5 สถานที่เที่ยว ที่ติดอันดับโลก

9 สถานที่ท่องเที่ยว ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ จนติดอันดับ 1 ของโลก

ที่ไหนบ้าง ได้ดูกันเลย!!!

หากแวะเวียนผ่านไปแถวถนนราชดำเนิน เชื่อว่าภาพอันสวยงามของโลหะปราสาทแห่งเดียวในประเทศไทย ที่อยู่ที่ วัดราชนัดดารามวรวิหาร คงเป็นภาพงามที่ดึงดูดสายตาของผู้คนให้หันมามองได้เป็นอย่างดี แต่ทราบหรือไม่ว่า ปัจจุบัน “วัดราชนัดดารามวรวิหาร”แห่งนี้ เป็นวัดโลหะปราสาทแห่งเดียวในโลกที่คงความสมบูรณ์ และยังเหลืออยู่ในโลกนี้เพราะแต่เดิม โลหะปราสาทในโลกนี้ มีอยู่ด้วยกัน 3 แห่งคือ  มิคารมาตุปราสาท โลหะปราสาทแห่งแรก ประเทศอินเดีย ,  โลหะปราสาทแห่งที่สอง ณ กรุงอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา และ โลหะปราสาท ที่วัดราชนัดดารามวรวิหาร ของไทยเรา แต่วัด 2 แห่งก่อนหน้า ปัจจุบันได้เสื่อมสลายลงไป เหลือเพียงซากปรักหักพัง ทำให้ “วัดราชนัดดารามวรวิหาร” เป็นวัดโลหะปราสาท เพียงแห่งเดียวในโลกที่ยังเหลืออยู่ และคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด  รู้อย่างนี้แล้ว จะรอช้าอยู่ใย ไปสัมผัสความงามแห่งเดียวในโลกแห่งนี้ ด้วยกันดีกว่าค่ะ

2. วัดปากลำขาแข้ง  กาญจนบุรี

โบสถ์สแตนเลส แห่งเดียวในโลก

ที่เที่ยวสุดยอดในไทย ที่เป็นที่สุดในโลกลำดับถัดไป ไปกันที่ “วัดปากลำขาแข้ง จ.กาญจนบุรี” วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในที่เที่ยว Unseen Thailand  ที่ PaiNaiDii ขอยกนิ้วให้ เพราะด้วยแรงศรัทธาของผู้คนที่ช่วยกันบริจาคเงินเข้ามาเพื่อสร้างโบสถ์ในการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสทรงเจริญพระชนพรรษาครบ 80 พรรษา ได้ก่อเกิดเป็น “โบสถ์สแตนเลศขนาดใหญ่” ที่ว่ากันว่า เป็นโบสถ์สแตนเลสแห่งเดียวในโลก ตั้งขึ้น บนเกาะกลางน้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ โบสถ์แห่งนี้มีการกรุด้วยฉนวนกันความร้อนตรงกลางระหว่างแผ่นสแตนเลสภายนอกและภายใน  บริเวณพื้นปูด้วยหินแกรนิต ทำให้เมื่อเข้ามาในโบสถ์ มีความเย็นสบาย ไม่ร้อน บริเวณผนังโบสถ์มีการปั้มลวดลายทำให้มีความสวยงามมาก นอกจากนี้ด้านนอกของโบสถ์ยังมีพระพุทธรูปปางประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในโลก! หันหน้าออกสู่แม่น้ำให้ผู้คนที่เดินทางผ่านไปมาสามารถกราบไหว้บูชาได้อีกด้วย เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทย ที่บอกแล้วไง“ถ้าตั้งใจ” ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ PaiNaiDii ยกนิ้วให้จริงๆ

3. วัดอ่างสุวรรณ  ประจวบคีรีขันธ์

โบสถ์ไม้ตาลแห่งเดียวในโลก 

ที่เที่ยวหนึ่งเดียวในไทย ที่สุดในโลก ที่ต่อไป ไปกันที่ “วัดอ่างสุวรรณ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์” ที่นี่เค้ามีโบสถ์ขนาดใหญ่ทำด้วยไม้ตาล ถือเป็นโบสถ์ไม้ตาลแห่งเดียวในโลก โดยโบสถ์แห่งนี้ไม่ได้มีดีแค่ความแปลก แต่กลับมีความสวยงามจนน่าทึ่ง ว่ากันว่าในการก่อสร้างโบสถ์แห่งนี้นั้น “ท่านเจ้าอาวาส” ได้ออกหาต้นตาลจากชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ โดยไม้ตาลที่นำมาสร้างจะต้องเป็นตาลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 70-100 ปี เพื่อความแข็งแรงทนทาน ตัวอุโบสถมีความกว้าง 8 เมตร ยาว 29 เมตร สูง 16 เมตร มีเพียงคานล่าง และไม้เครื่องบนเท่านั้น ที่ใช้ไม้ตะเคียน เพราะต้องรับน้ำหนักมากๆ  บริเวณรอบๆ โบสถ์รวมถึงด้านหน้า ใช้ไม้ตาลแกะสลักลวดลายตกแต่งสวยงาม บริเวณพื้นไม้ในอุโบสถเลือกไม้ตาลที่มีลายเส้นสวยงามในตัว  ภายในมีพระพุทธรูปหลวงปู่ไทร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา ซึ่งแกะสลักจากไม้ไทร มีอายุกว่า 200 ปี  เมื่อสร้างเสร็จโบสถ์แห่งนี้มีความสวยงามมาก จนกลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ใครผ่านไปแถวประจวบคีรีขันธ์ ต้องแวะเข้าไปสักการะบูชาและเยี่ยมชม

4. เมืองโบราณ สมุทรปราการ

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

“เมืองโบราณ สมุทรปราการ” สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อายุ 100 ปี อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิดหน้าชูตาของชาวสมุทรปราการแห่งนี้  จัดได้ว่าเป็น “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก”  บนพื้นที่กว่า 800 ไร่  ที่มีลักษณะที่ดินคล้ายรูปขวานได้เนรมิตให้กลายเป็นประเทศไทยขนาดย่อม แบ่งพื้นที่ออกเป็นภูมิภาคต่างๆของไทย มีการจำลองสถานที่สำคัญๆ มาจัดวางลงในพื้นที่ ทั้งโบราณสถาน ปูชนียสถาน วัดโบราณ พระราชวัง ต่างๆ โดยทุกชิ้นงานจำลองมาในสัดส่วนย่อส่วนคล้ายของจริงที่สุด นอกจากนี้ บริเวณที่เหลือ ยังได้สร้างสถานที่จำลองต่างๆที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาของไทยอีกด้วย มาที่นี่ที่เดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย ได้ศึกษาภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมความเป็นอยู่ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ ณ วันนี้ ไม่มีชาติไหนทำได้ยิ่งใหญ่เท่า ขอปรบมือดังๆให้กับ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ก่อตั้ง แม้วันนี้ท่านจะล่วงลับจากไป แต่สถานที่ท่องเที่ยวดีดีแห่งนี้ จะทำให้ชื่อของท่านจารจดในหัวใจคนไทยตลอดกาล

5. พระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์  ชลบุรี

พระพุทธรูปแกะหน้าผาใหญ่ที่สุดในโลก 

สถานที่เที่ยวหนึ่งเดียวในไทย ที่สุดในโลกลำดับถัดไป ไปกันที่ “เขาชีจรรย์” จังหวัด ชลบุรี ที่นี่เป็นที่ประดิษฐานของ" พระพุทธมหาวชิร อุตตโมภาสศาสดา " พระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปแกะสลักในลักษณะพระพุทธฉายด้วยเลเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสทรงครองสิริราชสมบัติปีที่ 50 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน ตัวองค์พระมีลักษณะเป็น พระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตรหน้าตักกว้าง 70 เมตร ฐานบัวหรือบัวบัลลังค์ สูง 21 เมตร รวมความสูงขององค์พระและบัลลังค์ทั้งสิ้น 130 เมตร สามารถมองเห็นเด่นชัดแต่ไกล พร้อมกันนี้บริเวณโดยรอบองค์พระ หรือ เขาชีจรรย์ได้มีการจัดภูมิทัศน์ที่สวยงาม เพื่อเป็นอีกหนึ่งแหล่งพักผ่อนของชาวชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง  เปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 น.- 18.00 น. ว่าแต่อยู่ใกล้แค่ชลบุรีแค่นี้ คุณเคยไปสักการะ หรือ เช็คอิน “ที่นี่” แล้วหรือยัง

ขอบคุณข้อมูลจาก :: painaidii