...พญานกแขกเต้าผู้สันโดษ...

Image

ในสมัยหนึ่ง

พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภภิกษุรูปหนึ่ง ตรัสให้โอวาทว่า
"ภิกษุ ธรรมดาสมณเมื่อมาถึงเสนาสนะเป็นที่สบายแล้ว ก็ไม่ควรโลภในอาหาร ยินดีตามมีตามได้ ปฏิบัติสมณธรรม โบราณบัณฑิตแม้เป็นสัตว์ดิรัจฉาน กินผงแห้งของต้นไม้ที่ตนอยู่อาศัย มีความสันโดษไม่ทำลายมิตธรรมหนีไปที่อื่นเลย"
แล้วได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธก ว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

 ที่ป่าไม้
มะเดื่อแห่งหนึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา มีนกแขกเต้าหลายแสนตัว ต่อมาในฤดูแล้งผลมะเดื่อได้หมดลง นกแขกเต้าทั้งหลายได้พากันบินหนีไปหากิน ณ ที่อื่น
ยังคงเหลือแต่พญานกแขกเต้าตัวหนึ่งเท่านั้น เป็นผู้มักน้อยสันโดษไม่หนีไปที่อื่น
เมื่อผลมะเดื่อหมดก็กินหน่อ ใบ เปลือก และสะเก็ดของต้นมะเดื่อตามลำดับโดยไม่คิดจะหนีไปไหน เป็นเหตุให้บัลลังก์ของท้าวสักกะแสดงอาการร้อน
 
เพื่อทดสอบจิตใจของพญานกแขกเต้า

 ท้าวเธอจึงบันดาลให้ต้นมะเดื่อที่นกแขกเต้าอาศัยอยู่นั้นตายและแห้งลง มีลำต้นแตกเป็นช่องน้อยใหญ่ เวลาลมพัดจะมีเสียงดัง มีผงไม้ไหลออกมาตามช่องที่แตกนั้น นกแขกเต้าก็ไม่หนีไปไหน ก็ยังกินผงไม้ไหลออกมาตามช่องที่แตกนั้นแหละเป็นอาหาร จนสุดท้ายต้นไม้นั้นเหลือแต่ตอ พญานกแขกเต้าก็ไม่หนีไปไหน ยังคงจับอยู่ที่ตอต้นไม้นั้น ท้าวสักกะเมื่อทราบว่า พญานกแขกเต้ามีความมักน้อยสันโดษจริงๆ จึงแปลงร่างเป็นพญาหงส์ มีนางสุชาดาเป็นนางหงส์ติดตามไปด้วย บินไปจับที่ตอมะเดื่อใกล้พญานกแขกเต้านั้นแล้วเจรจาว่า

"นกแขกเต้า ผู้มีจะงอยปากสีแดงท่านควรไปที่อื่นได้แล้ว อย่ามาตายที่ตรงนี้เลย ท่านมาเยื่อใยอะไรกับต้นไม้แห้งนี้ ต้นไม้อื่นมีถมเถไป"

พญานกแขกเต้าร้องตอบว่า

 "ท่านพญาหงส์… ใครเป็นเพื่อนในยามทุกข์ยาก ผู้นั้นเป็นสัตบุรุษ ย่อมไม่ทอดทิ้งเพื่อนผู้มีทรัพย์และไร้ทรัพย์ ต้นไม้นี้เป็นทั้งเพื่อนเป็นทั้งญาติของเรา เราเพียงต้องการมีชีวิตอยู่เท่านั้น จึงไม่อาจทิ้งต้นไม้นี้ไปได้ เพราะเหตุเพียงไม่มีผล นี่ไม่ยุติธรรมเลย"

พญาหงส์พอได้ฟังก็ยินดีและสรรเสริญว่า

"นกแขกเต้าความเป็นเพื่อนไมตรีสนิทสนมคุ้นเคยกันกับต้นไม้ ท่านทำไว้ดีแล้ว ขอสรรเสริญท่านเราจะให้พรแก่ท่าน ท่านจงเลือกพรตามในประสงค์เถิด"

พญานกแขกเต้าขอพรว่า

"ท่านพญาหงส์..เราขอเพียงให้ต้นไม้นี้มีชีวิตมีผลหวานอร่อยเหมือนเดิมเท่านั้นก็พอ"

พญาหงส์จึงพูดว่า

"นกแขกเต้า..ขอท่านจงอยู่กับต้นมะเดื่อที่สมบูรณ์พร้อมตลอดไปเถิด" ว่าแล้วก็คืนร่างเป็นท้าวสักกะเหมือนเดิม แสดงอานุภาพทำให้ต้นมะเดื่อนั้นสมบูรณ์ พร้อมทั้งใบและผลยืนต้นอย่างสง่างามเหมือนเดิม

พญานกแขกเต้าเห็นเช่นนั้นจึงสรรเสริญท้าวสักกะว่า

"ท้าวสักกะ ขอพระองค์พร้อมด้วยคณาญาติ มีความสุขเหมือนข้าพระองค์มีความสุข เพราะได้เห็นต้นผลิตผลในวันนี้ด้วยเถิด"

ท้าวสักกะครั้นประทานพรให้นกแขกเต้าได้สมประสงค์แล้วพร้อมนางสุชาดา
ก็กลับคืนวิมานของตนตามเดิม 


นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า 
จงพอใจในสิ่งที่ตนมีตนได้
และเพื่อนที่ดีไม่ละทิ้งเพื่อนไปในยามทุกข์ยาก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์