แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


กระทู้ฮ็อต pantip เรื่องดีดีที่อยากแชร์

:: แรงบันดาลใจจากคำว่า "อีอ้วน" สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


โดยคุณ สมาชิกหมายเลข 2450851

............................

กระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อต้องการสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากลดน้ำหนัก 

ก่อนอื่นเราขอแนะนำตัวเองก่อนนะ เรามีนามว่า อิ๋ว ตอนนี้กำลังจะขึ้นปี 4
เรียนอยู่มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งย่านรัชดาที่มีสายไฟบังป้ายมหาวิทยาลัย 55555 

เอาเป็นว่าพอรู้จักกันแล้วเนอะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่าาา

เราเป็นคนที่โดนด่าว่าอ้วนตั้งแต่จำความได้ 5555 คือเราเป็นคนอ้วนตั้งแต่เด็ก ตอนเด็กๆยายเราจะเป็นคนเลี้ยงเรา เพราะพ่อแม่เราต้องมาทำงานที่ กทม เราก็เลยใช้ชีวิตอยู่กับยาย น้า พี่ น้าที่บ้าน ยายเราชอบเด็กจ้ำม้ำเลยเลี้ยงเราแบบตามใจปาก ร้องเมื่อไหร่ยัดขวดนมเข้าปาก 5555 เราเป็นหลานคนเล็กจึงโดนตามใจมากในเรื่องการกิน น้าเราเล่าให้ฟังว่ามีอยู่ครั้งนึงพี่ชายที่อยู่บ้านเดียวกันเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (บ้านเราเป็นครอบครัวใหญ่อยู่ด้วยกันหลายคน) ซื้อลูกชิ้นมาให้เรากินเพราะพี่แกกลับจากโรงเรียนแล้วแกจะซื้อมาให้เรากินบ่อย เราก็กินจนหมดแล้วดันไม่อิ่ม เราก็ร้องไห้ดังไปสามบ้านแปดบ้านอยากกินลูกชิ้นอีก ยายเราเลยต้องให้พี่เราขี่มอเตอร์ไซด์ไปซื้อให้อีก 55555 พอได้กินก็เงียบกริบบบบ นี่ไม่เคยยอมเลยเรื่องการกินอยากกินไรยายก็หามาให้กิน เลยกลายเป็นเด็กสมบูรณ์(เกิน)ตั้งแต่เด็ก หมู

เราไม่เคยสัมผัสกับคำว่าผอมเลย เราโตมาด้วยคำว่า "อีอ้วน" เศร้า เรียนโรงเรียนตั้งแต่ประถมจนมัธยมก็โดนด่า อีอ้วน! อิช้างน้ำ! อิถังแก๊ส! สารพัดอะไรที่มันใหญ่โตมโหฬารคือโดนมาหมด 55555 พวกสรรหาคำด่าก็ขยันหากันมาได้จิงๆ ตอนนั้นที่โดนด่ามันก็รู้สึกเจ็บนะว่ากูไปทำอะไรให้หนักหนาทำไมต้องว่าอย่างนี้อ้วนแล้วทำไมไม่ได้ไปขอใครกินไม่ได้ไปเปิดหม้อข้าวบ้านมันกิน ทำไมต้องมาดูถูกกันแบบนี้ บางครั้งก็แอบมาร้องไห้คนเดียว ว่าทำไมเราต้องโดนว่าแบบนี้ทำไมเราต้องเป็นอย่างนี้ทำไมต้องอ้วนแบบนี้ว่ะ แต่พอคิดไปๆคิดมาไหนๆก็อ้วนแล้ว -ต่อ 555555555 คือมันอยากลดนะแต่ไม่อดไม่ได้ เชื่อว่าหลายๆคนเคยเป็น อยากผอมแต่หยุดปากตัวเองไม่ได้ นู้นก็อยากนี่ก็อยากไปหมด และยิ่งกับข้าวตอนเย็นนี่แบบ หืมมมมม ต้องกระโดดเข้าใส่อ่า ช่ะม่ะ 55555
หัวเราะ
เราปล่อยตัวเองให้อ้วนมาตลอด เราไม่เคยจริงจังกับการลดเลย ช่วงม.ปลายน้ำหนักเราขึ้นมาที่ 90 กก. โอ้วโหวววววว สิบโลร้อย 5555 แต่นางก็ไม่หวั่นนางก็กินต่อจ้าาาา และแบบคืออดใจไม่ไหวป่ะตกเย็นข้าง รร ของกินนี่มาเต็ม อดไม่ได้จ้าา แล้วเพื่อนเราแต่ละคนคือแบบไซด์บิ๊กเบิ้มเยอะเราก้ไม่แคร์จ้าา ไปไหนไปกัน แดรกจ้าาาาา 555อมยิ้ม05อมยิ้ม35

มีรูปมาฝากด้วยยย 5555

 




แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

อลังการงานช้างมากเลยใช่มั้ย 55555


จนกระทั่งเราได้เข้ามาเรียน มหาวิทยาลัย เหมือนโลกมันเปลี่ยนไปเราต้องพบเจอคนใหม่ๆ เพื่อนใหม่ สถานที่ใหม่ ผู้คนใหม่ๆ การเข้ามาเป็นเฟรชชี่แน่นอนต้องผ่านกับรับน้องปฐมนิเทศ นั่นแหละเป็นสิ่งจุดประกายที่ทำให้เราอยากลดน้ำหนัก มันทำให้เราคิดที่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง แต่กว่าจะเริ่มคิดได้น้ำหนักปาเข้าไป 103 กก. จ้า คืออ้วนสุดแล้วตั้งแต่เกิดมา 555555 เราโดนด่าด้วยคำว่า อีอ้วน มาตลอด มันเป็นคำที่เราเกียดและอยากหลุดพ้นไปจากคำนี้สักที เราจึงเก็บอิคำว่า "อิอ้วน" เนี้ยแหละมาเป็นแรงบัลดาลใจในการลดน้ำหนัก อมยิ้ม07


จุดเริ่มต้นของการลดน้ำหนักของเรา แน่นอนต้องไม่พ้นยาลดน้ำหนัก ใช่เราเริ่มต้นจากการกินยาลดน้ำหนักยี่ห้อหนึ่ง เป็นแคปซูลประมาณ 30 เม็ดตอนนั้นเราอยู่ประมาณปี1เทอม2 เรากินอยู่ประมาณเดือนนึง คือน้ำหนักมันลดจริงนะ ขณะที่กินตอนนั้นคือลดไปประมาณ 5 กิโล คือตอนนั้นคือแบบดีใจสุดแล้วคือไม่เคยลดเยอะขนาดนี้จาก 103 กก. เหลือประมาณ 98 กก. เลขสองหลักแล้วโว้ยยยยยยยย แต่ผลข้างเคียงมันก็มีนะ คือจะหงุดหงิดง่ายมาก เพื่อนรอบข้างเราบอกเลยว่าเราอารมณ์ร้อนขึ้น เราเลยตัดสินใจหยุดกินบวกกับการไม่มีตังค์ซื้อแล้ว 555555 เลยหยุดกิน จากนั้นเรากลัวที่มันจะโยโย่เราจึงเริ่มปฏิบัติการด้วยการลดด้วยตัวเอง ...
v
v
v
อันนี้คือเริ่มลดลงมาได้ 5 กก.


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

ต่อมาเราก็ได้ลดด้วยตัวเองต่อ
v
v
เราเริ่มลดน้ำหนักด้วยวิธีของตนเอง อาจจะเป็นวิธีที่ผิดไปบ้าง อยากให้เพื่อนๆใช้วิจารณญาณในการชมนะ 55555 เอ๊ะ !!คืออยากให้เพื่อนๆเอาไปปรับใช้กัน เพราะวิธีที่เราลดมันอาจจะโหดไปหน่อย

อาหารการกิน : เราจะกินข้าววันละมื้อ ย้ำวันละมื้อ โหดมาก 55555 คืออยากกินอะไรกินไปเลยให้เต็มที่ในมื้อนั้น ส่วนมากเราจะเน้นตอนกลางวัน เราจะกินแค่มื้อนั้นมื้อเดียว หลังจากนั้นคืองด ถ้าหิว เราจะกิน นมถั่วเหลือง ผลไม้ ถ้าหิวมากๆตอนเย็น เราจะกินยำวุ้นเส้น ส้มตำ คืออาหารอะไรก็ได้ที่แคลอรี่น้อยๆ แป้งน้อยๆ คือบางทีมันก็มีหลุดบ้างนะคือก็มีแอบกินตอนเย็นบ้างสำหรับวันที่ไม่ไหวแล้วจริงๆ ถ้าเรารู้ว่าวันนั้นเรากินเยอะ วันต่อมาเราจะกินให้น้อยลง

ออกกำลังกาย : เราจะเล่นฟิตเน็ทสัปดาห์ละประมาณ3-5 วัน ระยะเวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่งบางวันก้ชั่วโมงนึง คืออย่างน้อยต้องออกสักครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ในฟิตเน็ทเราจะเน้นการเล่นที่ช่วยเบิร์น คือ การวิ่งลู่วิ่งและปั่นจักรยาน แล้วก็เล่นอุปกรณ์บริหารส่วนต่างๆของร่างกายนิดหน่อย


เราทำแบบนี้เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน น้ำหนักเราลดลงมาเหลือ 80 กก. หายไปประมาณ 18 กก. ในระยะเวลานี้ คือแบบที่สุดแล้ว 555555 เอวจาก40 ตอนนั้นเหลือ 36 คือต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนสูง(165 ซม.) ถึงแบบน้ำหนักจะลงแต่เราเป็นคนไหล่กว้างเลยยังดูเป็นคนตัวใหญ่ เสื้อผ้าต้องเปลี่ยนหมด ช่วงนั้นจะอยู่ประมาณขึ้นปี 2 พอดี เปิดเทอมใหม่ชุดใหม่ก็มาจ้า จากนั้นเราก็เริ่มหย่อนในการลดน้ำหนักมากขึ้นคือค่อยเป็นค่อยไปไม่หักโหมเหมือนตอนแรก คือเราเริ่มพอใจกับรูปร่างเราแล้ว แต่แบบต้องลงให้ได้อีกกกก เราก็เลยลดต่อไป

ตอนนี้คือลดเหลือ 80 กก.


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

คราวนี้เราลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและปริมาณแคลลอรี่ คือเราจะโหลดแอปมาเลยว่าอาหารแต่ละอย่างเรากินไปเท่าไร่ แล้วแต่ละวันเราต้องกินไปเท่าไหร่คือจะพยายามไม่ให้เกินพลังงานต่อวันที่เราได้รับ คราวนี้คือบ้าคำนวณมากเลยจ้า55555 กินอะไรต้องคำนวณตลอด แต่เราก็ว่ามันได้ผลอยู่นะ มันจะทำให้เรายับยั้งปากขอเราได้บ้าง และในแต่ละวันคือต้องกินน้ำให้มากๆ คือเราไม่ได้ลดแบบหักโหมค่อยเป็นค่อยไป บางวันอยากกินหนักๆหรืออยากกินของหวานเราก็จะจัด แต่พอกินไปวันต่อมาเราจะเบาคือจะลดปริมาณการกินลง 

การลดน้ำหนักถ้าเรายิ่งเครียดน้ำหนักมันก็จะไม่ลดคืออย่ายึดติดกับน้ำหนักมากให้สังเกตที่ร่างกายเราเองมากกว่าเมื่อไหร่ที่กางเกงคับหรือเสื้อคับนั่นแหละคือเราอ้วนขึ้นแล้วจริงๆ แต่เราก็ติดชั่งน้ำหนักนะ เกือบทุกวันหน้าเซเว่น55555 รู้เนอะแต่มันก็ยังกังวลเรื่องนี้อยู่ ผู้หญิงอ่ะเนอะเรื่องน้ำหนักนี่มาก่อน 555555 บางครั้งก็เปิดดูสูตรต่างๆอาหารคลีนบ้าง สูตรเร่งรัดบ้าง คือเราก็ทำมันมาหมด แต่สิ่งนึงที่ขาดไม่ได้คือการออกกำลังกาย เราห่างหายไปจากฟิตเน็ทเนื่องจาก คนเยอะ 55555 (ฟรีเพราะเป็นของมหาลัย) เราเลยออกำลังกายโดยการออกไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลบ้าง ตีแบตบ้าง แอโรบิกบ้าง แล้วแต่ถ้ามีเวลา แล้วหลังๆคือจะมาฮิตเต้น T25 มีหรอเราจะพลาด ไม่พลาดจ้า เอากับเค้าด้วย 55555 และเราจะมาเน้นเรื่องหน้าท้องมากขึ้นเพราะกินแล้วแบบจะลงพุงลงสะโพกเราเลยจะมาเน้นที่จุดนี้

หลังจากที่เราปฏิบัติแบบนี้ น้ำหนักเราลงมาอยู่ที่ 70 กก. หายไป 10 กก. เอวเหลือ 32 นิ้ว ภายในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน คือจุดนี้คือแบบ ดีใจสุดแล้วจริงๆ คือมันเห็นได้ชัด สัดส่วนเริ่มเห็น คนเริ่มมาจีบ หึ้ยยย 555555555 ทุกคนรอบข้างเริ่มตกใจในการเปลี่ยนแปลง คนที่บ้านก็บ่นว่าผอมไปแล้ว ยิ่งยายนี่บอกให้กินเยอะไม่อยากให้ผอม 55555 คือท่านไม่เคยคิดว่าเราจะเหลือตัวแค่นี้มันหายไปเกือบ 30 กว่าโล เปลี่ยนเป็นอีกคน ฟินเลยจ้าตอนนั้น 55555 จากที่ไม่มีผู้ชายมาเลี้ยวก็เริ่มมีนะจ้ะ เสื้อผ้าที่อยากใส่ก็ใส่ได้หมดจ้า

อันนี้คือตอนหนัก 70 กก. สัดส่วนเริ่มมา
V
V




แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

เป้าหมายการลดน้ำหนักเราอยู่ที่ 65 กก. คือเราเคยคิดจะหยุดถ้าเราลดได้เท่านั้น จากนั้นเราก็เริ่มลดลดแบบวิธีก่อนหน้านี้มาเรื่อยๆ ค่อยๆลด แต่ทุกคืนคือต้องซิทอัพก่อนนอนอย่างน้อยวันละ 50 ครั้ง และในที่สุดเราก็มาถึงเป้าหมายที่เรากำหนดไว้คือ 65 กก. รอบเอวเหลือ 29 นิ้ว จากคนที่โดนด่าว่าอีอ้วนมาจนกว่าครึ่งชีวิต ได้กลับกลายเป็นอีกคนถึงจะไม่ได้ผอมเพรียวมาก แต่มันก็คือที่สุดของตัวเราแล้วจริงๆ เราภูมิใจในตัวเรามากที่เราชนะใจตัวเองมาได้ จากอีอ้วน 103 กก. กลายเป็นสาวอวบ 65 กก. น้ำหนักหายไป 38 กิโลกรัม ภายในระยะเวลา 2 ปีกว่า เริ่มต้นลดตอนปี1 เทอม 2 จนปัจจุบันจะขึ้นปี 4 คือมันคือที่สุดแล้ว จริงๆสำหรับผู้หญิงอ้วนๆคนนึง ที่ทุกคนตีหน้าว่าเค้าว่า "อีอ้วน"

และนี่แหละคือผลลัพธ์ที่ได้ ^^




แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่


แรงบันดาลใจจากคำว่า อีอ้วน สู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่

เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังอยากลดน้ำหนักนะคะ สิ่งที่เราจะชนะมันได้คือใจเราเท่านั้นเอาชนะมันให้ได้นะคะ หาแรงบันดาลใจให้ได้ หากไม่มีแรงบันดาลใจก็นึกถึงเราได้น้า และขอฝากถึงคนที่คอยว่าซ้ำเติมคนอื่นหรือล้อปมด้อยคนอื่นด้วยว่าที่คุณว่ามันก็แค่น้ำลายเท่านั้นแหละอย่าว่าคนอื่นถ้าตัวเองยังไม่เพอเฟคถึงต่อให้ภายนอกคุณเพอเฟคแค่ในแต่ในใจคุณแหละที่เป็นปมด้อยอย่าซ้ำเติมกันเลยค่ะ เพราะคำพูดบางคำที่คุณพูดมันอาจจะไปทำร้ายใจของคนอื่นก้ได้ 

แต่ก็ขอขอบคุณสำหรับคำด่า ที่ทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการที่จะหลุดพ้นไปจากคำด่าของพวกคุณ


ที่มา คุณ สมาชิกหมายเลข 2450851 เวบไซต์ pantip.com


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์