1. บุคคลที่มีอาการตกขาวผิดปกติ มีเลือดออกในช่องคลอด ช่องคลอดมีกลิ่น ปวดท้องน้อย สงสัยว่ามีก้อนหรือสิ่งผิดปกติภายใน ท้องนอกมดลูก
2. บุคคลที่มีโรคทางเพศสัมพันธ์ หรืออาการมีน้ำในช่องท้อง
3. บุคคลที่มีอายุตั้งแต่ 30 ปีขึ้นไป
4.การตรวจภายในสามารถทำได้ในผู้หญิงทุกคนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงคนแก่ที่หมดประจำเดือนไปแล้ว
การตรวจภายในจะทำการตรวจเกี่ยวกับ ต่อม Bartholin และต่อม Skene เป็นต่อมที่ช่วยในการหลั่งสิ่งหล่อลื่นภายในช่องคลอด และเป็นจุดเริ่มต้นของการเกิดกลิ่นด้วย การตรวจการหย่อนของผนังช่องคลอด การหย่อนของหูรูดกระเพาะปัสสาวะ การเล็ดของน้ำปัสสาวะขณะเบ่งหรือไอ การเคลื่อนตัวออกจากตำแหน่งปกติของมดลูก การปลิ้น รอยฉีกขาด และหนองภายในรูมดลูก หรือตรวจเนื้องอกภายในรังไข่และท่อรังไข่ เป็นต้น
การเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน
1. การให้ข้อมูลแก่แพทย์ตามความเป็นจริงเป็นสิ่งที่สำคัญมากได้แก่ ประวัติการมีเพศสัมพันธ์ การใช้ยาคุม การมีบุตร หรือการทำแท้ง ยิ่งคุณสามารถให้ข้อมูลได้ละเอียดมากเท่าไร ก็จะยิ่งเอื้อประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคได้เท่านั้น
2. การเตรียมความพร้อมของร่างกาย พยายามขับถ่ายของเหลวอย่างปัสสาวะที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายออกให้หมด เพื่อที่แพทย์จะได้สามารถตรวจมดลูกและปีกมดลูกได้อย่างชัดเจน
3. ไม่ควรจะสอดยามาเอง เนื่องจากจะทำให้มียาเต็มในช่องคลอดจนไม่สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้
4. ไม่ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดลึกเข้าไปในช่องคลอด โดยเฉพาะก่อนที่จะมาตรวจมะเร็งปากมดลูก ไม่ควรล้างลึกด้วยน้ำยาเด็ดขาด เพราะความเป็นกรดด่างของน้ำยาจะส่งผลให้เซลล์ภายในช่องคลอดถูกล้างออกไปจนหมด และไม่สามารถตรวจความผิดปกติได้
5. งดเว้นการตรวจในช่วงมีประจำเดือน โดยช่วงการตรวจที่ดีที่สุดคือ หลังจากการมีประจำเดือนประมาณ 5 วัน เนื่องจากเลือดประจำเดือนจะรบกวนการตรวจของแพทย์ แต่ถ้าหากเป็นอาการผิดปกติที่เกี่ยวกับการมีเลือดออกที่ไม่ใช่ประจำเดือน ให้รีบไปตรวจหาความผิดปกติเลยทันที
6. ไม่จำเป็นต้องงดน้ำหรืองดอาหาร เพราะการตรวจภายในไม่เกี่ยวข้องกับการตรวจเลือดหรือตรวจสุขภาพภายในอวัยวะสืบพันธ์
7. ไม่ควรเล่นกีฬาหรือเดินทางไกลก่อนการตรวจ
8. ควรงดการมีเพศสัมพันธุ์ก่อนการตรวจอย่างน้อย 2 วัน
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
