ฝากอัฐิไว้คืนน้องห้อง 707 ด้วย!! เมื่ออดีตเพื่อนข้างห้องหนีค่าเช่าหายไป เจ้าของเลยนำอัฐิมาไว้ที่ฉัน

กลายเป็นเรื่องราวที่ชวนหนักใจเป็นอย่างมาก เมื่อหญิงสาวสองพี่น้องได้ชักชวน (อดีต)เพื่อน ให้เข้ามาพักอาศัยอยู่ในคอนโดเดียวกัน แต่แล้วเพื่อนตัวดีก็หนีค่าเช่าห้องหายไปหลายเดือน ทิ้งไว้เพียงข้าวของและ 'อัฐิของแม่ที่เสียชีวิต' จนเจ้าของห้องจำใจขนของทุกอย่างไปทิ้ง แต่ก็ยังใจดีนำอัฐินี้มาไว้หน้าห้องสองสาว เพื่อฝากคืนเพื่อนเจ้าปัญหา!!
 
เราจะไม่เกิดความกังวลจนต้องมาตั้งกระทู้เลยค่ะ ถ้าไม่มีคนเอา 'อัฐิ' ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆกับเรา มาวางไว้หน้าห้อง ! ขอเท้าความก่อนนะคะ กับคนคนนี้ที่เคยเป็นอดีตเพื่อนของพี่เราค่ะ ขอเรียกว่า ม นะคะ (เป็นผู้หญิง)

พี่เราและ ม รู้จักกันเมื่อประมาณเดือนมีนาปีที่แล้ว ตอนแรกพี่กับ ม พักอยู่คนละที่ค่ะ แล้ว ม ก็มักจะมาเล่าปัญหาเกี่ยวกับน้องสาวของเขาที่พักอยู่ด้วยกัน ว่าชอบสร้างปัญหาหลายๆอย่างให้เขา (น้องคนนั้นไม่ใช่น้องแท้ๆของ ม นะคะ เป็นเด็กข้างบ้านที่ต่างจังหวัด แล้วตาม ม มาหางานในกรุงเทพ) ม ก็เลยเดือดร้อน อยากจะย้ายออก พี่เราเลยแนะนำให้ ม ย้ายมาอยู่ที่คอนโดเดียวกัน โดยติดต่อกับพี่ที่รู้จัก ซึ่งเขาปล่อยห้องให้เช่าค่ะ 

พี่คนนั้นเห็นว่าพี่เราแนะนำ ม ในฐานะเพื่อน ก็เลยไว้ใจให้เช่าห้อง จากนั้น ม ก็เลยย้ายเข้ามาค่ะ (ห้อง ม อยู่ชั้น 6, ห้องพี่เราอยู่ชั้น 5) เหตุการณ์ก็ปกติเรื่อยมาค่ะ พี่เรากับ ม มักจะไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เรียกได้ว่าสนิทกันพอสมควรค่ะ มีอะไรก็จะเล่าสู่กันฟัง แต่ ม จะมีนิสัยอย่างนึงค่ะ คือชอบขโมยของ 

ไม่รู้เรียกแบบนี้จะแรงไปรึเปล่านะคะ แต่เขามักจะชอบหยิบเครื่องสำอางค์ คอนแทคเลนส์สี ไปใช้แบบไม่บอก (แรกๆบอก พออนุญาต หลังๆนางก็ไม่บอกแล้วค่ะ เอาไปเฉยเลย) พอพี่เราถาม ม ก็บอกไม่ได้เอาไป แต่บางครั้งเวลาที่พี่เราไปนั่งเล่นบนห้อง ม บ้าง ก็จะเจอพวกของๆพี่เรา วางอยู่เต็มโต๊ะเครื่องแป้งเลยค่ะ 

ตอนแรกๆ พี่เราก็อดทนกับพฤติกรรมนี้มาหลายต่อหลายครั้งแล้วค่ะ เห็นว่าเป็นเพื่อนกัน พูดไปคงจะทะเลาะแน่ๆ จนสุดท้ายทนไม่ไหว เลยเตือนไปแบบดีๆ ผลคือนางไม่ยอมรับผิดค่ะ มีการมาว่าว่า "เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเอามาเป็นเรื่อง" จนทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเริ่มห่างเหินกันค่ะ แต่พี่เราก็เป็นฝ่ายง้อนะคะ ยังไงก็เพื่อนกันค่ะ ก็พยายามจะทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม ม ก็ยอมคืนดีค่ะ 

แต่จากวันนั้นคือ อะไรๆก็เปลี่ยนไป เรียกได้ว่าเริ่มไม่สนิทใจกันแล้ว ไม่ไปไหนมาไหนด้วยกันเหมือนเดิมอีก (พี่เราเป็นฝ่ายชวนทุกครั้งค่ะ แต่ ม ปฏิเสธหมด) แล้วมาวันนึง ม ก็มาที่ห้องพี่เราค่ะ ร้องไห้เล่าให้ฟังว่า แม่เขาที่เป็นมะเร็งอาการทรุดหนัก พ่อเลยโทรตาม ม ให้กลับมาดูใจแม่ วันนั้น ม เลยขอลางานเพื่อจะกลับบ้านที่ตจว. แต่ปรากฏว่าไปไม่ทันค่ะ แม่เขาเสียแล้ว แล้ว ม ก็อยู่จัดงานศพให้แม่ จัดการเรื่องต่างๆของครอบครัวอยู่เกือบเดือนค่ะ แล้วก็กลับมากรุงเทพพร้อม อัฐิ' ของแม่

พอกลับมาอยู่ห้อง ม ก็ยังไม่ไปทำงานนะคะ เรากับพี่ก็เข้าใจว่าเขาคงยังเศร้าเรื่องแม่ ก็พยายามช่วยกันจะทำให้เขารู้สึกดีขึ้นค่ะ บอกให้เขาลงมานั่งเล่นที่ห้อง มาอยู่ด้วยกัน อยู่กับเพื่อนจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน เขาก็ปฏิเสธ บอกว่าไม่อยากทำอะไร ฝันเห็นแต่แม่ ห่วงพ่อห่วงน้องที่ตจว ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ไม่มีแรง ไม่มีจุดหมาย ประมาณนี้อะค่ะ คือตกอยู่ในความซึมเศร้า เรากับพี่ก็ช่วยอะไรไม่ได้เลยนอกจากให้กำลังใจ จนผ่านไป 2 อาทิตย์ เขาก็กลับไปทำงานค่ะ (เพราะไม่มีตังค์ใช้แล้ว หลังจากมายื้มพี่เรา ทั้งค่าเช่าห้อง ค่ากินอยู่ จนพี่เราไม่มีให้ยื้ม)

แต่ไม่นาน ม ก็ลาออกจากงานค่ะ ชีวิตหลังจากนั้นก็เหมือนจะเคว้งคว้าง ไม่หางานทำ อยู่แต่ในห้อง ลงมาห้องพี่เราบ้างนานๆที เขย่าแต่ bee talk นัดผู้ชายไปเที่ยว ให้เขาเลี้ยงข้าว บางรายเขาก็ให้เงิน ม ใช้ค่ะ (คือจากสเตตัสในเฟสและโซเชี่ยลอื่นๆ นางเลิกเศร้าเรื่องแม่แล้วนะคะ) พี่เราด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ก็พยายามผลักดันให้ ม กลับไปหางานทำ เพราะห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมไปถึงค่าเช่าห้องที่ ม ติดค้างกับพี่ที่เป็นเจ้าของห้องอยู่ 4 เดือนค่ะ พี่จขห ก็ร้อนใจโทรมาทวงเงินกับพี่เราบ่อยๆ เพราะโทรหา ม แล้วเขาไม่ยอมรับสาย ทักไลน์ไปก็ไม่อ่านบ้าง จนพี่เราต้องไปพูดให้ค่ะ ม ถึงจะตอบไลน์พี่จขห ทีนึง 

แต่สุดท้ายก็ผลัดไปเรื่อย จนเป็นหนี้เขา ราวๆ 8,000 - 9,000 บาท คือเขาทำให้พี่เราเสียเครดิตกับพี่จขห ไปด้วยเลยค่ะ เพราะพลาดเองที่แนะนำให้เขามาอยู่ห้องนั้น ทุกครั้งที่พี่เราถาม ม ว่าหางานหรือยัง ได้งานหรือยัง ม จะบอกว่าหาไว้แล้ว ได้ทำงานนี้ๆ หลังจากนั้นหายหน้าไปสองสามวัน พอพี่เราถามว่า ทำงานเป็นไงบ้าง ม ก็บอกเปลี่ยนงานแล้ว ว่าจะไปทำงานนั้นงานนี้ มาวันนี้ทำงานตรงนั้น มาอีกวันเปลี่ยนงานจะทำโน่นนี่ สรุปคืออะไรทราบมั้ยคะ? 

พอพี่กับเราช่วยกันสืบเสาะไปตามร้านนั้นนี้ที่ ม บอก เขาบอกไม่มีพนักงานชื่อนี้ค่ะ ซึ่งก็คือจริงๆแล้ว ม อยู่แต่ในห้อง มีคนเจออยู่กับผู้ชายบ้างก็มาบอก ไม่ได้ไปทำงานที่ไหนเลยแบบที่บอกกับพี่เรา นอกจากนั้นพี่เรามาจับได้ทีหลัง จากพี่ที่ทำงานที่ ม เคยทำค่ะ ว่าเรื่องต่างๆ ตั้งแต่รู้จักกันแต่แรก ม โกหกหลายอย่างมากค่ะ (ขอไม่ลงลึกว่าเรื่องอะไรบ้างนะคะ เดี๋ยวเนื้อหาในกระทู้จะยาวเกินไป) และเขาก็ยังติดหนี้เจ้านายที่ทำงานอยู่ราว 30,000 บาท! (ที่ลาออกไม่รู้ว่าหนีหนี้ด้วยหรือเปล่า)

พี่เราเสียความรู้สึกมากค่ะ เลยตัดเพื่อนเลย ไม่ทักหาไม่คุยด้วยอีก ม ก็เหมือนจะรู้ตัวค่ะ เพราะหลังๆนางก็หายหน้าไปเลย ไม่ทักไปก็ไม่ทักมาเหมือนกัน จนสุดท้ายไม่รู้อะไรยังไง ม ก็ออกจากคอนโดไปไหนไม่ทราบค่ะ เพราะทักไปไม่ตอบอีกเลย (ทักไปถามเรื่องค่าเช่าห้องที่ค้างไว้ค่ะ) พี่ที่ทำงานที่ ม เคยสนิทก็มาเล่าว่า ม เปลี่ยนรูปดิส bee talk  แต่เขาทักก็ไม่ยอมตอบ แล้วอยู่ๆเขาก็บลอคโซเชี่ยลทุกอย่างของพี่ที่ทำงาน รวมถึงของพี่เราด้วยค่ะ

ทีนี้พี่เจ้าของห้องก็ไลน์มาคุยกับพี่เราว่า ได้ทำการล็อคห้องไว้แล้ว เพราะในเมื่อ ม ไม่มีเงินจ่ายก็ต้องย้ายออก ประเด็นคือ ม หนีหายไปค่ะ ข้าวของยังอยู่ครบในห้อง รวมไปถึง 'อัฐิ' ของแม่ที่ตั้งไว้ ม ไม่ติดต่อใครอีกเลย ไม่แม้แต่จะติดต่อกลับมาเพื่อเก็บ อัฐิ' ของแม่ คือไม่ทราบว่าเขาอาจจะละอายจนไม่กล้ากลับมาหรือเปล่า (ล่าสุดเมื่อประมาณสองเดือนก่อน ผู้ชายที่เคยเป็นแฟนกับ ม แอดเฟสมาหาเราค่ะ ถามว่า ได้คุยกับ ม บ้างมั้ย เราเลยเล่าทุกอย่างให้เขาฟัง เขาก็เล่ากลับมาว่าพึ่งจะคุยกับ ม ไปเมื่อ 3 วันก่อน ม อยู่สระบุรี บอกเขาว่าทำงานร้านเหล้า 

จากรูปใน bee talk ที่เขาเห็นคือ ม ทำงานนั่งดริ้งค์ เขาหึงหวงก็เลยทะเลาะกัน แล้ว ม ก็หายหน้าไปเลย จนเขาต้องทักมาหาเรา เพราะเห็นว่ารู้จักกัน) หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นค่ะ พี่เราก็เลิกสนใจเรื่องของ ม ไปเลย เพราะคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว พี่เจ้าของห้องนั้นก็ไม่ทักหาพี่เราอีกเลยค่ะ เหมือนเสียเครดิตกันไปแล้ว ทางเราก็เลยไม่ทราบเหมือนกันว่า เขาจัดการกับข้าวของในห้องนั้นยังไง โดยเฉพาะ อัฐิ' ของแม่ ม ที่ยังคงอยู่ 

จนกระทั่งเมื่อวานราวๆ 3 ทุ่มค่ะ เรากับพี่กลับมาที่ห้อง แล้วก็พบว่ามีถุงใบหนึ่งวางอยู่หน้าห้องพี่เรา ข้างในเป็นกล่องมีโน้ตแปะไว้ ข้อความประมาณว่า ฝากไว้คืนน้องห้อง 707  ด้วย (ห้อง 707 อยู่ชั้น 6 ห้อง ม นั่นเองแหละค่ะ) เรากับพี่มองหน้ากัน โดยที่ยังไม่ทันเปิดกล่องนั้นดู แต่รับรู้ได้ทันทีค่ะ ว่าสิ่งที่วางไว้คือ อัฐิ' ของแม่ ม
 
ตอนนี้เรากับพี่ก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันค่ะ เพราะขนาดให้พี่คนที่ยังไม่ถูก ม บลอค ทักไลน์ไปหา นางก็ไม่อ่าน ไม่ตอบเลยค่ะ พอโทรไปหา ม นางรับสาย แล้วพอรู้ว่าเป็นใคร นางก็ตัดสายทิ้งเลยค่ะ (อยากด่ามาก) ไม่สามารถรู้ได้จริงๆว่า ม เป็นตายร้ายดี ทำอะไรอยู่ที่ไหน แล้วจะทำยังไงให้เขามารับผิดชอบ อัฐิ' ของแม่ได้ (จริงๆอยากจะเอารูป ม มาโพสเลยค่ะ เผื่อใครจะเคยพบเจอหรือให้ข้อมูลได้บ้าง แต่เกรงว่าจะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลมากเกินไป แล้วกระทู้จะโดนลบ)

เรื่อง อัฐิ' ที่ตอนนี้อยู่หน้าห้อง จะบอกว่ากลัวก็กลัวค่ะ ไม่กล้าเคลื่อนย้ายเลย หรือแตะต้องเลย คือถ้าเขาจะไม่กลับมาเอาจริงๆ แล้วเราจะนำ อัฐิ' ไปไว้ที่วัดได้หรือเปล่าคะ? เราไม่ทราบว่าต้องทำพิธีอันเชิญดวงวิญญาณด้วยหรือเปล่า กลัวทำอะไรไม่ถูกต้องน่ะค่ะ 
 
ขอเป็นกำลังใจให้กับสองสาวพี่น้องแล้วกันนะคะ ที่ต้องเข้ามาเจอะเจอกับเรื่องราวแบบนี้ คิดซะว่าทำบุญทำกรรมร่วมกันมา และชดใช้กันหมดสิ้นแล้วละกันเนอะ  ส่วนหนู ม. ถ้าได้เห็นเรื่องราวนี้ก็ติดต่อกลับไปเถอะนะคะ อย่างน้อยก็ขอรับอัฐิคุณแม่คนเดียวของหนูกลับคืนมา และเรื่องหนี้สินก็ค่อยทยอยผ่อนจ่ายกันดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่องราวติดค้างใดๆ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข


ฝากอัฐิไว้คืนน้องห้อง 707 ด้วย!! เมื่ออดีตเพื่อนข้างห้องหนีค่าเช่าหายไป เจ้าของเลยนำอัฐิมาไว้ที่ฉัน


ฝากอัฐิไว้คืนน้องห้อง 707 ด้วย!! เมื่ออดีตเพื่อนข้างห้องหนีค่าเช่าหายไป เจ้าของเลยนำอัฐิมาไว้ที่ฉัน

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์