่ของมนุษย์หมาป่าด้วย ในช่วงปี 1800s พบซากศพของ วัว ควาย และ กวาง ในเขตของ Moosham จำนวนมาก ทำให้ผู้อยู่อาศัยในเขต Moosham ถูกกล่าวหาว่าเป็นมนุษย์หมาป่า
10. Warwick Castle
ความหลอน: ปราสาทแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 11 โดย William the Conqueror อาจกล่าวได้ว่าWarwick Castle ผ่านสงครามมากกว่าปราสาททุกแห่งในยุโรป ถึงแม้จะไม่มีการสู้รบมาหลายปีแล้ว แต่วิญญาณต่างๆยังคงสิงสถิตอยู่ ณ ที่แห่งนี้
กล่าวกันว่า บริเวณที่เรียกว่า “ghost tower” คือบริเวณที่มีความหลอนมากที่สุด เนื่องจาก ลือกันว่า Sir Fulke Greville ซึ่งถูกฆ่าโดยคนรับใช้ของเขาเอง จะปรากฏกายออกมาจากรูปของเขาในช่วงดึกๆของคืนที่หนาวเหน็บ ส่วนที่เป็นคุกของปราสาท ซึ่งเคยมีการทรมานนักโทษในทุกรูปแบบ ก็มีความหลอนเช่นกัน นักท่องเที่ยวจำนวนมากบ่นว่า พวกเขารู้สึกวิงเวียนศรีษะและคลื่นไส้ทุกครั้งที่สัมผัสอุปกรณ์ ข้าวของเครื่องใช้ภายในคุก
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!