ถ้าแฟนเราเจ้าชู้ เราควรจะทำอย่างไรดี
ได้มีการตั้งคำถามจากเว็ปไซต์ dhammadelivery.com จากคุณเบญ เจ้าของกระทู้ ที่ส่งคำถามมาว่า
เรามีลูกด้วยกันสองคนค่ะ แต่เขาเป็นคนหน้าตาดีและเป็นคนเก่งเลยมีสาวๆมากมายเข้ามาวุ่นวายทั้งๆที่รู้ว่ามีภรรยาและลูกแล้ว เขาบอกว่าเราเป็นตัวจริงส่วนคนอื่นเป็นแค่คู่ซ้อมค่ะ หนูจะทำยังไงดีค่ะรู้สึกว่าเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว ขอเลิกก็ไม่ยอม ให้เลิกกับผู้หญิงคนอื่นก็รับปากว่าจะเลิก แต่เขาทำไม่ได้ พอผู้หญิงมาหาก็ไปกับเขาเหมือนเดิม ปล.เราไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ
และไม่นานก็มีคำตอบจาก คุณอู๋ ที่มาตอบคุณเบญว่า
กระผมขออนุญาตตอบเรื่องทางโลกแทนสงฆ์นะครับ เรื่องพวกนี้ถ้าถามท่าน มันคงไม่เหมาะเท่าไร ฉะนั้นก็ต้องฆารวาสอย่างเราๆ นี่แหละถึงจะเหมาะ
คือ อย่างแรกก่อนที่คุณจะรับฟังผม ผมขอให้คุณวางใจเป็นกลาง และยอมรับความเป็นจริงก่อนเป็นอันดับแรก มิฉะนั้น คุณจะไม่ได้อะไรเลยจากคำตอบ พร้อมแล้วก็เชิญอ่านอย่างตั้งใจครับ
[ขั้นเตรียมความพร้อมก่อนแก้ปัญหา]
อย่างแรก : ยอมรับความจริง ว่าเรามีแฟนเจ้าชู้ ถามตัวเองว่า ทำไมต้องไปทุกข์ใจกับคนอื่น? จำถามนี้ถามแล้วตอบให้ตัวเองเข้าใจนะครับ คนที่เลือกที่จะทุกข์ใจมันก็คือตัวคุณเอง สามีคุณไม่ได้มาบอกให้คุณทุกข์ แต่คุณทุกข์เพราะจิตของคุณไปสร้างอารมณ์กับการกระทำของสามีของคุณเอง
ขั้นที่สอง : เมื่อรู้ว่าต้นตอของความทุกข์มันเกิดจากจิตของเราเอง เราก็ต้องพัฒนา และ แก้ไขจุดบกพร่องที่ตัวของเราเอง ในทางพระพุทธศาสนา ไม่เคยสอนให้เราไปแก้ไขคนอื่นครับ แต่สอนให้เราแก้ไขตัวเราเอง ฉะนั้น หยุดโทษสามีคุณ แล้วหันมาปรับปรุงตัวเอง
ขั้นที่สาม : ฝึกกำหนดจิตตัวเอง ให้มีสติ เพื่อที่จะได้รู้เท่าทันอารมณ์ เมื่อเกิดความรู้สึกไม่พอใจที่สามีไปมีหญิงอื่น ก็ให้รู้ว่าไม่พอใจแค่นั้น ไม่ยินดียินร้ายต่ออารมณ์นั้นๆ หมั่นถือศีล 5 และสวดมนต์ให้หมั่น เพื่อพัฒนาจิตใจของคุณให้มีความแจ่มใส่
ข้อที่สี่ : รู้หลักเรื่องคู่ไว้ซักนิดว่า คู่นั้นมีกี่ประเภท
4.1 คู่บารมี คือ คู่ที่กำหนดมาแล้วให้ทุกชาติทุกภพเกิดมาคู่กันเพื่อสร้างเสริมบารมีร่วมกัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ พระนางพิมพา กับ พระพุทธเจ้าของเรา พระนางเกิดมาเป็นคู่ของพระพุทธเจ้ามาหลายภพหลายชาติ เพื่อสร้างเสริมบุญบารมีแก่กันและกัน
4.2 คู่บุญ คือ คู่ที่ชาติก่อนเคยทำบุญร่วมกันมา ชาตินี้เลยมาใช้บุญร่วมกันอีก คู่นี้มีแต่ความสุข ถ้าอยากให้คู่เป็นแบบนี้มั่นทำบุญร่วมกันไว้เยอะๆ
4.3 คู่เวรคู่กรรม คือ คู่ที่ตรงกันข้ามกับคู่บุญเลย ทั้งคู่ทำกรรมไม่ดีต่อกันไว้ ชาตินี้เลยต้องมาชดใช้ให้กันและกัน อยากจะเลิกก็เลิกไม่ได้ เพราะเวรกรรมมันมัดติดกันไว้ จะจากกันก็ต่อเมื่อชดใช้เวรกรรมต่อกันหมดแล้วนั่นแหละ
4.4 คู่ทุกคู่ยาก คือ คู่ที่ทำวิบากกรรมอย่างหนึ่งอย่างใดร่วมกันมา ชาตินี้เลยต้องมาทนทุกข์คู่กัน รักกันอยู่แต่ชีวิตหาความสุขไม่ได้ มีแต่ทุกข์ เช่น ชาติก่อนเคยร่วมกันโกงกินเขา ชาตินี้เลยต้องมาอดอยากร่วมกัน
พอจบทั้งสี่ข้อ คุณจะเป็นผู้ที่ไม่เป็นผู้ก่อปัญหาที่ทำให้ครอบครัวร้าวฉาน เพราะคุณไม่ยินดียินร้ายกัยพฤติกรรมของสามีคุณแล้ว จากนั้นก็จะเป็นการแก้ไขปัญหาแบบทางธรรมสำหรับผู้ครองเรือน คือ
[ขั้นตอนการแก้ปัญหา]
มีหลักธรรมสำหรับผู้ครองเรือนอยู่หลักธรรมหนึ่งที่คุณควรเอาไปใช้ คือ ฆารวาสธรรม 4 อันได้แก่ สัจจะ ทมะ ขันติ และ จาคะ ผมขออธิบายเป็นข้อๆ อย่างคร่าวๆ
1. สัจจะ คือ การมีความตั้งมั่นอย่างมีสติของจิต หรือพูดง่ายๆ เป็นคนมีความหนักแน่นมั่นคง ถ้าคุณมั่นใจแล้วว่าคุณรักผู้ชายคนนี้ และพร้อมที่จะอยู่กับเขาไปทั้งชีวิต คุณก็ต้องมีสัจจะกับตัวเอง และตั้งมั่นไว้ว่า "ฉันจะอยู่กับเขา" ไม่ลังเล สงสัย หรือ คิดจะทิ้งเขา หรือ มีคนใหม่
2. ทมะ คือ การทำตนให้เป็นผู้มีปัญญาทางธรรมเป็นเลิศ คิดดี ทำดี ไม่สร้างเวรกับใคร ในที่นี้คือสามีคุณ ไม่คิดกับเขาในทางลบ ไม่ดุด่า ไม่ทำตัวไม่ดีใส่เขา ใช้ธรรมะในการตัดสินปัญหา และ ควบคุมจิตใจ และรู้จักหยับยั้งตัวเอง
3. ขันติ คือ อดทน อันนี้คงไม่ต้องอธิบายมาก วางเฉยต่อสิ่งที่มากระทบจิตใจเสีย ไม่สุข ไม่ทุกข์ จะทำให้คุณอดทนได้ (แต่อดทนอย่างมีปัญญานะ)
4. จาคะ คือ ฝึกตนให้เป็นผู้เสียสละ มีอารมณ์ผ่องใส เสียสละในที่นี้คือ การที่เรายอมสละเวลา สละความสุขส่วนตัว เพื่อส่วนรวม ในที่นี้ก็หมายถึงสามีและครอบครัวคุณ ถ้าคุณหวังเอาแต่ความสุขส่วนตัว คืออยากให้สามีรักคุณ แต่คุณกลับไม่เคยมอบสิ่งดีๆ ให้เขาก่อนเลย นั่นคือคุณไม่มีจาคะที่ดี .... ลองเปลี่ยนใหม่ สามีกลับมาบ้านเหนื่อยๆ ลองปรนิบัติเขา โดยการหาน้ำเย็นๆ มาให้ ไม่ซักถามในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ทำให้เขาสบายใจ มอบสิ่งดีๆ ให้เขา เพราะถ้าคุณรักเขาเป็น คุณจะมานั่งแคร์ทำไม ว่าเขาจะทำอะไรให้คุณบ้าง ให้ถามตัวคุณว่าคุณทำอะไรให้เขาบ้างเถอะ
ยังไม่จบครับ ขั้นตอนต่อไปคือ การติดตามผล และ ประเมิณ
[ขั้นตอนการติดตามและประเมินผล]
ทุกการปฏิบัติต้องมีการสำรวจผลการปฏิบัติไปทุกระยะๆ ครับ ปัญหานี้ก็เช่นกัน เมื่อคุณทำเต็มที่แล้ว คุณก็ต้องดูผลของมันด้วยใจที่เป็นกลางด้วยว่า มันส่งผลยังไงต่อชีวิตของคุณ
เพราะ เราทำทุกอย่างด้วยปัญญาครับ ไม่ใช่ทำด้วยความเขลา
----------------------------------------------------------------------------
เมื่อคุณปฏิบัติตัวพร้อมด้วยศีล และ ปัญญาแล้ว เขาก็ยังไม่ดีขึ้น คุณควรมองตามความเป็นจริงว่า คุณและเขาอาจจะเป็นคู่เวรคู่กรรมกัน ชาตินี้คุณต้องชดใช้ให้เขา เลยต้องมารับวิบากกรรมแบบนี้ หนทางแก้ไข คือ อโหสิกรรมครับ ให้อภัยแก่เขาเสีย คุณและเขาจะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันไป มันมีวิธีแก้คู่เวรคู่กรรมให้เป็นคู่แท้ (คู่บุญ) คือ ให้อภัย ทำบุญ และเจริญภาวนา สิ่งพวกนี้คุณไม่ต้องใช้เงินครับ แค่ยกโทษ ให้อภัยแก่เขา ก็เป็นการสร้างบุญแล้ว ว่างๆ ก็พาเขาไปทำบุญทำทาน เข้าวัดฟังธรรมเสียบ้าง จะได้ช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา
สุดท้ายแล้วขอฝากข้อคิดไว้อีกนิดนึง ... คนเรามักชอบแสวงหาความสุขจากคนอื่นครับ อยากให้เขารักเราคนเดียว อยากให้เขาอยู่กับเรา อยากให้เขาพาเราไปโน่น อยากให้เขาทำดีกับเรา อยากๆๆๆๆ แต่ทุกอย่างเป็นการอยากได้ความสุขจากคนอื่นทั้งนั้น เมื่อเขาทำให้เราได้เราก็สุข แต่ถ้าเขาทำไม่ได้เราก็ทุกข์ ฉะนั้น จะแสวงหาความสุขจากคนอื่นทำไม แสวงหาความสุขจากตัวของคุณเองซิครับ
หากเปรียบจิตเราเหมือนดวงจันทร์ ที่สว่างสดใส แล้ว
เมฆหมอกก็เหมือนกับกิเลส ที่คอยมาปิดบังแสงของดวงจันทร์ให้มืดมิด
จิตเราก็เช่นกัน อารมณ์ต่างๆ ที่กิเลสสร้างขึ้น ก็ทำให้จิตเราหมองหม่นเช่นนั้น
แล้วคุณหล่ะเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กันมั้ย ไหนลองแชร์ให้ฟังหน่อยสิ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
