7 ช่วงเวลาที่ไม่ควรงีบหลับไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!!

บางครั้งการงีบหลับอาจเป็นสิ่งจำเป็นเนื่องจากให้ความรู้สึกดีๆเมื่อคุณได้พักเหนื่อย ช่วยเพิ่มพลังงาน และทำให้พลังสมองของคุณดีขึ้น แต่ก็มีบางครั้งที่คุณไม่ควรงีบหลับต่อให้ต้องการมากแค่ไหนก็ตามเนื่องจากอาจจบลงด้วยความรู้สึกที่แย่กว่าเดิมรวมถึงประสิทธิภาพในการทำงานลดลงด้วย และนี่คือ 7 ช่วงเวลาที่คุณไม่ควรงีบหลับไม่ว่าจะต้องการมากแค่ไหนก็ตาม

1. ช่วงเช้า

คุณไม่ควรงีบหลับตอนไหนเลยยกเว้นช่วงเวลาตั้งแต่ 12.00 น.-15.00 น. เนื่องจากจะทำให้คุณหลับยากในตอนกลางคืน

2. ช่วงบ่ายแก่ๆหรือตอนเย็น

หากคุณต้องการงีบหลับจริงๆควรเลือกเวลาสักบ่ายโมงแทนที่จะสายกว่านั้นโดยเฉพาะถ้าคุณเป็นพวกนอนหลับยากอยู่แล้ว การงีบหลับจะลดแรงกระตุ้นในการนอนตอนกลางคืน แต่มีข้อยกเว้นในกรณีทำงานที่ต้องอาศัยสมาธิ เช่น การขับรถ งานให้บริการด้านสุขภาพ เป็นต้น

3. เมื่อคุณเดินทางข้ามโซนเวลาและมาถึงในช่วงบ่าย

การพยายามทำตัวให้ตื่นหลังจากที่ต้องเดินทางมาอย่างยาวนานพร้อมอาการเจ็ทแล็กไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับมิฉะนั้นคุณจะเสียใจในภายหลังเนื่องจากนาฬิกาชีวิตของคุณจะฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหากหลีกเลี่ยงการงีบหลับ คุณควรไปออกกำลังกายรับแสงแดดทันทีที่มาถึง

4. ก่อนทำงานที่ต้องอาศัยสมาธิ

หากคุณมีกิจกรรมที่ต้องอาศัยความตื่นตัวอย่างเต็มรูปแบบ ขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการงีบหลับ การตื่นนอนหลังงีบหลับจะทำให้คุณรู้สึกมึนงงและประสิทธิภาพในการทำงานลดลงเนื่องจากอาการนอนไม่เต็มตื่น โดยเฉพาะการขับรถจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

5. หากคุณมีอาการนอนไม่หลับ

การงีบหลับทั้งๆที่นอนไม่หลับอาจทำให้คุณหลับตาลงได้แต่สุดท้ายก็แค่ขยายวงจรออกไปและทำให้คุณนอนไม่หลับอีกในภายหลัง

6. หากคุณได้นอนมาแล้วทั้งคืน

อย่าเพิ่งคลานขึ้นบนเตียงหากพบว่าตัวเองอยากงีบหลับอีกครั้งหลังจากที่ได้นอนมาแล้วทั้งคืน คุณต้องใส่ใจกับอาการนี้เนื่องจากถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆคุณจะเริ่มนอนกรน เหนื่อยหอบ หรือสำลักในตอนกลางคืนซึ่งอาจทำให้หยุดหายใจขณะหลับได้ หากคุณยังรู้สึกเหนื่อยล้าหลังจากที่พักผ่อนมาเต็มที่แล้ว ขอแนะนำว่าควรเข้ารับการตรวจร่างกายโดยด่วน

7. หากนานกว่า 20 นาที

การงีบหลับในช่วงเวลาแป๊บเดียวนั้นไม่เป็นไร แต่ควรหลีกเลี่ยงการงีบหลับนานกว่า 15-20 นาที มิฉะนั้นคุณจะเข้าสู่ช่วงหลับลึกและตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่แย่กว่าเดิม