เปิดชัดๆ ข้อกฎหมาย ‘แจ้งความเท็จ’ ถ้า “ครูจอมทรัพย์” เอี่ยวโทษสูง 3 ปี


เปิดชัดๆ ข้อกฎหมาย ‘แจ้งความเท็จ’ ถ้า “ครูจอมทรัพย์” เอี่ยวโทษสูง 3 ปี

คดีพลิก โลกโซเชียลมีเดียสั่นสะเทือน ภายหลังศาลฎีกายกคำร้องกรณีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร หรือ "ครูจอมทรัพย์" อายุ 55 ปี อดีตข้าราชการครู ที่เคยตกเป็นจำเลยและถูกจำคุกคดีขับรถชนคนตาย ขอรื้อฟื้นคดี โดยศาลเห็นว่า ผู้ร้องไม่มีพยานหลักฐานใหม่อันชัดแจ้งและสำคัญแก้คดีที่แสดงว่าผู้ร้องไม่ได้กระทำความผิด

เพราะก่อนหน้านี้ดูเหมือนสังคมจะเทความสงสารไปให้ "ครูจอมทรัพย์" กันทั้งหมด และโจมตีถึงการทำงานของตำรวจที่ไม่รอบคอบ ตามพื้นฐานคนไทยที่เห็นอกเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่า ในขณะที่ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของตำรวจเองก็ค่อนข้างติดลบ

แต่เมื่อศาลฎีกายกคำร้อง "Momentum" เลยเปลี่ยน เพราะถ้าอ่านคำวินิจฉัยของศาลจะเห็นรายละเอียดข้อปลีกย่อย ข้อสังเกต เหตุผล ที่มีน้ำหนักเอามากๆ มากกว่ากูรูในโลกโซเชียลมีเดียที่พยายามหาเหตุผลมาหักล้างกันเองก่อนหน้านี้

ทำให้ตอนนี้จากที่ "ครูจอมทรัพย์" คือ เหยื่อของกระบวนการยุติธรรมในสายตาคนไทย ตาลปัตรมาเป็นผู้ที่คนไทยเคลือบแคลงสงสัยว่า มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องนี้ด้วยหรือไม่

เพราะถ้าอ่านคำพิพากษาของศาลจะเห็นว่า เหตุที่ยกคำร้อง เพราะอาจมีขบวนการว่าจ้างให้รับสมอ้างว่า เป็นคนขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของผู้ตายในวันเกิดเหตุ ไม่ใช่ "ครูจอมทรัพย์"

เมื่อคำพิพากษาออกมาในลักษณะนี้ก็เข้าทาง "เจ้าที่ตำรวจ" ที่ถูกโจมตีว่า เป็น "ผู้ร้าย" ในคดีนี้มาตลอด ที่จะพิสูจน์ตัวเอง โดยล่าสุดพล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผบก.ภ.นครพนม ได้สั่งการให้คณะทำงานเกี่ยวกับการคลี่คลายคดี "ครูจอมทรัพย์" หลังศาลมีคำพิพากษาเพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มขบวนการที่รับจ้างทำผิดแทน 3 โรงพัก

เบื้องต้นตำรวจจะดำเนินคดีกับนายสุริยา นวลเจริญ หรือ "ครูอ๋อง" เพื่อนสนิทของ "ครูจอมทรัพย์" ที่เคยนำพยานหลักฐานสำคัญ มายืนยันต่อพนักงานสอบสวน ว่า "ครูจอมทรัพย์" ไม่ได้ทำผิด และ "นายสับ วาปี" ที่อ้างว่าเป็นคนขับรถตัวจริง

โดยมีการแจ้งความเอาผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานความผิดแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน รวม 3 มาตรา คือ มาตรา 137 มาตรา 172 มาตรา 173 ส่วนคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รอการขยายผล หากเกี่ยวข้องจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด

ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ขยายผลว่า "ครูจอมทรัพย์" รู้เรื่องนี้หรือไม่

แต่ถ้าวันหนึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า เกี่ยวข้องถือเป็น "คราวซวย" เพราะ "ครูจอมทรัพย์" เพิ่งจะพ้นโทษออกมา หลังถูกจำคุกมา 1 ปี 6 เดือน แถมเรื่องการกลับเข้ารับราชการอีกครั้งอาจจะ "ริบหรี่" ไปด้วย

เพราะโทษที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาผิดในครั้งนี้คือ ประมวลกฎหมายอาญา 3 มาตรา ประกอบด้วย มาตรา 137 ที่ระบุว่า "ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

มาตรา 172 "ผู้ใดแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานอัยการ ผู้ว่าคดี พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

และมาตรา 173 "ผู้ใดรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี และปรับไม่เกินหกหมื่นบาท"

จาก 3 มาตรา โทษสูงสุดของการให้การเท็จ แจ้งความเท็จคือ "จำคุก 3 ปี" นั่นคือ จำนวนโทษที่ศาลเคยตัดสินจำคุกในคดีขับรถชนคนตายเมื่อครั้งก่อน

กราฟชีวิตขึ้นๆ ลงๆ จาก "แพะ" ในสายตาประชาชนที่มีแต่คนเห็นใจ กลายเป็น "จำเลย" ของสังคมที่ทุกคนต่างกำลังเคลือบแคลง.

Cr::: tnews.co.th



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
รวมข่าวในกระแส คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์