โอปะนะยิโก พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใสใจตน

ชาวพุทธเราส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ทำตามความหมายในธรรมคุณข้อว่า "โอปะนะยิโก" ชาวพุทธเราเกือบทั้งหมดได้สวดมนต์บทนี้อยู่เป็นประจำคือบท "อิติปิโส"หรือการสวดมนต์ทำวัตรเช้าและทำวัตรเย็น ที่กล่าวสรรเสริญถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ได้แต่สวดบทมนต์นี้เป็นของขลังให้มาคุ้มครองตน แต่ไม่ได้น้อมเอาพระธรรมคำสั่งสอนจริงๆมาใสในใจของตนเลย เพื่อให้เกิดการคุ้มครองตน จึงไม่เกิดความสงบสุขในจิตใจของตนจริงๆจากพระธรรมคุณ ถ้าชาวพุทธเรารู้จักนำเอาพระธรรมที่เป็นข้อห้ามจิตไม่ให้เกิดเป็นบาปอกุศล มาท่องบนเป็นธรรมะภาวนาอยู่ในใจของตนเสมอๆ "เป็นโอประนะยิโก" จริงๆนั้นแหละจึงจะทำให้จิตของตนมีสติ ทำให้เกิดความสงบได้จริงๆ จิตที่ไม่สงบก็เพราะยังหลงไปในบาปอกุศล ที่มากับ รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย และธรรมารมณ์คือความนึกคิดปรุงแต่จากบาปอกุศล
ธรรมที่เป็นข้อห้ามไม่ให้จิตเป็นบาปอกุศลได้แก่ ความไม่ยินดียินร้ายใน รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์, ความไม่คิดว่าร้ายใครด้วยอคติ, และความไม่คิดร้ายใครด้วยพยาบาท, สรุปคือ "ไม่ยินดียินร้าย...ไม่ว่าร้ายใคร...ไม่คิดร้ายใคร..." นี้คือบทพระธรรมที่เป็นข้อห้ามของจิตไม่ให้เกิดบาปอกุศล ถ้าเราได้นำเอามาท่องเป็นธรรมะภาวนาไว้ในใจอยู่เสมอๆก็คือ การโอปะนะยิโก หรือการน้อมเอาพระธรรมมาใสในใจของตน เมื่อมีความเพียรไว้ในใจอยู่เสมอๆในชีวิตประจำวัน ก็จะทำให้มีสัมปชัญญะคือความรู้ตัว หรือเป็นผู้มีอินทรีย์สังวรรู้ระวังในตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจของตนไม่ให้หลงไปยินดียินร้าย ทำให้มีสติ ถอนความยินดียินร้าย ถอนความพอใจหรือความไม่พอใจในโลกออกเสียได้ จิตของเราก็จะเกิดความสงบสุขจากบุญกุศล เป็นจิตที่สะอาด สว่าง สงบ และมีพระธรรมคุ้มครองได้จริงๆ นี่คือผลของการมี "โอปะนะยิโก"การน้อมเอาพระธรรมมาใสในใจของตน

โอปะนะยิโก พระธรรมเป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใสใจตน

Facebook : หลวงพ่ออุดม มหาปุญโญ วัดป่าหนองเลง


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์