20 เม.ย. 2541 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.ละหานทราย ได้รับแจ้งจากนายทวีและนางวิรัช นันทวงษ์ ว่าหลานสาวชื่อ ด.ญ. กุลธิดา ใจกล้า อายุ 2 ขวบ 3 เดือน พ่อแม่ทำงานอยู่ที่กทม. เด็กน้อยได้หายออกไปจากบ้านเมื่อตอนสายๆ มีคนเห็นว่าเธอไปซื้อขนมที่ร้านค้า กับผู้ชายที่อยู่ในอาการมึนเมา แล้วนั่งรถมอเตอร์ไซตืหายไปทางท้ายหมู่บ้าน กลัวว่าจะถูกล่อลวงไปทำมิดีมิร้าย ขอให้ตำรวจช่วยติดตามด้วย
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันออกค้นหาตัว ด.ญ.ทันที จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน ทุกคนต้องตกตลึงเบือนหน้าหนีภาพดังกล่าวทันที เมื่อพบว่าบริเวณข้างจอมปลวก มีร่างของด.ญ.กุลธิดานอนเปลือยกายเสียชีวิตอยู่ สภาพศพถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกยุบ เลือดและเศษมันสมองกระจายเกลื่อนส่งกลิ่นคาวคละคลุ้ง บริเวณอวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืนจนฉีกขาด เลือดไหลนองปนกับน้ำอสุจิซึ่งสามารถมองเห็นได้อย่างเด่นชัด นายทวีและนางวิรัชเมื่อมาเห็นสภาพหลานเป็นเช่นนั้น ต่างก็ปล่อยโฮและเป็นลมล้มฟุบไปทั้งคู่ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าด.ญ.กุลธิดาน่าจะเสียชีวิตไม่เกิน 1 ชั่วโมง และคนร้ายน่าจะยังหนีไปได้ไม่ไกล จึงได้วิทยุแจ้งให้ช่วยกันออกติดตามจับกุมโดยด่วน เจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่งได้ซุ่มอยู่บริเวณท่ารถในตลาด และได้พบชายต้องสงสัยอยู่ในอาการมึนเมา จึงได้เข้าตรวจค้น ชายคนดังกล่าวเมื่อรู้ตัวว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ ก็มีอาการหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด จากการตรวจสอบพบว่าที่ขากางเกงและชายเสื้อมีรอยเปื้อนเลือด จึงนำตัวมาสอบสวนที่โรงพัก ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือ นายอำไพ ใสโพธิ์ เบื้องต้นให้การปฏิเสธและให้การวกวน
หลังจากที่เค้นสอบถามความจริงอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็เปิดปากยอมรับสารภาพเป็นผู้ลงมือข่มขืนและฆ่า ด.ญ.จริงๆ ยอมรับว่าเพิ่งแต่งงานได้ 2 วัน แต่เพราะตัวเองมีความต้องการสูงมาก เป็นเหตุให้เมียทนรับไม่ไหว จึงหอบเสื้อผ้าหนีไป จึงเกิดการกลุ้มใจมากถึงดื่มเหล้าพอเมาได้ทีแล้วก็เกิดอารมณ์กลัดมันขึ้นมา พอกับที่เห็น ด.ญ. เดินมาพอดี จึงเข้าไปหลอกล่อพาไปซื้อขนม จากนั้นพาขึ้นรถจักรยานยนต์ไปยังป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน แล้วพยายามลงมือข่มขืน แต่เด็กร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ตนกลัวชาวบ้านจะได้ยินเสียงแล้วเข้ามาเห็น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกจนสลบ แล้วจึงลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เสร็จแล้วเด็กได้ฟื้นขึ้นมาและส่งเสียงร้องไห้อีก ตนเห็นที่อวัยวะเพศเด็กมีเลือดไหลออกมามาก กลัวจะมีคนมาเห็นความผิดที่ตนก่อขึ้น จึงจับขาเด็กเหวี่ยงฟาดไปที่จอมปลวกอีกครั้งจนเด็กแน่นิ่งไป แล้วหยิบท่อนไม้ที่ตกอยู่ในบริเวณนั้น ตีซ้ำเข้าที่ศรีษะจนขาดใจตาย แล้วรีบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุ กลับเข้าบ้านเก็บเสื้อผ้าแล้วมาเตรียมขึ้นรถที่ตลาดเพื่อหลบหนีความผิด แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุมได้เสียก่อน จึงหมดโอกาสที่จะไปก่อกรรมชั่วกับใครได้อีก