อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นได้ทุกเวลา แต่บางครั้งเราเองแทบจะไม่ทราบสาเหตุของอาการปวดหัวที่ว่านี้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร รู้แต่ว่าหากปวดหัวเมื่อไหร่ก็ใช้วิธีทานยาแก้ปวดดักเอาไว้ พร้อมกับการนอนหลับพักผ่อนสักหน่อย พอตื่นขึ้นมาอาการก็จะดีขึ้นเอง
ความเป็นจริงแล้ว สาเหตุการเกิดอาการปวดหัวมีอยู่มากมาย และมีความน่ากลัวที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ ยังมีความแตกต่างของอาการปวดหัวที่เราสามารถสังเกตขั้นต้นก่อนไปพบแพทย์ได้ด้วย เพราะหากเราทราบสาเหตุได้ก่อน โอกาสที่เราจะหายป่วยเร็วขึ้นก็เกิดได้มากกว่า มาดูกันดีกว่าว่าอาการปวดหัวที่คุณเป็นอยู่เข้าข่ายตามนี้หรือไม่
ปวดหัวไซนัส
ผู้ป่วยจะมีอาการเหมือนเป็นหวัดทั่วไปและมีอาการคล้ายปวดไมเกรน เพียงแต่การปวดไซนัสจะรู้สึกปวดหน่วงๆบริเวณหน้าผาก รู้สึกร้อนผ่าวไปที่กระบอกตา และลามลงไปถึงโหนกแก้มด้วย
ปวดหัวคลัสเตอร์
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะรุนแรงแบบข้างเดียว โดยเฉพาะบริเวณหลังลูกตา เบ้าตา หรือขมับ โดยอาการปวดแต่ละครั้งจะมีเวลาไม่นานประมาณ 5 นาที หรือถ้านานที่สุดก็ 3 ชั่วโมง ซึ่งอาการปวดจะเกิดขึ้นบ่อยแต่เป็นเวลาที่แน่นอน นอกจากนี้จะมีอาการร่วมกับการมีน้ำมูกน้ำตาไหล เหงื่อออก ตาแดง หนังตาบวมหรือหนังตาตก โดยจะเป็นหนักเพียงซีกเดียว จนลุกลี้ลุกลนและอยู่ไม่สุข
ปวดหัวตี๊บๆ
ผู้ป่วยมักปวดศีรษะแบบตึ๊บๆ ตื้อๆบริเวณต้นคอและรอบศีรษะในระดับน้อยถึงปานกลาง อาการที่ว่านี้มักมีสาเหตุมาจากความเครียด การพักผ่อนน้อย การใช้สายตามาก หรือเมื่อตำแหน่งศีรษะอยู่ผิดที่ เป็นต้น และมักจะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
วิธีการรักษา เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ลดการใช้สายตาลง ออกกำลังกายลดความเครียด บีบนวดคลายปวดเมื่อยส่วน ในกรณีที่ปวดศีรษะแบบเรื้อรัง ก็ให้ทานยาพาราเซตามอลครั้งละ 500-1,000 ม.ก. หรือแอสไพรินครั้งละ 300 - 600 ม.ก. จะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
ปวดหัวไมเกรน
ผู้ป่วยมักปวดศีรษะแบบตึ๊บๆ ครั้งหนึ่งกินเวลานาน 4 - 7 ช.ม. โดยจะปวดเพียงข้างใดข้างหนึ่ง อาจมีอาการบางอย่างนำ เช่น เห็นแสงวูบวาบ ซึ่งเกิดจากการเสียการทำงานของระบบประสาทแบบชั่วคราว นอกจากนี้ มักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียน แพ้แสง นอนไม่หลับ และซึมเศร้าร่วมด้วย
วิธีการรักษา ต้องหมั่นจัดการความเครียด เช่น คลายกล้ามเนื้อ เล่นกีฬา หรือใช้การฝังเข็มเข้าช่วย ทั้งนี้ต้องหมั่นสังเกตว่าตัวเองมักเกิดอาการปวดศีรษะเพราะอะไร จดบันทึกไว้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลให้คุณหมอช่วยรักษาได้ถูกกรณี
เมื่อทราบแล้วว่าอาการปวดที่เป็นอยู่คืออะไร จะได้หาวิธีการรักษาได้ถูก และทุเลาอาการปวดศีรษะที่เป็นอยู่ได้ เพียงเท่านี้อาการปวดหัวก็ทำร้ายคุณไม่ได้แล้ว
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
