เชื่อก็ไม่ดี ไม่เชื่อก็ไม่ดี

เชื่อก็ไม่ดี ไม่เชื่อก็ไม่ดี


เชื่อก็ไม่ดี ไม่เชื่อก็ไม่ดี


มนุษย์ส่วนมาก มีความคิดอยู่สองอย่าง คือ เชื่อ กับ ไม่เชื่อ

หากสิ่งนี้เกิดขึ้นจริงมีเหตุผล นั้น คือ เชื่อ

หากสิ่งนี้ไม่มีจริงสัมผัสไม่ได้ ไร้ซึ่งเหตุผล นั้น คือ ไม่เชื่อ


แต่ความเชื่อและไม่เชื่อ เหล่านี้

จึงทำให้ ความคิดถูกชี้นำและคล้อยตาม

สิ่งที่มีผู้ชี้นำ ผู้นั้น เรียกว่าครูหรือผู้สอนแนวทางของสิ่งนั้น

เพื่อเราจะสามารถ คิดได้เอง

ดังนั้น มนุษย์ในโลกส่วนมาก ณ ปัจจุบัน

จึงเปรียบเสมือน ยืนอยู่ ในโลกแบน

เพราะ การที่มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน


ต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง

บ้านเหมือนกัน, ทำงานเหมือนกัน,

หน้าตาคล้ายกันจากการทำศัลยกรรม

ความเป็นเอกลักษณ์ในปัจเจกบุคคล

จึงค่อยๆ หายไป

ไม่มีบ้านสไตล์ ยุโรป

อาหารไทย

หน้าคนไทย หรือ ฝรั่ง อีกต่อไปเเล้ว

เพราะเราจะเป็นใครยังไงก็ได้

ขอบเขตไม่มีขีดจำกัดของ มนุษย์ในโลกปัจจุบัน


ท้ายที่สุด มนุษย์ จึงเหมือนหุ่นยนต์

ที่สามารถโปรแกรม หน้าตา ความรู้ อย่างที่ตนเองอยากได้

ไม่ใช่เพราะตนเอง คิดได้

แต่เป็นการ ลอกเลียนแบบความคิดของผู้อื่น


แฟชั่น, หนังสือ, ศาสนา ล้วนมีพื้นฐานเดียวกัน

แต่มันแตกออกจากความเชื่อที่ต่างกัน หาใช่สิ่งใหม่อีกต่อไป

ดังนั้น ทุกสิ่งในโลก ไม่ควรที่จะ เชื่อหรือ ไม่เชื่อ

เพราะ มันไม่ใช่วัตถุประสงค์


จิต ที่ดี เกิดจากการเรียนรู้ ไม่ใช่จดจำ

เมื่อเราต้องการเป็น คนที่พิเศษ ไม่เหมือนใคร

ก็จงอย่า เป็นเหมือนใคร

แค่ "รู้" เป็นพอ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์