เล่อค่า!! 5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

1. ลูกเดือย (job's tears)

เป็นธัญพืชประเภทคาร์โบไฮเดรต เป็นพืชพื้นเมืองแท้ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีเส้นใยอาหารสูง เป็นพืชตระกูลเดียวกับข้าว มีคุณค่าทางอาหารสูง เพราะมีปริมาณโปรตีน 13.84% คาร์โบ-ไฮเดรต 70.65% ใยอาหาร 0.23% ไขมัน 5.03% แร่ธาตุต่างๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะฟอสฟอรัส ซึ่งช่วยบำรุงกระดูก มีอยู่ในปริมาณสูง รวมทั้งวิตามินเอ ที่ช่วยบำรุงสายตา วิตามินบี 1 และวิตามินบี 2 โดยเฉพาะวิตามินบี 1 มีในปริมาณมาก ซึ่งช่วยแก้โรคเหน็บชาด้วย นอกจากนี้ ลูกเดือยยังมี กรดอะมิโน มีกรดไขมันจำเป็นชนิดที่ไม่อิ่มตัว เช่น กรดโอเลอิค และกรดลิโนเลอิก รวมแล้วถึง 84%

เล่อค่า!!  5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

2. ข้าวหอมนิล (Purple Rice)

มีวิตามินบีรวม ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการอ่อนเพลีย แขน ขาไม่มีแรง ปวดกล้ามเนื้อโรคผิวหนังบางชนิดบำรุงสมอง ทำให้เจริญอาหาร ไนอาซีน ช่วยการทำงานของระบบประสาท และระบบผิวหนัง และธาตุเหล็กที่มีอยู่ในข้าวหอมนิลนี้ เมื่อเข้าไปในร่างกายสามารถดูดซึมและนำไปใช้ประโยชน์ในด้านการบำรุงโลหิตได้ทันที

เล่อค่า!!  5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

3. ถั่วแดง (Red Kidney bean)

จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างหนึ่ง โดยโปรตีนที่ได้จากถั่วแดงนั้นมีคุณค่าทางอาหารเทียบเท่ากับเนื้อสัตว์เลยทีเดียว แถมยังไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย การรับประทานถั่วแดงนอกจากจะให้พลังงานแก่ร่างกายที่สูงแล้ว ยังทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้นาน มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีธาตุเหล็ก ที่ช่วยบำรุงโลหิต วิตามินบีหลายชนิด และมีแคลเซียมสูง การรับประทานเป็นประจำสามารถช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันภาวะกระดูกเสื่อม ป้องกันโรคกระดูกพรุน และแคลเซียมยังมีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและการหดตัวของกล้ามเนื้อ เป็นต้น

เล่อค่า!!  5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

4. ถั่วดำ (black bean)

มีสารฟลาโวนอยด์ หรือสารล้างพิษกรัมต่อกรัมสูงที่สุด รองลงมาเป็นถั่วสีแดง น้ำตาล เหลืองและขาวตามลำดับ เพราะในถั่วดำนั้นมีสารสำคัญอย่างแอนโทไซยานินส์ ซึ่งนับเป็นตัวล้างพิษชั้นดี โดยเมื่อเทียบกับการกินถั่วดำในปริมาณเท่ากันกับการกินส้มแล้ว ถั่วดำจะมีปริมาณสารล้างพิษมากกว่าในส้มถึง 10 เท่า เลยทีเดียว คือเทียบได้กับองุ่นและแอปเปิล แต่การทำให้ถั่วดำสุกนั้นก็จะสูญเสียตัวล้างพิษไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถล้างพิษให้ร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเทคนิคการต้มถั่วดำควรนำมาคั่วเพื่อให้หอม แล้วแช่ในน้ำร้อนจัดทิ้งไว้ 3 ชม. หรือน้ำธรรมดาทิ้งไว้ 1 คืน (หรือประมาณ 6 ชม.) แล้วค่อยนำมาต้ม วิธีนี้จะได้ถั่วต้มที่นุ่ม ไม่กระด้าง

 


เล่อค่า!!  5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

5. รำข้าว (rice bran)

ปลายเมล็ดข้าว หรือที่เรารู้จักกันแล้วว่า จมูกข้าว เป็นแหล่งรวมของวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งถ้าผ่านกระบวนการสกัดและผลิตอย่างมีมาตรฐานแล้ว มีวิตามินอีธรรมชาติ ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เต่งตึง ลดจุดด่างดำ ลดริ้วรอย ทั้งยังเป็นสารต่อต้านสารอนุมูลอิสระ และช่วยชะลอวัย แกมมาโอริซานอล เข้มข้นจากน้ำมันรำข้าวเมื่อผ่านกระบวนการพิเศษ จะให้คุณค่าจากสารต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องผิว ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ต้านการอักเสบ ลดคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ ทั้งยังปกป้องและลดการตีบตันของหลอดเลือด วิตามินบี-คอมเพล็กซ์ ช่วยในเรื่องบำรุงประสาท เหน็บชา ช่วยระบบเมตาบอลิซึ่ม แร่ธาตุ อาทิ แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี ช่วยเพิ่มพลังงาน เพิ่มการเผาผลาญ เสริมสร้างการเจริญเติบโตของสมอง และยังเพิ่มการทำงานของระบบฮอร์โมน

เล่อค่า!!  5 ธัญพืชไทยที่ไม่ควรมองข้าม

ทั้งนี้ การบริโภคธัญพืชเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด เราควรเลือกธัญพืชที่ยังไม่ผ่านกระบวนการขัดสี เพราะธัญพืชที่ไม่ผ่านกระบวนการผลิตจะมีสารอาหาร มากกว่าธัญพืชที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขัดขาวคุณค่าทางโภชนาการของมันเหลือไม่ถึงครึ่งของข้าวกล้อง โดยแมกนีเซียมในข้าวกล้องจะมีมากกว่าข้าวขัดขาวถึง 70%


ที่มา บทความจาก อ.ชินริณี วีระวุฒิวงศ์


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์