เงิน

เงิน


เงิน
"เขาให้เงินก็อย่างง อย่าไปหลงจนสุดขีด เงินก็เหมือนพวงมาลัยอาจจะกลายเป็นพวงหรีด" นี่คือคติธรรมที่ท่านพระครูพจนโสภณวัดมหรรณพารามท่านเขียนเอาไว้
พระพุทธเจ้ายังตรัสกับพระอานนท์ว่า "นั่นเป็นงูเห่าเป็นอสรพิษ ที่จะขบกัดคนเสมอ การทำอะไรก็ตาม ต้องระวังเรื่องเงิน"

พระสงฆ์ก็เหมือนกันเขาบอกว่า พระสงฆ์มีเสียอยู่ ๒ อย่าง ไม่ผู้หญิงก็เงิน

แต่ผู้หญิงที่จะมาเพราะอะไรเพราะเขารู้สึกว่า พระรูปนั้นมีเงิน บอก "ถ้าไม่มีเงินสักอย่าง ใครเขาจะมาข้องแวะกับเรา" ประกาศไปสิว่า เราไม่มีสตางค์ และบางทีเรามีสตางค์ แต่เราแสดงว่าไม่มีสตางค์ และพวกธนาคารรู้ว่า เรามีสตางค์ ก็ผู้หญิงที่ธนาคารนั่นแหละ ก็มักจะมาป้วนเปี้ยนกับพระ เณร ที่มีเงิน กับเจ้าอาวาสที่มีเงิน เพราะฉะนั้น ในเรื่องเงินนี้ ทำให้คนเสียมานักต่อนักแล้ว

ดังนั้นในการที่ยุ่งเกี่ยวกับการเงิน จะต้องไม่หลงเงิน เราจะต้องพิจารณาว่า เงินนั้นเป็นเพียงปัจจัยอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้เกิด

ปัจจัย ๔ คือ ข้าว ผ้า ยา บ้าน เป็นเรื่องของการใช้สอยเท่านั้นเอง ดังนั้นในการบริหารงาน ถ้าผู้บริหารงานเห็นแก่เงิน ก็จะใช้เจ้าพนักงานอย่างทาส ถ้าผู้บริหารหลงเงิน ก็จะเอารัดเอาเปรียบลูกน้องในปกครองของตนเอง ตรงนี้รับรองได้ว่า การเบียดบังเงินทอง ใช้แรงงานลูกน้อง โดยที่เราไม่อุดหนุนจุนเจือเขา ให้เขาอยู่ได้ นั้น อย่านึกว่าเราอยู่ได้ ไม่มีใครอยู่ได้

อย่าว่าแต่ระดับล่างเลย

ถ้าเราดู รัสเซีย ดูฝรั่งเศส ดูสถาบันกษัตริย์ในต่างประเทศ ล้มระเนระนาดใช่ไหม เกิดจากอะไร เกิดจากการเอาเปรียบราษฎร หลงเมามัวเรื่องเงิน กินใช้จ่ายจนเพลิดเพลินเจริญใจ แล้วผลที่สุดก็ไปกดขี่ขูดรีดเอากับราษฎร ผลที่สุด สถาบันกษัตริย์ในต่างประเทศจึงอยู่ไม่ได้ เพราะขาดหลักการข้อแรกใน ทศพิธราชธรรมคือ"การให้" ได้แก่"ทาน"

ดังนั้นในการที่เราบริสุทธิ์ในเรื่องเงิน ไม่เมามัวเรื่องเงิน จะทำให้การบริหารงานของเราอยู่ได้ และระดับล่างอย่านึกว่าเขาไม่รู้ว่า เราโกงเขา ถ้าไม่รู้เป็นนายเราไม่ได้ อย่าประมาทคนที่เป็นนายเราว่า "โง่" ใครประมาทว่านายโง่ แล้วโกงเงินนายนั้น คนนั้นไปไม่รอดสักคน


"เก่งกว่านาย โกงนาย วอดวายทุกคน


กดลูกน้องโกงลูกน้อง น้ำตานองทุกคน"




แหล่งที่มา : พระราชวิจิตรปฏิภาณ(เจ้าคุณพิพิธ)

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์