7 อาการเตือนภัย คุณกำลังลดน้ำหนักมากเกินไปแล้วนะ!

7 อาการเตือนภัย คุณกำลังลดน้ำหนักมากเกินไปแล้วนะ!


แน่นอนว่าสาวๆ (ไม่ว่าจะเป็นสาวเล็ก สาวใหญ่) ต่างก็ต้องการจะมีเรือนร่างที่ดูดี

 (34-24-36 : หวังมากไปไหมเนี่ย 5555) แต่ละคนเลยตั้งหน้าตั้งตา ลดน้ำหนักกันกระหน่ำ! ทั้งสารพัดสูตร สารพัดวิธี จนลืมไปอย่างว่า ร่างกายของเราแต่ละคน ไม่เหมือนกัน ดังนั้นบางวิธีหรือ บางสูตรลดน้ำหนัก เมื่อเราใช้ไปแล้ว น้ำหนักอาจจะลดได้มาก หรือน้อยไม่เท่ากัน

ดังนั้นเราจะรู้ได้ไงว่า เราผอมเกินไปหรือยัง

(แม้ว่าจะยังไม่ถึงหุ่นในฝัน 34-24-36 ก็ตาม) แต่การลดน้ำหนักมากเกินไป (เกินขีดจำกัดของร่างกายของเรา) มันจะเกิดอันตรายมากกว่านะค่ะ เพราะว่าร่างกายจะไปดึงเอาไขมัน และโปรตีนที่สะสมไว้ในร่างกายมาใช้งาน (บางคนบอกว่า เอาไขมันออกไปให้หมดตัวเลยพี่ = ='') แต่จริงๆ ร่างกายคนเรามันต้องมีไขมันด้วยนะค่ะ ถ้าไม่มี มันจะกลายเป็นหนังหุ้มไปอะจิ เมื่อคุณลดน้ำหนักมากๆ จนไขมัน และโปรตีนในร่างกายลดลงไปมากเกิน ร่างกายของเรามันก็ฉลาดค่ะ คือไม่ยอมตาย (55555) ก็เลยต้องหามาเติม นั้นหมายความว่า ร่างกายของเราจะพยายามหาโปรตีนกลับคืนมา ผลก็คือ คุณอาจจะมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้น (เวงกำ... อุตสาห์ลดตั้งนาน) แล้วจะทำยังไงดีละ ลองมาสำรวจดูว่า 7 อาการเหล่านี้ เกิดขึ้นกับคุณหรือไม่ ขณะที่คุณกำลังลดน้ำหนักค่ะ ถ้ามี ... ก็แสดงว่าคุณกำลังลดน้ำหนักเกินไปแล้วค่ะ

1. ผิวของคุณเริ่มที่จะแห้งเกินไปแล้วนะ!
เนื่องจากการลดน้ำหนัก จะทำให้คุณสูญเสียน้ำในร่างกาย เซลล์ผิวหนังจะขาดน้ำ ทำให้เกิดรอยย่นยับ (เวงๆๆๆๆ) จนเห็นได้ชัด
 
2. เริ่มหมดแรง อ่อนเพลีย หรือหน้ามืด!
สัญญาณอันตรายอันนี้ น่ากลัวค่ะ เป็นเพราะว่าพลังงานจากตับถูกดูดออกไป และหากลดน้ำหนักมากๆ โปรตีนจากกล้ามเนื้อคุณหายไปด้วยละก็ (โชค 2 เด้งเลยค่ะ = ='') จะทำให้คุณหน้ามืดบ่อย และรู้สึกว่า ร่างกายเปลียๆ

3. คุณเริ่มมีกลิ่นปาก (จากเดิมไม่เคยมีนะ... )
เพราะว่ากรดไฮโดรคลอริคในกระเพาะอาหารเหลือค่ะ โดยปกติเจ้ากรดไฮฺโดรคลอริคนี้ (ไม่ใช่ไฮโดรลิค แบบระบบยกรถนะค่ะ >__<) จะถูกอาหารที่เราทานเข้าไปดูดไป หากใครลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารทันที (แบบหักดิบ)

กรดที่ว่านี้ มันจะเหลือและมีการบูดเน่าค่ะ เลยทำให้กลิ่นเน่าโชยออกมาเวลาเราพูดด้วย.. แหวะดีไหมละ อีกอย่างคือ บางครั้งปริมาณกรดในเลือดที่มีมากเกินไป (เพราะว่าบางคนเล่นลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต ประมาณว่าไม่กินแป้งเลย) ภาวะความเป็นกรดของเลือดจะมากขึ้น กรดที่ว่า มันจะถูกขับออกมาทางกลิ่นปากค่ะ

4. เริ่มนอนไม่ค่อยหลับ
ถ้าคุณลดน้ำหนักด้วยการจำกัดแคลอรี่ ประมาณว่ากินน้อยๆๆๆๆๆๆ แล้วคาดว่ามันจะผอม คุณอาจจะเจอภาวะนอนไม่ค่อยหลับค่ะ เพราะว่าอาหารที่มีแคลอรี่น้อยๆ ส่วนมากจะไม่ค่อยมีน้ำตาล เมื่อระดับน้ำตาลของคุณลดมากเกินไป หรือมากเกินไป จะมีผลให้ฮอร์โมนในร่างกายเกิดความปั่นป่วน ทำให้คุณไม่รู้สึกง่วง จนบางครั้งร่างกายคุณอาจจะดูไม่ค่อยสดชื่น หรือกระตือรือร้นไปเลย

5. ท้องเสียบ่อยๆ (โดยที่ไม่ได้กินอาหารแปลก แหวกแนวใดๆ)
ถ้าคุณแน่ใจว่าอาหารที่คุณทาน ไม่ได้สะอาด แต่ดันท้องเสียบ่อย ในขณะที่คุณกำลังลดน้ำหนักอย่างคร่ำเคร่ง.. อาจจะเป็นเพราะว่า คนอ้วนโดยมาก มักจะกินอาหารที่เป็นพวกแป้งมาก แล้วโดยมากเพื่อนๆ จะลดยังไงละค่ะ .. คำตอบสุดคลาสิกก็คือ.. ไปกินผัก ผลไม้แทน หรืออาหารที่มีกากใยมาก (ดูเป็นสาวไฮโซไปเลย 5555)

แต่เชื่อหรือไม่ว่า การที่คุณหยุดทานแป้ง และไปเพิ่มกากใยมากๆ ทันที คุณอาจจะท้องเสียได้ค่ะ ทางทีดีคือ ค่อยๆ ปรับเมนูอาหารนะค่ะ โดยค่อยๆ เพิ่มอาหารที่เป็นกากใยทีละขั้นๆ ไป อย่าใจร้อนนะค่ะ เดี๋ยวอึหมดตัว.. สลบคาห้องน้ำไม่รู้ด้วยนะ อิอิอิ ส่วนสาวใดที่คิดว่า อึไปเยอะๆ เลย ฉันจะได้ผอม ... คุณกำลังเข้าใจผิดนะค่ะ... เพราะว่าคุณไม่ได้อ้วนเพราะอึนะค่ะ การอึมากๆ อาจจะทำให้คุณอ่อนเพลียได้นะค่ะ เพราะร่างกายเสียน้ำไปด้วยทุกครั้ง
 
6. ความดันโลหิตเริ่มสูงผิดปกติ
หากใครอยากลดน้ำหนักด้วยการอดอาหารเป็นเวลาต่อเนื่องนานๆ ความดันของเลือดเราจะเพิ่มขึ้น หลอดเลือดจะหดตัวเกร็ง แต่ถ้าคุณรักษาความสมดุลย์ของอาหารได้ คือ ไม่มากและไม่น้อยเกินไป ระดับความดันของเลือดจะปรับตัวคงที่ได้เองค่ะ หากความดันเลือดสูงปรี๊ดมากๆ มันจะไม่คุ้มกันนะค่ะ

7. กระเพราะอาหารเริ่มไม่ค่อยจะย่อย
เพราะว่าการลดอาหาร หรือแคลอรี่ของเรา ทำให้ระบบการย่อยอาหารไม่ดี เพราะว่าปกติ กระเพาะอาหารของเราจะขับกรดออกมามาก และมันก็จะปกติไม่มีปัญหาใดๆ หากคุณทานอาหารปกติ แต่เมื่อคุณลด หรือ งด อาหาร เท่านั้นละค่ะ กรดในกระเพาะอาหารจะถูกขับออกมาไม่หยุด ทำให้คุณปวดท้องได้ สุดท้ายกลายเป็นโรคกระเพาะไป
 
การลดน้ำหนักที่ถูกต้องคือ การลดน้ำหนักแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าไปมองหุ่นคนอื่น หรือเปรียบกับคนอื่นนะค่ะ เช่น เพื่อนเราใช้สูตรนี้ลดได้ xx กิโล / เดือน เราก็ต้องทำให้ได้เท่า หรือมากกว่าเขา มันเป็นไปไม่ได้อะค่ะ เพราะร่างกายมันคนละคนกัน การเผาผลาญก็ไม่เท่ากัน และอาหาร สภาพแวดล้อม การใช้พลังงานของแต่ละคนไม่เท่ากัน ดังนั้นหากเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ก็จะยิ่งเครียดไปเปล่าๆ นะค่ะ

ค่อยๆ ลดไป ควบคู่กับการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนร่างกาย + จิตใจด้วยค่ะ บางครั้งการไปกังวลกับการลดน้ำหนักมากๆ แทนที่จะลดได้ กลายเป็นน้ำหนักเพิ่มโดยไม่รู้ตัวนะค่ะ

ขอขอบคุณที่มา : Ladytip

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์