การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..



คนเราใฝ่ฝันว่าจะสร้างเครื่องย้อนเวลา (Time Machine) ให้ได้ และการเดินทางย้อนเวลามันคงเป็นเรื่องที่น่าทึงมาก ... ปัญหาคือ โลกนี้จะมีการสร้างเครื่องย้อนเวลาได้จริงไหม ? นักปรัชญาหลายคนเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ และตั้งสุมมุติฐานย้อนแย้ง (Paradox) อยู่หลายข้อ เช่น หากการเดินทางข้ามเวลามีจริง ทำไมเราไม่เห็นมีคนเคยย้อนเวลากลับมาเลย ? หรือหากคนสร้างเครื่องย้อนเวลาได้จริง ดังนั้นทำไมเค้าไม่ย้อนเวลามา แล้วสร้างมันก่อนหน้าที่จะมีเครื่องย้อนเวลา แล้วสรุปมันต้องย้อนไปถึงเมื่อไหร่กัน ..? หรือถ้าย้อนเวลาแล้วเปลี่ยนแปลงได้ไหม ถ้าได้แล้วอนาคตที่เกิดแล้วหละ มันก็เปลี่ยนไป ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว แปลว่าอนาคตยังไม่มี ถ้าอนาคตยังไม่มีจะย้อนเวลามาได้อย่างไรกัน ... และ paradox ที่น่าปวดหัวสุดคือ ถ้าคุณย้อนเวลามาแล้วเกิดไปตกหลุมรักกับย่าทวดของคุณ แต่งงานกัน มีลูกหลานไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเกิดคุณในอนาคตก่อนย้อนเวลา .. ถามว่าคุณจะเป็นปู่ทวดของตัวเองใช่ไหม ? แปลว่าทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นผิดสิ ... และอีกมากมาย ...ฟังแล้วปวดหัว ... 

เมื่อไม่นานมานี้ ทางพิพิธภัณฑ์ของแคนาดา ได้จัดงานแสดงภาพออนไลน์ แล้วมีคนตาดีไปเห็นภาพนึงที่ชื่อว่า "reopening of the South Fork Bridge in the early 1940s in Gold Bridge" ในภาพเค้าสังเกตุเห็นคนคนหนึ่ง แต่งตัวประหลาดกว่าคนอื่น ใส่แว่นตาดำทรงทันสมัย เสื้อ T-Shirt แถมถือกล้องถ่ายรูปที่ยังไม่มีในสมัยนั้น ... คิดว่าใช่ไหม ?


ในช่วงปี 2000 - 2001 มีบุคคลหนึ่งตั้งนามแฝงของตัวเองว่า .. "John Titor" ได้โพสต์ลงใน Webboard ซึ่งบอกว่าเค้าเป็นนักท่องเวลา ที่ต่อมาชื่อเสียงของเค้าดังมาก เค้าบอกว่าในปี 2036 นั้นบริษัท GE ได้สร้างเครื่องข้ามเวลาสำเร็จแล้ว และเค้าย้อนกลับมาเพื่อแก้ไขบางอย่าง แต่แวะมาดูหน้าครอบครัวก่อนในปี 2000 เลยอยากเล่าให้ใครสักคนฟัง เพราะปี 2015 นั้นจะเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 มีคนล้มตายไปมากกว่า 1/3 ของโลก 

แน่นอนไม่มีใครเชื่อและคิดว่าเป็นเรื่องตลก ... John Titor จึงได้โพสต์คู่มือเครื่องข้ามเวลาของเค้าให้ทุกคนดูและตอบทุกคำถามก่อนจะหายไปในปี 2001 หลาย ๆ เรื่องที่เค้าพูดถึง เป็นฟิสิกส์ชั้นสูง และเป็นเหตุการณ์ล่วงหน้าเช่นเรื่องโรควัวบ้าระบาด ..

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

รถยนต์ทรงแบบเดียวกับของ John Titor ที่อ้างว่าติดตั้งเครื่องมือในการข้ามเวลา

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..


การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ภาพถ่ายภายในรถ ..พร้อมอุปกรณ์ข้ามเวลา



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

นักโบราณคดีที่เปิดสุสานฟาโรห์ เคยอึ้งมาแล้ว เมื่อขุดพบภาพจารึก ของหลอดไฟแห่งรา ในปิรามิดของอิยิปต์ .... ก่อนเกิดไฟฟ้าตั้งนาน ทำไมจึงมีขดลวด ทำไมถึงมีหลอดไฟ หากไม่มีนักท่องเวลา ... ไม่แน่ว่า นักท่องเวลานั้นเองเป็นคนช่วยสร้างปิรามิด



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ในหนังของ ชาลี แชปปลิ้น ที่ไปถ่ายบนถนนเปิด พบว่ามีคนเห็นคนใช้โทรศัพท์มือถือ .... ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นไม่มีแน่นอน ... หรือจะเป็นการจับภาพได้โดยบังเอิญ ... นี่อาจจะเป็นอีกหลักฐานนึงของ นักท่องการเวลาว่ามีจริง ?




คราวแผ่นดินไหวใหญ่ของจีนนั้น นักธรณีวิทยาของจีนจึงจำเป็นต้องเปิดหลุมฝังศพสมัยราชวงศ์ชิง 
ซึ่งประมาณคร่าวๆ อายุไม่ต่ำกว่า 400 ปี



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

แต่ที่น่าตกใจคือ เค้าพบ นาฬิกาขนาดจิ๋ว ด้านหลังสลักว่า Swiss และเวลาหยุดที่ 10:06 แน่นอน 400 ปีก่อน ไม่น่าจะมีนาฬิกา Swiss มาหลงอยู่ในหีบพระศพกษัตริย์ราชวงค์ชิง อย่าว่าแต่นาฬิกายังไม่มีเลย ประเทศ Swiss เวลานั้น น่าจะยังไม่มีหรือเปล่านะ ?



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

พฤศจิกายน 2009 เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ของ CERN มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนอาจก่อให้เกิดอันตราย ทำให้นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องหยุดการเดินเครื่องชั่วคราว

เหตุการณ์ ในครั้งนั้นนักวิทยาศาสตร์พบว่า ต้นเหตุคือเศษขนมปังชิ้นเล็กๆหลุดเข้าไปในเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ ซึงคิดว่านกคงคาบมาทำหล่นไว้ ...

ต่อมาปี 2012 CERN ได้เดินเครื่องอีกครั้ง ทำเสร็จเค้าสามารถค้นพบ Higgs Boson “อนุภาคพระเจ้า” จุดกำเนิดจักรวาล !! 

แต่ที่น่าประหลาดคือ หน่วยรักษาความปลอดภัยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปสามารถจับ กุมตัวอีลอย โคล (Eloi Cole) ผู้ที่เล็ดลอดเข้าไปใน CERN และพยายามทำลาย เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่

อี ลอย ให้การว่าเขาลอบเข้ามาในห้องทดลองเพื่อหาแหล่งพลังงานให้กับเครื่องเดินทาง ข้ามเวลาของเขา และเตือนว่าการทดลองจะเป็นการนำไปสู่หายนะของโลกในที่สุด

อี ลอย ยังบอกอีกด้วยว่าเขาเองเป็นคนที่ก่อวินาศกรรมเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2009 ทำให้เครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่มีอุณหภูมิสูงขึ้นจนอาจก่อให้เกิดอันตราย ทำให้นักวิทยาศาสตร์จำเป็นต้องหยุดการเดินเครื่องชั่วคราว

ต่อมา อีลอย โคล (Eloi Cole) หายตัวไประหว่างถูกจับกุมอย่างไร้ร่องรอย



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ถ้าเป็นสมัยนี้ภาพนี้จะไม่แปลกอะไร แต่สมัยมาริลิน มอนโร การถ่ายภาพคนดัง โดยมองจอ LCD หรือมือถือแบบนี้มันเป็นไปไม่ได้



การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ปัญหาสำคัญคือ Paradox ข้างต้น John Titor มีคำตอบ ..

หากการเดินทางข้ามเวลามีจริง ทำไมเราไม่เห็นมีคนเคยย้อนเวลากลับมาเลย ?
ตอบ เห็นสิ แต่แค่คุณไม่รู้ต่างหาก และหลักฐานด้านบนคือข้อพิสูจน์

หรือถ้าย้อนเวลาแล้วเปลี่ยนแปลงได้ไหม ถ้าได้แล้วอนาคตที่เกิดแล้วหละ มันก็เปลี่ยนไป ถ้าเปลี่ยนไปแล้ว แปลว่าอนาคตยังไม่มี ถ้าอนาคตยังไม่มีจะย้อนเวลามาได้อย่างไรกัน ... และ paradox ที่น่าปวดหัวสุดคือ ถ้าคุณย้อนเวลามาแล้วเกิดไปตกหลุมรักกับย่าทวดของคุณ แต่งงานกัน มีลูกหลานไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายเกิดคุณในอนาคตก่อนย้อนเวลา .. ถามว่าคุณจะเป็นปู่ทวดของตัวเองใช่ไหม ? แปลว่าทฤษฎีวิวัฒนาการนั้นผิดสิ

ตอบ เพราะมันยากเกิดคุณจะเข้าใจในตอนนี้มันคือพิสิกส์ชั้นสูงมาก เวลาคือ 1 แกนของมิติ ดังนั้น ในโลกนี้มีอีกหลายมิติจนถึงอนันต์ เอาว่า อนาคตนั้น ทั้งมีหรือไม่มี ..
ที่มีคืออนาคตที่เค้าอยู่ แต่หากเค้ามีการเปลี่ยนแปลงอดีต อนาคตก็จะเปลี่ยนเป็นสองเส้น แตกเส้นการเวลาไปเรื่อย ๆ ... นั่นเอง

แปลว่าอนาคตมีได้หลายแบบ ...

ซึ่ง Stephen Hawking นักฟิสิกส์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของยุคนี้ เมื่อก่อนไม่ยอมรับเรื่องการย้อนเวลา แต่ภายหลังกลับยอมรับ แล้วก็เชื่อเรื่องแกนมิติเวลามีการแตกไปได้เรื่อย 


สรุป เครื่องข้ามการเวลามีจริง ...
และการข้ามเวลามีจริง ...

ดีจัง ...




ซะที่ไหนละ ...

เรื่องนี้ สรุปจบที่ว่า .... คนเราล้วนมี Bias และมีแนวโน้มเอียงจะเชื่อในสิ่งที่คนเราอยากจะเชื่อ เราเอาแว่นตา คือ ความรุ้สึกนึกคิด ทัศนคติ ความชอบ ของเรามาใส่ครอบ ดังนั้นอะไรที่ตรงกับที่เราอยากจะเชื่อเราจะเชื่อโดยทันทีนั่นเอง

บางที ถ้าเราเปิดใจให้กว่าง และวางไอ้สิ่งที่เราอยากจะเชื่อลง เราถึงจะพบความจริงที่ซ่อนอยู่ในอดีต และปัจจุบันที่เรากำลังมองอยู่นั่นเอง ...

และนี่คือ เฉลยของหลักฐานต่าง ๆ ที่มานำแสดง ...

ภาพแรกชายที่ย้อนกาลเวลา เพราะเค้าดันแต่งตัวคล้ายพระเอกในหนัง Terminator ทำให้เราคิดปรุงแต่งไปเยอะ จริง ๆ แล้ว เนื่องจากเป็นรูปขาวดำ และรายละเอียดไม่ชัดเจน ทำให้เราคิดเพี้ยนไปได้ จริง ๆ แว่นเค้าเป็นสายหนัง และแน่นอนมันมีใช้ดังแต่สมัยนั้นแล้วเป็นแว่นตากันลม ส่วนกล้องก็ไม่ใช่ compact camera อย่างที่เราคิดแต่เป็นทรงกล่องรูเข็มสมัยโบราณนั่นเอง ส่วนเสื้อผ้าการแต่งกายก็เป็นยุคนั้น แต่เรื่องจากรอยยับของผ้า และที่สำคัญหาตัวคุณปู่คนนี้เจอแล้วด้วย คุณปู่บอกว่า ก็ผมเท่ห์น่าดูนะตอนนั้น 555+

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ไขปริศนา หลอดไฟฟ้าของฟาโรห์
เพราะเราเคยมีหลอดไฟแบบนี้ มีขดลวดแบบนี้ ใจและสมองเราเลยโดนหลอก 
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ก็โดนหลอก เค้าถึงบอกว่าเราอย่าแว่นตาของปัจจุบันไปตัดสินอดีต

มันคือภาพวาดตามความเชื่อโบราณธรรมดานั่นเอง .....
อ่านต่อที่ link นี้ครับ เรื่อง หลอดไฟฟ้าของฟาโรห์

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

อันนี้ก็อยากจะเชื่อจริง ๆ นะ ว่าเป็น Mobile Phone แต่ลองเอาอคติออก 
คิดก่อนว่าถ้าเราย้อนเวลาได้จริง ...หยิบไอโฟนกลับไปได้ในอดีต

ควักออกมา ... กลายเป็น ? สากกะเบือฮะ ...
เพราะว่าไม่มี Operator ที่ให้บริการ แล้วเราจะคุยกับใครหละ ToT จริงไหม ?

จริง ๆ แล้ว มันคือเครื่องช่วยฟัง ที่ในอดีตมีขนาดใหญ่เทอะทะนั่นเอง ...

If there’s one mildly “serious” lesson to be gathered from all of this silliness, it’s that technology changes so rapidly that gadgets can become unrecognizable after just a few generations.

การเดินทางข้ามเวลา ... หรือว่านี่คือหลักฐานนั้น ..

ตัวอย่างง่าย ๆ ที่ตลกดี คือ ลองเอา walk man สมัยเราหนุ่ม ๆ ไปให้เด็ก ๆ ดู 
เด็ก ๆ ไม่มีทางนึกออกแน่ ๆ มันคืออะไรใช้ยังไง จะบ้าเหรอ ต้องใส่เทป ไหนละจอ 

หนักขนาดนี้เนี่ยนะ เอาไปวิ่ง ... 555+




สำหรับ John เป็นชื่อสามัญทั่วไป เหมือนสมชายอะไรแบบนั้น
ส่วน Titor ย่อมาจาก time traveler

รวม ๆ ก็แปลว่า บุรุษนิรนามผู้เดินทางข้ามเวลา
เป็น login name ที่มาโพสต์เรื่องพวกนี้อยู่ช่วงนึงแล้วก็หายไปแล้ว


ส่วนจริงไหม .... เวลาจะเป็นข้อพิสูจน์


ที่มา :: pantip.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์