ความโกรธเป็นไฉน (สมเด็จพระญาณสังวร)

"ความโกรธเป็นไฉน" 

" .. ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับกันว่า "โทสะหรือความโกรธเป็นเหตุแห่งความร้อนใจ" ยิ่งกว่าความโลภหรือความหลง โกรธเมื่อใดร้อนเมื่อนั้น แม้ผู้ที่หยาบที่สุด ไม่ต้องใช้ความประณีตพิจารณาเลย ก็ย่อมรู้สึกได้เช่นนั้น 

คนโกรธง่าย โกรธบ่อย อาจจะเกิดความโกรธจนชินได้แต่จะไม่ชินกับผลที่เกิดจากความโกรธ คือจะต้องรู้สึกร้อนเสมอไปไม่ว่าจะโกรธจนชินแล้วเพียงไหน มีตัวอย่างที่เกิดกับทุกคนอยู่ทุกวัน "คือคนขับรถโกรธคนเดินถนน คนเดินถนนโกรธ คนขับรถ" 

แม้คนขับรถจะต้องพบคนเดินถนนทุกวัน วันละหลายครั้ง แต่ก็ต้องเกิดโทสะเพราะกันและกันอยู่เสมอ "เรียกได้ว่าจนเป็นของธรรมดา แต่กระนั้น ทั้งคนขับรถและคนเดินถนนก็คงยอมรับว่า เมื่อเกิดโทสะทุกครั้งก็ร้อนเร่าในใจทุกครั้ง" นี่เป็นผลของความโกรธ ที่จะต้องเกิดคู่ไปความโกรธเสมอไม่มีแยกจากกัน "ความโกรธเกิดขึ้นเมื่อใด ความร้อนใจก็ต้องเกิดขึ้นเมื่อนั้นเสมอ" 

"สามัญชนทุกคนย่อมมีความโกรธ" แต่ความโกรธของทุกคนไม่เท่ากัน นี้เป็นที่รู้กันอยู่ เห็นกันอยู่ ติกันอยู่ ชมกันอยู่ "บางคนโกรธง่าย โกรธแรง บางคนโกรธยาก โกรธเบา" บางท่านเรียกคนประเภทแรกที่โกรธง่าย โกรธแรงว่าเป็นคนมีกรรม และเรียกคนประเภทหลังที่โกรธยาก โกรธเบาว่าเป็นคนมีบุญ 

เหตุผลก็น่าจะอย่างที่รู้กันอยู่ คือ "ความโกรธไม่ทำให้ใครเป็นสุข" มีแต่จะทำให้เป็นทุกข์ ยิ่งโกรธง่าย โกรธแรง ก็ยิ่งเป็นทุกข์บ่อย เป็นทุกข์มาก ลองดูใจตนเองเสียบ้าง ก็จะเห็นความแตกต่างของจิตใจ เวลาโกรธกับเวลาไม่โกรธ 

เช่นในขณะนี้ หากผู้ใดกำลังโกรธอยู่ก็ให้หยุดคิดถึงเรื่องหรือบุคคลที่ทำให้โกรธเสียสักระยะ "ย้อนกลับเข้ามาดูใจตนเอง เมื่อกำลังโกรธ" ดูเข้ามาก็ย่อมจะเห็นว่ากำลังโกรธ เมื่อดูเห็นว่ากำลังโกรธแล้ว ก็ดูให้เห็นว่ามีความร้อนพลุ่งพล่านอยู่ในใจหรือไม่ "ซึ่งจะต้องเห็นว่ามีความโกรธก็ต้องมีความร้อน โกรธมากก็ร้อนมาก โกรธน้อยก็ร้อนน้อย" .. " 

วิธีฝึกใจไม่ให้โกรธ 
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙ 
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11471

ความโกรธเป็นไฉน (สมเด็จพระญาณสังวร)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์