เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เป็นกระทู้ที่กำลังได้รับความสนใจเมื่อมีคนมาตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิปว่า.."เงิน" คือเครื่องพิสูจน์ความกตัญญูจริงหรือเปล่าคะ? โดยเจ้าของกระทู้คือคุณ Sweetest Love โดยได้ระบุเนื้อหาว่า..

ก่อนอื่นเลย เราขอร้องว่าอย่าดราม่าในกระทู้นี้นะคะ เราทราบว่าเรื่องครอบครัว เรื่องพ่อแม่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน แล้วเราไม่ได้มีเจตนาไม่ดีในการตั้งกระทู้นี้ เราแค่ไม่สบายใจ อยากทราบความคิดเห็นของคนอื่นเผื่อว่าเราจะได้มุมมอง และทัศนคติดีๆ จากเพื่อนๆ สมาชิกกับสิ่งที่เราถามค่ะ

ขอเล่าคร่าวๆ เกี่ยวกับครอบครัวเราก่อนนะคะ จะได้มองภาพออก

เราเป็นลูกคนเดียว เกิดมาในครอบครัวที่อบอุ่นจนร้อน ฐานะปานกลาง
เราอยู่ในโอวาทพ่อแม่เสมอ เป็นเด็กเรียนเก่ง ไม่เที่ยว ไม่ออกนอกลู่นอกทาง
เชื่อฟังคำสั่งสอนพ่อแม่ ไม่เคยทำให้พ่อแม่หนักใจ

ชีวิตเรามีแต่บ้านกับโรงเรียน หรือไม่ก็บ้านกับที่ทำงาน แม่เราไปรับ ไปส่งตลอด
เลิกงาน 6 โมงเย็นแม่เรารออยู่หน้าบริษัทแล้ว ถ้าเราขอไปไหนหลังเลิกงาน แม่จะอยู่รอ และโทรตามทุกชั่วโมง
 ซึ่งเราก็จะไปไหนกับเพื่อนได้ไม่นาน เพราะแม่รออยู่ แล้วแม่เราก็ไม่ชอบรอเสียด้วยสิ หูชาเป็นชั่วโมงเพราะฟังแม่บ่น 5555+

เงินเดือนของเราเป็นของแม่ทั้งหมดค่ะ แม่ให้เราใช้อาทิตย์ละ 1,000 บาท นอกนั้นแม่เอาไปใช้จ่ายในบ้านและเรื่องอื่นๆ เราจะซื้ออะไร แม่ต้องไปด้วย ต้องให้แม่อนุมัติเราถึงจะซื้อได้ แม้แต่ของในตลาดนัด บางทีเราต้องโทรไปขอแม่ซื้อเลยค่ะ เพราะเคยซื้อกลับบ้านแล้วโดนแม่ว่าอยู่หลายชั่วโมง เอาเป็นว่า ชีวิตเราเป็นของแม่แล้วกัน คือแม่จะทำอะไรกับเราก็ได้

เราพูดเลยว่าเราไม่มีความสุขกับชีวิตแบบนี้ แต่เรารักแม่เรามาก เราเลยยอม ไม่พูดอะไร ไม่ว่าอะไร เพราะถือว่าแม่คือคนที่สำคัญที่สุดของเรา ช่วงอายุ 20 พ่อเราขอแยกไปอยู่ที่อื่นเพราะพ่อทนแม่ไม่ไหว เราเคว้งเลย เพราะมีอะไรเราคุยกับพ่อตลอด พอพ่อไม่อยู่บ้าน มันก็ไม่โอแล้ว

พอแม่ไม่มีพ่อ แม่มีอะไรก็มาลงที่เราคนเดียว เครียดก็มาลงกับเรา เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่แม่ก็จะโมโหแล้วก็โกรธเราเป็นอาทิตย์ เราว่าตอนนั้นเราเป็น depression นะ เราร้องไห้ก่อนนอนทุกคืน กรี๊ดอัดหมอน ชีวิตมันหดหู่ มีแต่เรื่องเครียดๆ ไม่มีความสุขเลย คิดสภาพคนที่ชีวิตโดนคอนโทรลตลอดดูนะคะ ทำอะไรไม่ได้ ต้องคอยฟังคำสั่งจากแม่เท่านั้น

มีอยู่คืนนึง เราโทรไปหาพ่อแล้วบอกว่า เราอยากฆ่าตัวตาย เราไม่อยากอยู่กับแม่แล้ว ทำไมพ่อทิ้งเราไป สรุปก็อยู่รอดมาจนถึงปัจจุบันนะคะ เพราะเราตัดสินใจมาอเมริกา เราอยากเป็นเชฟ อยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง นี่คือความฝันของเรา

กว่าจะขอมาอเมริกาได้นี่แทบตาย ดีที่เพื่อนแม่ช่วยพูด ลุงเขาบอกแม่เราว่า "ถ้าพรุ่งนี้เธอตายไป ลูกเธอจะอยู่ยังไง เพราะเธอไม่เคยให้ลูกใช้ชีวิตที่เขาเลือกเองเลย เธอดึงให้ลูกเธอลงเหวอยู่นะ เขาอยากทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น แต่เธอถ่วงเขาอยู่" แม่เราให้ไปเลยจ้า เรานี่ดีใจเนื้อเต้น รีบจัดการขอวีซ่าเลย กลัวแม่เปลี่ยนใจ 55555+

เราเอาเงินโบนัสที่ได้จากบริษัทติดตัวมาอเมริกา $1000 (ซึ่งแม่เราติ๊ต่างว่ามันคือเงินที่แม่เราให้เราติดตัวมาอเมริกา โนว...เงินเราเอง)เราไม่เคยขอเงินพ่อแม่เลยนะคะตั้งแต่มาอยู่อเมริกา ไม่เคยเลยสักบาท อดทน สู้สุดๆ เพื่อพิสูจน์ให้เขารู้ว่าเราอยู่ได้นะ เราโตแล้วเราให้เงินท่านบ้างตามอัตถภาพ เพราะเราต้องโอนเงินกลับไทยทุกๆ 2 เดือนเข้าบัญชีที่เราเคยเปิดไว้เหมือนลงทุนอ่ะค่ะ ต้องส่ง 6 ปีห้ามขาด
เงินส่วนหนึ่งก็ให้พ่อกับแม่ อีกส่วนหนึ่งทำบุญ ก็เป็นแบบนี้มาตลอด 2 ปีตั้งแต่เรามาอยู่ที่นี่

ตอนนี้เราอยู่อเมริกามา 2 ปีกว่าแล้ว ทำงานได้เงินเดือนเท่าที่เคยได้ตอนอยู่ที่ไทย ดีที่อยู่กับโฮสต์
ไม่ต้องเสียค่าเช่าบ้าน ที่อเมริกาค่าครองชีพสูงมากกว่าที่ไทยหลายเท่า แต่เราทำเงินเท่าที่ได้ที่ไทย อยู่ตัวคนเดียว ป่วยหาหมอที่ก็หลัก $100 ขึ้นไป บางทีปาไปเกือบ $500 ประกันจ่ายแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ส่วนต่างเราจ่ายบานเลย แถมครบปีนึงต้องจ่ายภาษีอีก พูดเลยว่าเราจะหมดตัวเอา ที่เก็บๆ มานี่หายวับ ปวดใจจริงๆ

อยู่อเมริกามา 2 ปี เราเพิ่งไปเที่ยวเองค่ะ เพราะกลัวว่า ถ้าแม่เรียกกลับไทย เราจะเสียใจมากที่มาถึงนี่แล้วไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยเราอยากเข้า Culinary School ไวๆ ก็เลยอยากเก็บเงินให้ได้ครบในระยะเวลาที่เร็วที่สุด เพราะค่าเทอมแพงเหลือเกิน แพงโฮกๆ

เราให้เงินพ่อกับแม่ทุกๆ 2 เดือน ให้ได้ไม่มาก เพราะลำพังเราจะอยู่กินก็ยากแล้ว แถมต้องเก็บเงินไปเรียนเองอีกเราคุยกับพ่อแม่ตลอดนะคะ ไม่เคยทิ้งท่าน พ่อเราไม่เคยมีปัญหา สนับสนุนเราให้เราทำตามความฝัน ไม่ต้องห่วงท่านแต่แม่เราสิ อยากให้เรากลับไปดูแลท่าน ท่านแก่แล้ว (แม่เราอายุ 56 ค่ะ ยังแข็งแรงดีมาก)

แม่พูดเสมอว่าเราต้องกตัญญูกับท่าน ซึ่งเราทำอยู่ตลอดนะคะ เราดูแลจิตใจท่าน คุยด้วย ถามไถ่ เป็นเด็กดี แล้วก็ให้เงินท่านใช้บ้าง

เมื่อวานเราคุยกับแม่ แม่บอกเราว่า "ไม่ว่าหนูจะมีเงินเยอะเงินน้อย หนูต้องให้เงินพ่อกับแม่ทุกเดือนนะ
ต้องเจียดมาให้บ้าง ลูกจะได้บุญ มันดีกับตัวลูกนะ"

เราอึ้งอ่ะ เราเสียใจมาก เราถามแม่กลับไปว่า แล้วทุกๆ 2 เดือนที่เราโอนเงินไปให้บ้าง มันไม่ใช่หรอ แม่ก็รู้ว่าหนูเก็บเงินไปเรียนอยู่
งานที่ทำอยู่ก็ไม่ได้ทำเงินขนาดนั้น หนูไม่เคยหวงเงินแม่ ถ้าหนูมีหนูให้แม่มากกว่านี้แน่นอน

แม่บอกว่า ตั้งแต่เรามาอยู่ที่อเมริกา เงินเดือนของเราที่แม่เคยได้มันก็หายไป แต่แม่ก็ไม่ได้ลำบากอะไร แต่แม่อยากออกจากงาน แม่บอกว่า ถ้าเราอยู่ที่ไทยกับท่านตอนนี้ ท่านจะลาออกแล้วให้เราเลี้ยงดูท่าน แต่เราอยู่อเมริกา ท่านเลยลาออกไม่ได้ แถมเราต้องเก็บเงินไปเรียนอีก เลยส่งเงินให้ท่านได้ไม่มาก แล้วแม่ก็บอกว่า "แม่พูดเฉยๆ นะ" แต่สิ่งที่แม่พูดมันทำให้เราคิดว่า "เงิน" คือเครื่องพิสูจน์ความกตัญญูหรอคะ?

เราเสียใจ ไม่รู้จะพูดยังไง เหมือนเราเป็นลูกที่แย่ยังไงไม่รู้ แค่แม่คนเดียวก็ดูแลไม่ได้

ตอนเราเรียนประถมในคาบพุทธศาสนา คุณครูเคยบอกว่า เราตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ด้วยการเป็นเด็กดี ไม่ทำให้พ่อแม่หนักใจแค่นั้นก็ดีมากแล้ว นี่เราเป็นเด็กดี เชื่อฟัง ไม่เคยทำให้พ่อแม่หนักใจ เรียนดีมาตลอด เป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อแม่ เงินเราก็ส่งให้บ้างยังไม่พออีกหรอคะ? เราเสียใจมาก เพราะเรารักแม่เรามาก เราอยู่ไกล เราทำอะไรมากไม่ได้ แต่ตลอดระยะเวลา 26 ปีที่เราอยู่กับแม่เราดูแลท่านอย่างดีนะคะ ทำทุกอย่างเท่าที่ลูกที่ดีคนนึงจะทำได้ แล้วก็ทำทุกอย่างที่แม่ต้องการด้วย

ต้องให้เราทิ้งฝัน ทิ้งชีวิตที่เราเลือกเดิน แล้วกลับไปอยู่กับแม่ ดูแลท่านจนลมหายใจสุดท้าย ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า อาจเป็นเราที่ไปก่อนแม่ก็ได้

เราเคยถามแม่ว่า ถ้าเรากลับไป เราไม่ได้ทำตามฝัน แล้วเราตายก่อนแม่ แม่จะรู้สึกผิดไหมที่แม่ไม่ให้เราทำในสิ่งที่เราอยากทำแม่เงียบ แล้วไม่เคยตอบคำถามนี้เลย

ตอนนี้เราสับสน เราเสียใจ แต่เราหาทางออกที่ดีให้กับปัญหานี้ไม่ได้เลยค่ะ เราอายุจะ 29 แล้ว อีกไม่กี่ปีเราก็จะมีครอบครัวเป็นของตัวเองเราเพิ่งเริ่มชีวิตของเราเอง เราเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากเพราะเราต้องตัดสินใจเองทุกเรื่อง ไม่มีครอบครัวค้ำจุนที่นี่ เราต้องเข้มแข็งเพื่อตัวเราเองพอมาเจอเรื่องนี้ ไม่รู้จะปรึกษาใคร เราไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่อยากเป็นลูกอกตัญญู แต่เราไม่อยากทิ้งฝันตัวเอง

ถ้าเป็นเพื่อนๆ จะทำยังไงกับปัญหานี้คะ? กลับไทยไปอยู่กับแม่ ทิ้งฝันแล้วใช้ชีวิตเหมือนนกน้อยในกรงทองเหมือนเดิมหรือเดินหน้าทำตามความฝัน ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากทำ ดูแลจิตใจพ่อแม่เท่าที่ทำได้ ไปเยี่ยมท่านตามโอกาส ส่งเงินให้ท่านตามที่เราส่งได้

เราควรเลือกทางไหนดีคะ?


หลังจากนั้นก็มีบรรดาชาวเน็ตเข้ามาคอมเม้นท์กันอย่างมากมาย เช่น


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


เงิน คือเครื่องพิสูจน์ความ กตัญญู จริงหรือเปล่า??


ขอบคุณที่มา ::: Pantip


เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์