มเหสีองค์แรกที่ให้พระประสูติกาลโอรสแด่ ร.5 แต่พระองค์ทรงเสียพระจริต

พระองค์เจ้าทักษิณชา ทรงเป็นพระราชธิดาที่ประสูติหลังรัชกาลที่ 4 มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในปีแรก จึงทรงเป็นหนึ่งในสามของพระราชธิดาที่ได้รับพระราชทานสร้อยพระนามจากพระราชบิดาคือ วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม 2557 เวลา 0:00 น. พระองค์เจ้าทักษิณชา หรือ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี ทรงเป็นพระราชธิดาลำดับที่หกในรัชกาลที่ 4 ที่ประสูติแต่เจ้าจอมมารดาจันทร์ (สายสกุลสุขสถิต) ผู้เป็นธิดาของพระยาพิพิธสุนทรการ (สุข สุขสถิต) เจ้าเมืองตราด ทรงมีพระขนิษฐาและพระอนุชาร่วมเจ้าจอมมารดาคือ พระองค์เจ้ามัณยาภาธร พระองค์เจ้าสุขสวัสดี พระองค์เจ้าเกษมศรีศุภโยค พระองค์เจ้าทักษิณชา ทรงเป็นพระราชธิดาที่ประสูติหลังรัชกาลที่ 4 มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติในปีแรก จึงทรงเป็นหนึ่งในสามของพระราชธิดาที่ได้รับพระราชทานสร้อยพระนามจากพระราชบิดาคือ พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์อรรคราชสุดา พระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี พระองค์เจ้าโสมาวดีศรีรัตนราชธิดา ซึ่งพระนามของพระราชธิดาทั้ง 3 พระองค์จะสอดคล้องต้องกันโดยเรียงตามพระชนมายุ รัชกาลที่ 4 ได้ทรงมีพระเมตตาโปรดปรานเป็นพิเศษและยังทรงอบรมเลี้ยงดูด้วยพระองค์เอง มักตามพระทัยและไม่เข้มงวดเคร่งครัดตามโบราณราชประเพณีของการอบรมพระราชนารีเหมือนดังรัชกาลก่อน ๆ ได้โปรดให้เรียนภาษาต่างประเทศ รับสั่งได้เป็นอย่างดีพร้อมทั้งฝึกหัดมารยาทธรรมเนียมของการเข้าสังคมต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองแบบชาติตะวันตก จนสามารถตามเสด็จรัชกาลที่ 4 และทรงงานราชการแผ่นดินถวายพระราชบิดาได้ดี สำหรับพระองค์เจ้าทักษิณชานี้ ถือได้ว่าทรงเป็นพระราชธิดาที่พระราชบิดาทรงสนิทเสน่หา มีพระเมตตาโปรดปรานยกย่องมาก โดยมีบันทึกดังนี้ "...เมื่อพระชันษาได้ 3 ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาราชสุภาวดีสักเลกพระราชทานพระเจ้าลูกเธอพระองค์เจ้าทักษิณชาฯ แต่กรมพระสัสดีกับเอาเลกไปสักไว้กับพระอภัยสุรินทร์ เจ้ากรมพลฝ่ายขวาเป็นเหตุให้ทรงขัดเคืองพระทัยมากถึงแก่ทรงออกเป็นประกาศตักเตือน..." และเมื่อมีพระชันษาสมควรแก่การโสกันต์แล้ว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้จัดเป็นพระราชพิธีโสกันต์เป็นพิธีใหญ่ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เมื่อมีพระชันษาประมาณ 5-7 ปี ได้ทรงประสบอุบัติเหตุขณะโดยเสด็จพระราชบิดาพร้อมพระที่นั่งอีก 3 พระองค์คือ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ (รัชกาลที่ 5) พระองค์เจ้ายิ่งเยาวลักษณ์ พระองค์เจ้าทักษิณชา พระองค์เจ้าโสมาวดี ขณะประทับรถม้าพระที่นั่งเพื่อทอดพระเนตรความเรียบร้อยบริเวณใกล้พระบรมมหาราชวัง สำหรับอุปัทวเหตุครั้งนี้แม้แต่รัชกาลที่ 4 ก็ทรงได้รับบาดเจ็บ แต่ละพระองค์มีความแตกต่างมากน้อยกันไป โดยได้มีบันทึกของรัชกาลที่ 4 ดังนี้ "...ชายจุฬาภรณ์ศรีษะแตกสามแห่งแต่น้อย บางแห่งฟกบวมบ้าง ยิ่งเยาวลักษณ์เท้าเคล็ดห้อยยืนในเวลานี้ไม่ได้ ขัดยอกที่สันหลังด้วย แต่มีแผลเล็กน้อย โสมาวดีก็เป็นแผลบ้าง หลังบวมแห่งหนึ่ง ...แต่ทักษิณชาป่วยมากจะเป็นอะไรทับก็สังเกตไม่ได้ หลังเท้าขวาฉีกยับเยินโลหิตตกมากที่เดียว..." และภายหลังรัชกาลที่ 4 ได้ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึงเจ้าหมื่นสรรเพชรภักดี ความว่า "...ทักษิณชา ลูกข้าค่อยยังชั่วแล้วแต่ยังเดินไม่ได้ กับบางเวลาข้างเท้าและขาข้างดีอยู่นั้นสั่นระทุกไป เขาว่าเป็นเพราะเทพจรไม่เสมอกันทั้งสองข้าง ข้างหนึ่งเป็นแผลใหญ่อยู่จนเทพจรเดินไม่สะดวก จึงกลับมาลงเดินข้างหนึ่งแรงไปกว่าข้างหนึ่ง การก็จะไม่เป็นอะไรดอก เมื่อแผลหายแล้วอาการก็ปกติ..." เมื่อรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติ ได้ทรงรับพระเจ้าพี่นางเธอพระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรี เป็นพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวงพระองค์แรกในรัชสมัยของพระองค์ ทรงมีพระชนมายุมากว่าเพียง 1 พรรษาเท่านั้น แต่ด้วยพระสิริโฉมที่สง่างาม พระอุปนิสัยที่งดงามและพระสติปัญญาที่เฉลียวฉลาด มีพระปรีชาสามารถในหลายด้านสามารถผูกพระทัยของพระองค์ โดยเฉพาะทรงสนิทสนมคุ้นเคยมาตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ทรงเลือกให้รับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าพระองค์แรก และได้ทรงเป็นพระมเหสีที่ทรงรักใคร่โปรดปรานเป็นยิ่งนัก ต่อมาพระองค์เจ้าทักษิณชาได้ทรงพระครรภ์ยิ่งทำ ให้รัชกาลที่ 5 ทรงปลาบปลื้ม เพราะทรงเป็นที่คาดหวังว่าพระราชบุตรที่ จะประสูติจะเป็นเจ้าฟ้าพระองค์แรกในรัชกาล และหากพระราชบุตรเป็น พระราชโอรสก็จะเป็นเจ้าฟ้าพระราชโอรสพระองค์แรกที่ทรงกำเนิดจากพระภรรยาเจ้าชั้นลูกหลวง ถือเป็นเจ้าฟ้าที่อาจจะได้รับการโปรดเกล้าสถาปนาให้เป็นองค์พระรัชทายาทสืบต่อไป และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2415 พระองค์เจ้าทักษิณชา ได้ประสูติพระราชโอรสสร้างความปลื้มปีติในพระราชหฤทัยของพระราชบิดา (รัชกาลที่ 5) กับพระราชมารดายิ่งนัก แต่หลังจากนั้นอีกเพียงแปดชั่วโมงได้เกิดเหตุวิปโยคโศกสลดขึ้น เมื่อเจ้าฟ้า พระราชกุมารสิ้นพระชนม์ลง ได้สร้างความทุกข์โทมนัสอันยิ่งใหญ่ให้กับรัชกาลที่ 5 โดยเฉพาะพระองค์เจ้าทักษิณชา จนทำให้มิอาจทรงปลงพระทัยเชื่อว่าพระราชกุมารที่ดูแข็งแรงเมื่อแรกประสูติจะสิ้นพระชนม์ในเวลาอันสั้น ด้วยเหตุแห่งการสูญเสียพระราชกุมารอย่างกะทันหัน ได้สร้างความเศร้า ปวดร้าวในพระทัยเป็นอันมากจนทำให้พระองค์เจ้าทักษิณชาทรงประชวร จนสูญเสียพระสติ ไม่ทรงยอมรับความจริงหรือรับรู้ในเรื่องราว ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด ทรงจดจำอย่างฝังใจ ทรงมีโลกส่วนพระองค์และมีพระสัญญาด้วยจิตที่มุ่งมั่นเฉพาะเรื่องของพระโอรส ไม่สามารถก้าวข้ามความทุกข์ระทมอันแสนสาหัสจากการสิ้นพระชนม์อย่างกะทันหันของพระราชกุมารได้ ในที่สุดการประชวรยังคงมีอยู่ต่อเนื่องจนพระองค์ไม่สามารถรับราชการเป็นพระภรรยเจ้าได้อีก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่งนักในพระปรีชาและพระสติปัญญาที่เป็นเลิศในเรื่องงานราชการแผ่นดิน ที่ทรงรอบรู้รอบด้านที่สามารถรับใช้สนองคุณพระราชสวามีได้ในหลายเรื่องและด้วยพระเมตตาของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีต่อพระองค์เจ้าทักษิณชาฯ จึงทรงโปรดเกล้าให้พระยาเวียงในนฤบาลสร้างพระตำหนักพิเศษให้ทรงพักผ่อน แต่พระอาการก็ไม่ดีขึ้นแต่อย่างใด ภายหลังจึงได้ย้ายออกจากพระบรมมหาราชวัง เสด็จไปประทับร่วมกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุขสวัสดี กรมหลวงอดิสรอุดมเดช พระอนุชาร่วมเจ้าจอมมารดา ณ วังท้ายวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และต่อมาได้ย้ายอีกครั้งไปประทับร่วมกับพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเกษมศรี ศุภโยค กรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ พระอนุชาร่วมเจ้าจอมมารดาอีกพระองค์หนึ่ง ณ วังตำบลสามเสน จนกระทั่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ.2449 สิริพระชนมายุได้ 53 พรรษา โดยรัชกาลที่ 5 ได้โปรดเกล้าพระราชทานเพลิงพระศพ ณ วัดเทพศิรินทราวาส เมื่อได้พิเคราะห์ถึงพระบุญญาธิการของพระองค์เจ้าทักษิณชาฯ นับได้ว่าทรงเป็นพระราชนารีที่มีดวงพระชะตาสูงส่งตั้งแต่ทรงพระราชสมภพเป็นถึงพระราชธิดาของพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 4) ทรงได้รับการอบรมเลี้ยงดูสั่งสอนด้วยพระองค์เอง (รัชกาลที่ 4) ในพระฐานะพระราชบิดา และเมื่อได้รับเลือกให้เป็นพระภรรยาเจ้า เป็นพระมเหสีของพระมหากษัตริย์ (รัชกาลที่ 5) เป็นพระองค์แรกเพียงพระองค์เดียวในขณะนั้น ได้ทรงปฏิบัติหน้าที่ได้จนเป็นที่สนิทเสน่หาแก่พระราชสวามี เมื่อทรงพระครรภ์ก็ถือได้ว่าทรงก่อกำเนิดพระหน่อแห่งองค์พระมหากษัตริย์ ได้ทรงสร้างความสุข ความหวังแห่งการสืบสายพระโลหิต เพื่อเป็นองค์พระรัชทายาทจนได้ เมื่อได้ประสูติพระราชกุมาร ซึ่งถือเป็นเจ้าฟ้าพระราชโอรสพระองค์แรกในรัชกาลที่ 5 แม้ว่าจะทรงมีพระชนม์ดำรงอยู่เพียงระยะเวลาอันแสนสั้นก็ตาม แต่เมื่อเกิดเหตุแห่งความเศร้าขึ้นเจ้าฟ้าพระราชโอรสสิ้นพระชนม์กะทันหัน จนทำให้พระองค์เจ้าทักษิณชาฯ ที่เป็นพระราชมารดาเสียพระทัยจนสูญเสียพระสัญญา จนไม่สามารถรับราชการเป็นพระภรรยาเจ้าได้อีกเลย แต่เมื่อคำนึงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นถือว่าได้ทรงทำทุกพระหน้าที่ได้ดียิ่ง ทรงรักพระราชสวามี ทรงรักพระราชโอรส ทรงรักในงานราชการแผ่นดิน ทรงถวายงานทุกอย่างตั้งแต่พระราชสมภพในฐานะพระราช ธิดา, พระมเหสี และพระราชมารดา ทรงทุ่มเทด้วยพระทัยอย่างเต็มที่ ทรงรักอย่างสุดรัก ไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้ และทรงเป็นพระราชนารีที่มีพระเกียรติยศสมควรแก่หน้าที่ในทุกพระฐานะที่ทรงเป็นอย่างเต็มพระทัย ด้วยรักอย่างสุดรักตลอดพระชนม์ชีพ ถือเป็นรักสุดรักแห่งพระองค์เจ้าทักษิณชานราธิราชบุตรีอย่างมิเสื่อมคลาย."


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์