กระทู้เด็ดพันทิป! เตือนภัย หมอมโน อ้างตัวเป็น นศ.แพทย์ !


กระทู้เด็ดพันทิป! เตือนภัย  หมอมโน อ้างตัวเป็น นศ.แพทย์ !


เป็นข่าวฮือฮาไปเมื่อ ปลายปีที่แล้ว สำหรับ กรณีที่ ผู้ใช้เฟ๊ชบุ๊ค Woraphas  ได้ออกมาโพสต์ภาพ และ ขอความแฉ หนุ่มรายหนึ่ง ว่าได้อ้างตัวเป็น นักศึกษาแพทย์ จาก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ   

แต่มีข้อชวนสงสัยหลายจุดว่าอาจจะเป็นเพียง 'หมอมโน' เนื่องจาก 

- องค์กรชื่อ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย นั้นไม่มี มีแต่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

- ส่วนอีกองค์กรชื่อ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย นั้นไม่ได้สอนแพทย์ สอนแต่พระ

- ทั้งสององค์กรนั้นไม่ได้สังกัดสภากาชาดไทย

- และหมอที่สังกัดสภากาชาดไทยนั้น ไม่มีใครติดพระเกี้ยวที่หน้าอก 
พร้อมขอให้ 'หนุ่ม' คนดังกล่าว หยุดพฤติกรรมนั้นเสีย

แต่ล่าสุด ประเด็นนี้ได้กลับมาเป็นที่สนใจและวิพากษ์ วิจารณ์ อีกครั้งในโลกออนไลน์ เมื่อ 'คุณ มีวาเฮยอง' สมาชิกเวบไซต์ ดัง pantip.com ได้มาตั้ง กระทู้ ที่ชื่อว่า '!!!หมอมโน...น.ศ.พ.เอ หมอจุฬายังไม่ตาย' ทำนองอ้างว่าตนและเพื่อนได้รับความเสียหายจากการหลอกลวงของ 'หนุ่มคนดังกล่าว' 

ระบุว่า



'ตามที่เคยมีกระทู้แฉบุคคลที่แอบอ้างตัวเองว่าเรียนหมอ อยู่มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ /จบแพทย์จากสถาบันชื่อดังอย่าง จุฬา


ทั้งนี้ทั้งนั้นจะไม่มีเรื่องเลยถ้า...เขาแค่แอบอ้างเป็นหมอ หล่อๆแบบมโมๆอยู่ในมุมของตัวเอง

แต่จากที่สืบทราบจากคอมเมนท์ต่างๆมานายเอ (นายวรภาส วงเจริญ) นั้นได้แอบอ้างเพื่อหลอกเอาเงินจากคนอื่น และผู้เคราะห์ร้ายที่ตามเกมไม่ทันก็มีทั้งนักศึกษาพยาบาลหลายคน นักศึกษานิติศาสตร์..  หนึ่งในนั้นก็มีเพื่อนเราเช่นกัน...สดๆร้อนๆ

บุคคลอันตรายที่อัพเกรดตัวเอง ปิดช่องโหว่ตัวเองจากที่เคยโดนมาในกระทู้เก่าๆที่ คนในวงการจับผิด

ทั้งเรื่องความรู้พื้นฐานทางแพทย์(เค้าตอบคำถามเรื่องยา) เรื่องเสื้อกราวสั้น(เอาไปแก้มาแล้ว เป็น น.พ.วรภาส วงเจริญ   ไม่ใช่น.ศ.พ. ตามที่มีคนทักท้วงว่าความจริงต้องเป็น นส.พ หรือ นศ.พ. -ไม่มีหลักฐานรูปเสื้อนะ-) 
เรามีเพื่อนคนนึงชื่อก. นิสัยซื่อๆ จู่ๆวันนึงก็มีแฟนใหม่เป็นนายคนนี้ รู้จักทางอินเตอร์เน็ต นายเอคนนี้บอกกับเราว่าตัวเองเรียนแพทย์ จุฬา อยู่ปี 1 (จริงๆ ณ ตอนแรกที่เห็นรูปก็ไม่คิดว่าจะเรียนแพทย์แต่ก็เห็นเสื้อกราวและด้วยความที่ไม่ได้เอะใจอะไรก็เลยปล่อย เพราะเห็นข่าวเพื่อนเราก็มีความสุขดี ใช้ชีวิตเหมือนจะดีขึ้นกว่าเดิม) เค้ามาหา ก. บ่อยมาก ซึ่งมหาลัยที่ ก.  เรียนอยุ่ต่างจังหวัด คนที่เรียนแพทย์ไม่น่าจะมีเวลาว่างปลีกตัวมาหาและใช้เวลาด้วยกันเกือบทุกวัน อ้างอิงจากเพื่อนของเราเองที่เรียนแพทย์จุฬาเหมือนกัน ตอนนั้นเราก็แค่เอะใจ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะเรามองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเพื่อน จากที่เห็นบนเฟสก็รักกันทะเลาะกันปกติแต่มีอยู่ช่วงนึงที่เอหายไปจากเฟสเพื่อนเรา ซึ่งเราก็เข้าใจว่าเลิกกัน แต่หลังจากนั้นก็โผล่กับมาด้วยเฟสใหม่ชื่อ "หมอโซเชียล เฟี้ยวทุกเพจ"

เราก็ไม่ได้อะไรจนกระทั่งเพื่อนเราบอกว่าจะแต่งงาน เราก็อึ้งเลย ด้วยความที่ว่ายังกำลังศึกษากันทั้งคู่ และพึ่งคบกันได้แค่ 3 เดือนเอง ยังไม่ทันพ้นโปร เราเลยถามเหตุผลกับ ก. แต่คำตอบที่ได้รับกับข้อมูลจากคนรอบข้าง ก. มันทำให้รู้สึกขัดแย้งกัน

-เอเป็นเรียนหมอจุฬา >>  มีเวลาว่างผิดปกติ แทบจะอยู่กับ ก. ตลอดเวลา

-เอเรียนหมอ ศัลย์ >> การเลือกสายตอนอยู่ปี 1 มันเป็นไปไม่ได้ จบปี 6 ยังไม่สามารถเลือกสายได้เลย ต้องเรียนต่ออีก 3 ปี

-เสื้อกราวสั้น >> ถามจากเพื่อนเราที่กำลังเรียนแพทย์จุฬาเสื้อกราวสั้นของจุฬา ปี1 ยังไม่ได้  ปี1ใช้กราวยาว   สำหรับกราวสั้น ปี 6 ได้ ซึ่งต้องสั่งตัด เพื่อนเราเรียนปี 5 ยังไม่ได้เลย ปี 1 จะได้ได้ไง

-บ้านรวย พ่อแม่ทำธุรกิจ มีรีสอร์ต >> ถ้ารวยทางบ้านไม่น่าปล่อยให้แต่งงานตอนที่ยังเรียนไม่จบกับคนที่ยังเรียนไม่จบ และถ้ามีรีสอร์ตก็น่าจะจัดงานที่รีสอร์ตตัวเอง

หลังจากที่เราได้การ์ดเชิญ(ได้ก่อนวันงานประมาณ 1สัปดาห์) ก็เลยลองเอาชื่อมาเสิร์ชในอากู๋ อยากเป็นหมอจริงๆรึเปล่า และสิ่งที่เราพบก็คือหลักฐานตามลิงค์ข้างบน

คืนก่อนวันแต่งงานที่เจ้าสาวเจ้าบ่าวต้องเตรียมตัวพร้อมทุกอย่างสำหรับงานใหญ่ในวันรุ่งขึ้น ทั้งสองหายตัวไป โดยไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลยจนกระทั้งเวลาประมาณ 5 ทุ่ม ก. ทักมาในกลุ่ม Facebook เพื่อนที่ช่วยเตรียมงานแต่งงานว่า "ไม่ต้องห่วงนะ เดี่ยวขอใช้เวลาคุยกับแฟนชั้นหน่อย เดี๋ยวกลับบ้านไปกันเเอง" หลังจากนั้นทั้งคู่ก็หายไป จนเวลาประมาณ เที่ยงคืน เอก็แท็กโลเคชั่นว่า "เคียด"ร้องไห้ภาษาสก๊อยมาก)แถมยังเช็คอินที่โรงพยาบาลนครปฐม(คือปกติคนเค้าจะแต่งงานเค้าต้องเก็บตัวไม่ใช่เหรอ) สุดท้ายทั้งสองคนก็กลับมาเวลา ตี 3 ทุกคนเป็นห่วงมากกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น รู้ภายหลังว่าตั้งใจจะไปเอารถที่ให้พี่สาวยืมไปเพื่อเอมาใช้ในวันแต่งงาน แต่สรุปก็ไม่ได้รถมา

ณ วันงาน เรามาถึงกันแต่เช้า สิ่งแรกที่ได้รับทราบคือ ช่างแต่งหน้าและชุดเพื่อนเจ้าสาวยังมาไม่ถึงซึ่งเอบอกว่า เอจ่ายค่ามัดจำชุดไปแล้ว

(ชุดตอนเย็นยกเลิกไปด้วยทางร้านแจ้งว่าช่วงนี้คนแต่งงานเยอะชุดจึงไม่พอ ซึ่งจริงๆเรามัดจำค่าชุดไว้แล้วเค้าควรจะล็อกชุดไว้ให้เรา) ซึ่งจริงๆแล้วชุดควรจะพร้อมก่อนถึงวันงาน ต่อมาได้รับข้อมูลว่าชุดเพื่อนเจ้าสาวและช่างแต่งหน้าจะมาถึงตอน 8 โมง 

(ตามกำหนดการ ต้องเริ่มพิธีตั้งแต่ 7 โมงเช้า) สุดท้าย 10 โมง เพื่อนเจ้าสาวช่วยกันแต่งตัว แต่งหน้า ทำผม  กันเองรวมทั้งเจ้าสาวด้วย ตั้งแต่เรามาถึงยังไม่เห็น ญาติ เอ เลยแม้แต่คนเดียวรวมถึงเพื่อนที่เออ้างว่าเชิญไปทั้งหมด 400 คน (รวมเพื่อนเจ้าบ่าว 20 คน)**สุดท้ายโผล่มาแค่ 3 หน่อ เมื่อถึงกำหนดการแห่ขันหมาก ผู้ใหญ่ทางฝ่าย เอ ก็ยังไม่มาสินสอดทองหมั้นก็ไม่มี หลังจากนั้นเราก็รอจนถึงเวลาประมาณ 10 โมง(ซึ่งเป็นเวลาที่เลยฤกษ์มานานมากแล้ว) ทางบ้านของ ก. ก็ให้ทำการตั้งขบวนขั้นหมากไปก่อนเพราะทางฝ่าย ก. เป็นคนมีหน้ามีตาในแถบนั้น (เจ้าบ่าวบ้านไหนเค้าใส่รองเท้าแตะเดินตลอดงาน) ขบวนขันหมากก็ให้เพื่อนเจ้าสาวและญาติเจ้าสาวเป็นคนแห่ หลังจากนั้นงานก็ดำเนินต่อไปโดยไร้วี่แววของ ญาติ เอ รวมทั้งสินสอด

เหตุการณ์ภายในงานก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆด้วยความตึงเครียด เพราะญาติ เอ ยังไม่มา  (มีเรื่องแนวไสยศาสตร์นิดหน่อย ไว้ค่อยเล่าให้ฟังตอนท้าย มันไม่ใช่ประเด็นหลัก)  ก่อนพิธีรดน้ำสังข์อยู่ๆเจ้าบ่าวก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้ หลังจากนั้นก็กลับมาพร้อมพี่ organize เลยดำเนินพิธีต่อไปได้ จนจบงานเช้า (รดน้ำสังข์) 

หลังจากนั้นได้คุยกับทางพี่ organize ซึ่งมาจัดงานให้ ตอนแรกทุกคนรับรู้ว่า เอ มัดจำค่าจัดงานไปแล้ว 1 แสนบาท แต่ความจริงแล้วทางพี่ organize บอกว่ายังไม่ได้จ่ายเลยสักบาทเดียวซึ่งเฉพาะค่าจัดงานไม่รวมโต๊ะจีนทั้งหมดก็ 2.2 แสนบาท เอ บอกพี่เค้าว่าตัวเองเป็นหมอมีคลีนิคส่วนตัวโดยใช้ใบประกอบวิชาชีพของแม่ ซึ่งเสียไปแล้ว พี่เค้าลองถามข้อมูลเรื่องยาที่คนธรรมดาไม่น่ารู้เพื่อเช็คว่าเป็นหมอจริงรึเปล่า แต่เอสามารถตอบได้ เรื่องพ่อที่เป็นทหาร พี่เค้าลองเช็คถามก็ตอบข้อมูลรุ่นได้ถูก (แต่ที่เรารู้คือพ่อแม่เป็นพ่อแม่บุญธรรมและทำธุรกิจ)
-เรื่องโต๊ะจีน เอ ออกตัวว่าแม่จะจัดการให้ทั้งหมดโดยจองโต๊ะจำนวน 200 โต๊ะ (ให้เพื่อนเจ้าบ่าวและญาติ 80 โต๊ะ และให้ทางเจ้าสาว 120 โต๊ะ) และจ่ายเงินไปแล้วครึ่งหนึ่ง และให้เบอร์แม่กับทางพี่ organize ไว้ แต่เบอร์เป็นเบอร์ไม่ได้เปิดใช้บริการ ทางพี่ organize จึงลองติดต่อกับร้านที่มีชื่อใกล้เคียงกับร้านที่เอบอกมาทั้งหมดก็ไม่มีร้านไหนรู้เรื่องเลย (เช็คตอนวันแต่ง) ส่วนตอนเช้า ทางบ้านเจ้าสาวแก้ปัญหาด้วยวิธีการซื้อของเข้ามาทำกันเองและใช้วิธียืมโต๊ะและเก้าอี้มาจาก อบต.

-ชุดสำหรับบ่าวสาว ไปลองที่ร้านและจองไว้ ทางร้านแจ้งว่าแคนเซิลเพราะว่าไม่ได้จ่ายเงิน พี่ organize เลยเอาชุดในสตูมาให้

หลังจบงานเช้า งานเย็นไม่มีแล้วเวที ไฟประดับตกแต่งที่ พี่ organizer  ดิวไว้ ขนกลับหมดแล้ว... เราก็...กลับจ้ะ 

ญาติฝ่าย ก. พยายามให้ทางเอติดต่อให้ผู้ปกครองมารับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น ถึงจะให้กลับ แต่สรุปก็ปล่อยให้กลับแต่กะให้เดินกลับเองไม่ให้เงินติดตัว แต่ท้ายที่สุดเพื่อนเจ้าสาวคนนึงพาไปส่งที่ตลาด (บ้านอยู่ลึกมาก เหมือนว่าจะไม่มีรถประจำทางผ่านนะ)  

หลังจากนั้นพวกเราได้ข่าวจากน้อง จ. น้องที่สนิทและอยู่กับ ก. มากที่สุดในช่วงเวลาที่คบกะ เอ ให้ข้อมูลว่าเอไปโผล่ที่บ้านเช่า แถวม.

เมื่อวานที่วุ่นๆกันคือ ก. ขอให้พี่ (คนที่กระจกหน้ารถแตก ถ้าได้ตามอ่านมา) ที่อยู่แถวม.ช่วยล็อครถมอไซต์ของ ก. ให้หน่อย พี่เค้าไปหาแล้วไม่เจอ ทราบอีกทีรถไปอยู่กับ เอ สรุปเมื่อวาน ก. กลับ ม. ไปขนของกลับและติดต่อเอารถคืนได้เป็นที่เรียบร้อย

5. สถานะตอนนี้ ก. ไม่ได้แต่งงานนะคะ ถือว่างานยังไม่สมบูรณ์ ยังไม่ได้ส่งตัว 

(ขอบคุณมากที่ เอ ไม่ได้เตรียมทางผู้ใหญ่ ทำให้เพื่อนเราไม่ต้องใช้ชีวิตอยู่กะ...คนไร้อนาคต และหลอกลวง เจ็บแต่จบไม่ต้องทนทรมานตัวเองไปเรื่อยๆ)
สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว มีครอบครัวและคนรอบตัวที่เข้าใจปลอบใจ โอเคแระ ยิงมุกได้แระ ... ห้าๆๆ

เรื่องเรียนตามที่พี่ที่กระจกแตก(ฝังใจ แตกได้ไง) ก. วางแผนจะโอนหน่วยกิจเรียนต่อ ณ มหาลัยใกล้ๆบ้าน

6. หัวข้อนี้อาจจะทำให้กระทู้ไม่น่าเชื่อถือ ไม่เชื่อไสยศาสตร์ "ข้ามโลด"...แต่เอาเถอะ ไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ก็นะแชร์ไว้ 

ณ พิธีประสาทพรมั้ง ที่ไหว้ผีบรรพบุรุษ ตอนนั้นบรรยากาศรอบตัวมาคุมากด้วยความตึงเครียดของตัวงานเอง คือตรงจุดที่ทำพิธี เรารู้สึกหายใจไม่ค่อยสะดวก มือสั่นเวลาจับมือถือแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน (ไปๆมาๆเพื่อนข้างๆเราเป็นด้วย อุปทานหมู่หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ)

แต่เพื่อนอีกคนซึ่งเขาเป็นคนที่ค่อนข้างมีเซนส์ บอกเหมือนกันว่า รู้สึกหายใจไม่ค่อยออก (พูดมาก่อนที่เราจะพูดไม่ได้อุปทานตามเรา) แล้วก็เลยหันไปรอบๆตัว แล้วก็สะดุดกึก ตรงบันได เห็นหรือใช้คำว่าสัมผัสได้ว่ามีร่างสองร่างยืนอยู่ตรงที่บันได้ จ้องมอง เอ ด้วยความไม่พอใจ แล้วก็มีช่วงนึงได้
ยินเสียงก้องเลยว่า "กูไม่เอา" 

 สอบถาม ก. ในภายหลัง ก. ว่า

 "เราสนิทกัน เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านไปถูบ้าน แล้วก็พรมน้ำหอมน้ำอบให้บ่อยๆ"  ใครที่เชื่อแล้วอ่านหัวข้อนี้ก็ ทำบุญให้ผีบ้านผีเรือนบ้างนะ ^^ สำหรับใครไม่เชื่อก็....ถือซะว่าไม่ได้อ่าน

7. เรื่องประเด็นว่าทำไมถึงคบกัน ว่าไงดีล่ะ เพื่อนเราอยู่ในภาวะ 'อกหัก' หมอนี่ก็แอดเฟสเข้ามาคุยด้วย คุยไปคุยมาก็เลยคบกัน

ไปๆมาๆหาข้ออ้างหนีมาอยู่กับเพื่อนเรา ในระหว่างที่อยู่ โหมดดูแล คือเป็นคนรักที่ดูแลดีนะ พาไปนู่นมานี่ ตัดเล็บให้ กดสิวให้ เรียกว่าเอาใจเก่ง ปากหวาน แต่เรื่องที่มีคนมาเปิดประเด็นเกี่ยวกับว่าเพราะว่า บ้านรวย อันนี้ส่วนตัวมองว่าผู้หญิงทุกคนก็อยากมีแฟนที่ดี รักและดูแลเรา และมีอนาคต อนาคตเพื่อให้พึ่งพาได้ เราว่าไม่มีใครหรอกที่เฮ้ย โฟกัสตั้งเป้าเราอยากมีแฟนบ้านไม่มีตัง เป็นคนไม่มีอนาคต ไม่เอาการเอางาน เดี๋ยวเราเป็นช้างเท้าหน้าเลี้ยงให้เอง หรอกจริงมั้ย เชื่อว่าผู้หญิงทุกคนฝันว่าอยากมีชีวิตดีๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอมมือไม่ทำงานนะ แต่มีแฟนที่พากันไปในจุดที่ดีๆ 

ถามว่าเพื่อนเรารู้มั้ยว่า เอ โกหก ล่าสุดที่ถามมา ก. รู้นะ แล้วก็ตั้งคำถามในสิ่งที่พวกเราสงสัยมาตลอด แต่ก็นะ ส่วนเรื่องโกหก เอ ขอโอกาสในการแก้ตัว ซึ่งเพื่อนเราให้ แล้วดันมีพัฒนาการไง ก็เลย ไถต่อมาได้เรื่อยๆ บางทีก็เลยต้องโกหกตามเพื่อปกป้อง แต่ส่วนใหญ่ก็ปัดให้ถาม เอ 

8. ทำไมทางบ้านถึงยอมให้แต่งงานทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ และยังไม่เจอหน้าญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย 

เรื่องที่ให้แต่งงานเร็วอันนี้ได้ข้อมูลมาว่าทางบ้านค่อนข้างถือเรื่องผู้ชายผู้หญิงอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง (อย่างที่รู้ๆกันว่าเด็กมหาลัยสมัยนี้ไม่ว่าม.รัฐหรือเอกชน ไม่น้อยเลยที่คบกันอยู่ด้วยกันแล้ว ซึ่งก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย แต่ไม่เกี่ยวกะกระทู้ไม่ดีเบตละกันนะ) ก็เลยยื่นว่าให้แต่งงานให้ถูกต้องตามธรรมเนียมไปเลยถ้าจะไปกันต่อ ซึ่งผลสรุปคือแต่ง ก็ไปหาฤกษ์หาอะไรเสร็จสรรพ เอ ก็ออกตัวว่าจะ"ออกค่าจัดงานแต่งให้ทั้งหมด" และก็โชว์พาวต่อไปว่าจะทำนู่นทำนี่ นัดผู้ใหญ่ฝ่ายตัวเองพอถึงเวลาก็ปล่อยให้รอเก้อ หลังจากนั้นก็แถไปเรื่อย มีปัญหาโน่นนี่บลาๆ แต่ทุกอย่างก็ล่วงเลยจนใกล้วันงานก็เลยต้องจัดดไปทั้งอย่างนั้น บอกข่าวกับคนอื่นๆไปแล้วอ่านะ 

9. เรื่อง 3-4 เดือนคือหลังจากที่คบกันแล้วตกลงว่าจะแต่งงานกันจ้ะ ปลายปีที่แล้ว แต่ฤกษ์แต่งคือเดือนนี้ 22 ก.พ.ค่ะ

ทั้งนี้ คุณ  มีวาเฮยอง  ยังได้ ทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า สามารถตรวจสอบรายชื่อของ นักศึกษษแพทย์ และ บัณฑิต จาก จุฬาฯ ได้จาก

http://www.tmc.or.th/service_check.php  และ

https://www.reg.chula.ac.th/cu/general/PersonalInformation/InquiryGraduatedStudent/index.html 


ที่มาจาก :: pantip.com

กระทู้เด็ดพันทิป! เตือนภัย  หมอมโน อ้างตัวเป็น นศ.แพทย์ !

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์