ภัยร้ายรายวัน : น้ำใจจากคนแปลกหน้า!

พ่อ แม่มักจะสอนลูกๆ ที่ยังเล็กให้ระวังคนแปลกหน้า ที่เข้ามาชวนพูดคุย ซื้อขนมหรือของเล่นให้ เพราะผู้ใหญ่เชื่อว่าคนแปลกหน้าพวกนั้นมีจุดประสงค์ที่ไม่ดี อาจต้องการล่อลวงพาเด็กไปขาย หรือใช้แรงงานอย่างทารุณ

แต่เมื่อโตขึ้น ทุกคนมักจะมองข้ามอันตรายจากคนแปลกหน้า เพราะคิดว่าตัวเองมีความระมัดระวัง รู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมของคนแปลกหน้า จนถึงกับไว้เนื้อเชื่อใจคนที่เพิ่งพูดคุยกันไปได้ไม่นาน ด้วยเหตุผลต่างๆ เช่น คุยถูกคอ รสนิยมที่ใกล้เคียง หรือภูมิลำเนาเดียวกัน ซึ่งล้วนแต่เป็นเทคนิคการพูดคุยตีสนิทของมิจฉาชีพในรูปคนแปลกหน้าเพื่อให้เหยื่อเชื่อใจ!

อย่างในกรณีของวัยรุ่นหญิงคนหนึ่ง ที่เดินทางเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ และจะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่ต่างจังหวัดเพียงลำพัง เธอใช้บริการรถประจำทางบขส. หรือรถทัวร์ โดยเดินทางในระยะไกล ซึ่งเธอเลือกรถนั่งปรับอากาศ

เมื่อเธอไปถึงสถานีขนส่งแห่งหนึ่งและขึ้นรถ เธอพบว่าคนที่นั่งข้างๆ เป็นชายวัยประมาณ 30-35 ปี เดินทางคนเดียวเหมือนกับเธอ ชายคนนั้นยิ้มให้และเธอยิ้มตอบตามมารยาท ระหว่างการเดินทาง ชายคนนั้นชวนเธอพูดคุยอย่างสุภาพหลายเรื่อง เขาถามเธอว่าเป็นคนจังหวัดใด เมื่อเธอตอบเขาก็อ้างว่าเป็นคนจังหวัดเดียวกัน

ในตอนนั้นเธอรู้สึกว่าคุยกับชายคนดังกล่าวได้ถูกคอ เธอเชื่อว่าเขาเป็นคนจังหวัดเดียวกับเธอ เพราะรู้ท่าทางหมายแห่ง แต่ในใจก็ไม่ได้คิดถึงขั้นสนิทสนมอะไร

จนเมื่อรถจอดพักที่จุดพักรถ และให้ผู้โดยสารลงไปพักทานอาหาร ทำธุระส่วนตัว ชายคนดังกล่าวชวนเธอให้ลงไปทานอาหาร เธอปฏิเสธ แต่ฝากเงินให้ชายคนดังกล่าวซื้อนมกล่องและน้ำดื่มมาให้ โดยไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายใดๆ เกิดขึ้นตามมา เพราะเชื่อว่าคนบ้านเดียวกัน คงจะไม่ทำร้ายกันเอง

เมื่อชายคนดังกล่าวกลับขึ้นรถ เขาส่งนมกล่องและน้ำดื่มตามที่เธอสั่ง ทั้งกล่องนมและฝาขวดน้ำไม่มีรอยเปิด เธอจึงดื่มจนหมด จากนั้นไม่นาน เธอรู้สึกเวียนหัว ครึ่งหลับครึ่งตื่น หมดแรง ในขณะที่เธอยังรู้สึกตัวยังไม่หลับ เธอถูกชายคนดังกล่าวลวนลาม ลูบคลำส่วนต่างๆ รวมทั้งของสงวน แต่เธอไม่มีแรงแม้แต่จะร้องให้ใครช่วย ประกอบกับเดินทางในเวลากลางคืน ซึ่งผู้โดยสารคนอื่นๆ หลับกันหมด หลังจากนั้นเธอก็หมดสติไป

เธอรู้สึกตัวอีกครั้งตอนที่อยู่โรงพยาบาล ญาติของเธอที่มาดูแล เล่าว่า พนักงานประจำรถพบเธอนอนหมดสติ เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น จึงพาส่งโรงพยาบาล แพทย์แจ้งว่าเธอโดนวางยาสลบ แต่ยังโชคดีที่ไม่มีร่องรอยการถูกข่มขืน

ประสบการณ์ร้ายข้างต้น น่าจะทำให้หลายคนฉุกคิดขึ้นมาบ้าง เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นเด็กหรือคิดว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ คนแปลกหน้าก็ยังเป็นอาจจะเป็นภัยแก่ตัวคุณได้ ดังนั้น การไม่ไว้ใจคนแปลกหน้า คือ หนทางป้องกันภัยเบื้องต้นได้ดีที่สุด.